อาชญากรรม

ผบช.ภ.1 เผยความคืบหน้าคดีแตงโม หลังครบ 1 เดือน - แม่ร่ำไห้ นำกุหลาบขาวเขียนการ์ดไว้อาลัย 'แตงโม'

โดย passamon_a

26 มี.ค. 2565

379 views

วานนี้ (25 มี.ค.) เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 25 มี.ค. ที่ สภ.นนทบุรี พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค1 แถลงความคืบหน้าของคดีการเสียชีวิตของ แตงโม-นิดา พัชรวีระพงษ์ เผย ได้สอบสวนพยานบุคคลไปแล้ว 118 ปากเป็นผู้กล่าวหา 3 ปาก ผู้ต้องหา 2 ปาก ประจักษ์พยาน 3 ปาก พยานแวดล้อม 92 ปาก พยานผู้เชี่ยวชาญ 18 ปากรวบรวมวัตถุพยานทั้งสิน วงจรปิด 70 ตัว 200 ไฟล์ โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง 14 คลิป วัตถุพยาน 40 รายการ 51 ชิ้นโดยเจ้าหน้าที่จะสอบสวนในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป



ส่วนกรณีที่เมื่อวันที่  24 มี.ค. 65 คณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค มาตรวจสอบเรือที่เป็นของกลางในคดีแตงโม แล้วได้มีการแนะนำ 3 เรื่อง ซึ่งทางตำรวจขอชี้แจงว่า 3 เรื่องที่แนะนำมานั้น ทางตำรวจได้ทำหมดแล้ว



1.ได้สอบปากพยานผู้เชี่ยวชาญไปแล้ว 18 ปาก ตั้งแต่ 28 ก.พ.-22 มี.ค. และได้นำเรือไปทดลองหลายครั้ง มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมตรวจสอบด้วยทุกประเด็นจนกว่าจะครบถ้วนสมบูรณ์ ถ้าไม่สมบูรณ์จะมีพนักงานอัยการจะทำการตรวจสอบ สั่งการสอบสวนเพิ่มเติม ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบสวนเกินกว่าที่ แพทย์หญิงคุณหญิง พรทิพย์ โรจนสุนันท์ ได้สั่งการไปแล้ว



2.เรื่องเครื่องจับเท็จ ทางตำรวจจะนำทั้ง 5 คน บนเรือไปนั่งเครื่องหรือไม่นั้น ทางพนักงานสอบสวน จะต้องปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องจับเท็จเสียก่อน และจะต้องวิเคราะห์คำให้การว่าจะนำพยานเข้าเครื่องจับเท็จ ในประเด็นใดได้หรือไม่ ไม่ใช่ว่าจะเข้าแล้วเอาไปเข้าเครื่องจับเท็จได้เลย ซึ่งเครื่องจับเท็จก็เป็นเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์อีกอย่างหนึ่ง ที่ใช้ตรวจสอบพฤติกรรมและการตอบสนองของบุคคลที่ใช้เครื่องจับเท็จ เพื่อพิสูจน์ข้อสงสัยต่าง ๆ ที่จะต้องอาศัยผู้ชำนาญการดำเนินการ ซึ่งเครื่องจับเท็จไม่ใช่เครื่องมือพิเศษที่เข้าไปแล้วจะบอกได้ว่า คนนี้พูดจริงคนนี้พูดโกหก



3.เรือของกลาง ที่จอดอยู่ในตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี หลังจากเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการตรวจสอบเก็บร่องรอยทั้งหมดไปแล้ว จนหมดความจำเป็นเกี่ยวกับร่องรอยพยานหลักฐาน ที่ยังยึดไว้เนื่องจากเป็นยานพาหนะที่ใช้กระทำผิด เพื่อรอคำสั่งศาลต่อไป หรือหากมีข้อสงสัยก็จะได้นำเรือนำกลับมาตรวจสอบได้



ทั้งนี้การที่ทางกรรมาธิการฯ สั่งการอาจเข้าข่ายการก้าวก่ายแทรกแซงการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐในกระบวนการยุติธรรมหรือไม่ นักข่าวถามย้ำว่าการสั่งการลักษณะนี้ ตกลงถือเป็นการก้าวก่ายกระทำผิดกฎหมายใด ๆ หรือไม่  พล.ต.ท.จิรพัฒน์  ตอบว่า “ผมไม่สามารถตอบได้”



นักข่าวถามย้ำว่า ถือเป็นการแทรกแซงการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ อึดอัดหรือไม่ พล.ต.ท.จิรพัฒน์ กล่าวว่า “ไม่มีความเห็น” โดย พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจํานงค์ โฆษก ตร.  พูดเสริมว่า “หน้าที่ตำรวจเป็นอย่างนี้ หน้าที่ของใครเป็นอย่างไร น่าจะดำเนินการตามหน้าที่ตามกรอบของกฎหมายที่กำหนด ต่างคนต่างหน้าที่” นักข่าวถามต่อว่า หาก กมธ.สิทธิฯ เรียกไปให้ข้อมูลจะไปหรือไม่  พล.ต.ท.จิรพัฒน์  ระบุว่า “กระบวนการเขามี หากกรรมาธิการฯ อยากรู้อะไรได้หมด แต่ต้องมีกระบวนการ”



ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ยังกล่าวอีกว่า ตอนนี้ยังไม่สามารถสรุปสำนวนได้ จะต้องรอทางสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ส่งผลสรุปการชันสูตรศพรอบ 2 ซึ่งไม่ทราบว่าจะส่งมาเมื่อไร ทำให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องรอผลอย่างเป็นทางการ เพื่อนำมาสรุปสำนวนอีกครั้งหนึ่ง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทำตามพยานหลักฐานขั้นตอนกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เร่งรัดการทำงานทุกวันอย่างตรงไปตรงมา ให้ความเป็นธรรมเต็มที่กับฝ่ายผู้เสียหาย หาตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีให้ได้



พล.ต.ท.จิรพัฒน์ เผยว่า ตอนนี้ยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหากับใครเพิ่มเติม และไม่ทราบว่ามีนายตำรวจท่านใดโทรข่มขู่แพทย์หญิงคุณหญิง พรทิพย์ โรจนสุนันท์ หากได้รับความเดือดร้อนหรือไม่สบายใจให้มาพบตน หรือพบพนักงานสอบสวน จะได้ดำเนินการเข้าสู่กระบวนการสอบสวนดูแลต่อไป ยันยันไม่มีนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่แทรกแซง ไม่มีใครสามารถแทรกแซงการทำงานของพนักงานสอบสวนได้รวมถึงเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานและนิติเวช เป็นไปตามกฎหมายที่กำหนด ไม่มีใครเข้ามาแทรกแซงได้



ขณะเดียวกัน ระหว่างที่ นางภนิดา จะเดินขึ้นไปชั้น 2 ของโรงพัก ได้เจอกับนายสันธนะ ประยูรรัตน์ ซึ่งนายสันธนะ เดินเข้ามาแนะนำตัว บอกว่าไม่ได้มีเจตนาที่จะมาหาผลประโยชน์ แต่ที่เข้ามาเพราะอยากมาช่วยเหลือในคดี ตนเข้าใจความรู้สึกของคุณแม่ดี ถ้าหากมีอะไรให้ช่วยเหลือติดต่อมาได้เลย และไม่ได้มีเจตนาที่จะทำให้คุณแตงโม เสื่อมเสีย ซึ่งมีการพูดคุยกันนานเกือบ 5 นาที ก่อนที่คุณแม่ จะขึ้นไปถามความคืบหน้าคดีกับตำรวจที่ชั้น 2  



ต่อมา เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 25 มี.ค.65 ที่ท่าเรือพิบูลสงคราม 1 ต.สวนใหญ่ อ.เมือง จ.นนทบุรี นางภนิดา ศิระยุทธโยธินแม่ดาราสาว แตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์ เดินทางมาร่วมไว้อาลัยกับการจากไปของลูกสาว เนื่องในวันครบรอบ 1 เดือน ของการจากไปเมื่อวันที่ 24 มี.ค.ที่ผ่านมา



โดยนางภนิดา นำช่อดอกกุหลาบขาว มาวางไว้บริเวณท่าน้ำฯ หน้ารูปของแตงโม พร้อมการ์ดเขียนความรู้สึกด้วยลายมือถึงลูกสาวที่จากไปไม่มีวันกลับ จากนั้นนางภนิดา ได้ไหว้และตั้งจิตอธิษฐานถึงแตงโม พร้อมทั้งใช้มือลูบไปที่กราบรูปภาพของแตงโม สมัยเรียนผู้ช่วยพยาบาล ซึ่งอยู่ที่ศาลาท่าเรือพิบูลสงคราม 1



นางภนิดา ร่ำไห้เผยว่า แตงโมขึ้นสวรรค์ไปแล้ว เราต้องอันเชิญพระเยซูมารับรู้ความรู้สึกของแม่ ตั้งแต่เดินเข้ามาเห็นแม่น้ำแล้วรู้สึกขนลุกมาก แม่พูดไม่ออก สงสารลูกและคิดถึงแตงโมมาก ๆ แตงโมขึ้นสวรรค์ไปทำงานให้พระเยซูแล้ว"แม่ยังห่วงเรื่องคดี แต่แม่ไม่เร่งอยู่แล้ว ส่วนหัวใจของแม่แตกสลายมากๆ เลย แม่ก็ผอมลง เพราะหัวใจสลาย เราคิดถึงเขามาก เขากำลังน่ารักกับเรามากด้วย"



"แม่เสียใจและสะอื้น ลูกเราไม่น่ามาเสียชีวิต เรายังรับไม่ได้ คงต้องใช้เวลา ทุกวันนี้ก็ทรมาน พูดกับลูกด้วยว่าจะไปท่าเรือและนำดอกไม้มาให้ เราจะทำอะไรก็จะบอกตลอด เหมือนเขายังอยู่กับเรา"



นางภนิดา กล่าวว่า ยังไม่มีใครรู้ความจริงว่าแตงโมนับถือพระเจ้า แตงโมบอกอยากรับใช้พระเจ้า พูดเหมือนเป็นลางบอกเหตุ โดยยังไปโบสถ์ทุกวันอาทิตย์ด้วย หลังเสร็จสิ้นงานศพแตงโม แม่จะเปลี่ยนศาสนามาเป็นศาสนาคริสต์ เพื่อเป็นของขวัญให้แตงโมที่เคยขอไว้ด้วย



นางภนิดา กล่าวถึงประเด็นผ้าคลุมขาวของแตงโม ว่า ยืนยันแม่เห็นผ้าขาวจริง ๆ เมื่อกลับไปบ้านและเห็นทีวีช่วