พฐ.เข้าตรวจสอบ ‘เมาน์เทนบี’ เร่งหาปมไฟไหม้ พบเดินสายไฟผิดมาตรฐาน

จากกรณีเหตุโศกนาฏกรรมไฟไหม้ผับ เม้าส์เทน บี ( MOUNTAIN B ) ริมถนนสาย สุขุมวิท บางนา-ตราด ม.7 ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ขณะเกิดเหตุมีนักท่องราตรีกำลังใช้บริการกว่าร้อยชีวิต เพลิงลุกลามอย่างรวดเร็ว มีผู้เสียชีวิตแล้ว 14  ราย บาดเจ็บจำนวนมาก


เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 6 ส.ค.2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจะเข้าตรวจสถานบันเทิงดังกล่าว โดยจะตรวจสอบแผงวงจรไฟฟ้า และเตรียมรื้อถอนหลังคา เนื่องจากมีความเสี่ยงที่จะพังทลายลงมา ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีใครยืนยันว่าสาเหตุไฟไหม้นั้นเกิดจากอะไร


เบื้องต้นจากการตรวจสอบพบว่า แผงวงจรไฟฟ้ายังเปิดทำงานอยู่ขณะเกิดเหตุ เมื่อตรวจสอบเส้นทางสายไฟที่นำไปใช้ภายในผับ พบว่าเชื่อมต่อจากหน้าร้านผ่านต้นกล้วยเข้าไปในผับ ซึ่งถือว่าเป็นการเดินสายไฟที่ผิดมาตรฐาน มีความเสี่ยงที่ทำให้เกิดอันตรายได้ ส่วนประเด็นไฟฟ้าลัดวงจรนั้น อยู่ระหว่างการตรวจสอบ เนื่องจากพยานในที่เกิดเหตุยืนยันว่า ได้ยินเสียงดังมาจากบริเวณข้างลำโพงแล้วเกิดประกายไฟ


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณหน้าผับ ตำรวจ สภ.พลูตาหลวง ส่งตำรวจมาดูแลความเรียบร้อยตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมาจนถึงช่วงเช้า ขณะที่บริเวณโดยรอบด้านหน้าของผับซึ่งเป็นจุดหนีตาย ยังมีร่องรอยของผมที่ถูกไฟไหม้ของผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิต รวมถึงเศษซากเสื้อผ้ารองเท้าและคราบเลือด สร้างความสลดหดหู่ให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้พบเห็น


ขณะที่เจ้าหน้าที่โยธาลงพื้นที่ตรวจสอบ พบว่า โครงสร้างไม่แข็งแรง มีการแอ่นตัว ตอนนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่าต้นเพลิงเกิดจากจุดใด หลังจากที่ พฐ.ได้อยู่ระหว่างตรวจสอบ ส่วนที่เห็นกลุ่มควันออกจากหลังคา ระหว่างที่พฐ.ลงพื้นที่ เกิดจากทางผับได้ทำกรุฉนวนกันเสียงไว้ จึงทำให้เกิดกลุ่มครึกรุ่นขึ้นมา เนื่องฉนวนเป็นสารไวไฟ


ทางด้านเจ้าของร้าน ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุช่วงกลางวัน ทางผับมีการเรียกช่างไฟฟ้ามาซ่อมระบบไฟที่เพดาน มีการเดินสายไฟ เนื่องจากไฟตก ติดๆ ดับๆ เมื่อถึงเวลาทางผับได้เปิดร้านตามปกติ และมีลูกค้ามาใช้บริเวณแน่นร้าน

กระทั่งเวลาประมาณ 00.40 น. มีประกายไฟเกิดขึ้น แต่ยังไม่รู้ว่ามีการเดินสายไฟไปใกล้กับจุดเกิดต้นเพลิงหรือไม่ ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบ และยังสันนิฐานไม่ได้ว่า จุดที่ทำระบบไฟกับจุดที่เกิดประกาย จะเป็นจุดเดียวกันหรือไม่


 เบื้องต้นเจ้าของกิจการให้การว่า สถานที่ดังกล่าว ขออนุญาตก่อสร้างเป็นร้านอาหาร มีการจำหน่ายสุรา และขออนุญาตถูกต้องจากทางอำเภอ แต่จากการตรวจสอบร่วมกับกองช่าง พบว่าภายหลังก่อสร้างมีการดัดแปลง ให้เป็นสถานที่ปิด ซึ่งตามหลักการก่อสร้างหากมีการต่อเติมถือว่าผิดกฎหมาย เพราะต้องได้รับอนุญาตจากทางเจ้าหน้าที่

--------------------------------------------------------

‘อ.อ๊อด’ สาธิตจุดไฟแผ่นซับเสียงคล้ายในผับ ‘MOUNTAIN B’ เผยติดไฟง่าย ชี้ควรมีระบบสปริงเกอร์ และเครื่องตรวจจับควัน

วานนี้ (5 ส.ค.) อ.อ๊อด รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ อาจารย์และนักวิชาการสาขาเคมีอินทรีย์ ม.เกษตรศาสตร์ กล่าวถึงกรณีเกิดโศกนาฏกรรมเพลิงไหม้ผับ “MOUNTAIN B”  ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนับว่าเป็นอุทาหรณ์หลายอย่าง โดยวัสดุที่ใช้ในผับเป็นเชื้อเพลิงที่ดีมาก เป็นกลุ่มเชื้อเพลิงอ่อน โดยเฉพาะแผ่นซับเสียงที่ใช้ในการเปิดคอนเสิร์ต ไม่ได้ใช้ตามประกาศกฎกระทรวงมหาดไทยที่ระบุชัดเจนว่า แผ่นซับเสียงหรืออุปกรณ์ภายในจะต้องทนความร้อนได้เกิน 750 องศาเซลเซียส และอุปกรณ์ทุกอย่างต้องเป็นสเปคที่ติดไฟยาก หรือหากติดไฟแล้วต้องมีอัตราการเกิดควันน้อย แต่เท่าที่ทราบจากข่าวรวมทั้งนักดนตรีบอกเอง ว่าเป็นแผ่นซับเสียงหรืออุปกรณ์ติดไฟค่อนข้างง่าย

ก่อนที่ อ.อ็อด จะหยิบแผ่นซับเสียงขึ้นมา พร้อมบอกว่า อันนี้หาซื้อได้ทั้่วไปตามร้านอิเล็กทรอนิกส์ หรือว่าที่ต้องการเอาไปซับเสียงลดแรงปะทะของเสียงตามผนัง ซึ่งตัวนี้มีราคาถูกกว่า  จากนั้น อ.อ็อด ได้สาธิตการจุดไฟลงบนแผ่นซับเสียง จนเกิดไฟและควันสีดำเกิดขึ้น  อ.อ๊อด บอกอีกว่า เวลาเกิดไฟไหม้ ตัวผนัง ฝ้าจะเกิดก่อน รวมถึงในผับมีความมืด ควันจากข้างบนลงมาข้างล่าง ก็จะทำให้สำลักควันก่อน และทำให้การออกจากประตูในพื้นที่แคบๆ ยากลำบาก


ทั้งนี้ ขอให้เป็นอุทาหรณ์ ซึ่งนี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่เกิดโศกนาฏกรรมใหญ่ ไฟไหม้ในผับที่มีระบบซับเสียง มีเรื่องของเชื้อเพลิงอ่อนที่ติดไฟได้ง่าย ซึ่งในต่างประเทศน่าจะมีตัวซับเสียงที่เป็นอุปกรณ์ที่ทนไฟได้ แต่ราคาก็จะค่อนข้างสูง ก็น่าจะเอามาใช้ แล้วก็ระบบสปริงเกอร์ที่จะช่วยในการจัดการไฟ รวมถึง เครื่องตรวจจับควัน (Smoke Alarm) ก็ควรจะต้องมีด้วย

https://youtu.be/ujH32XhOybE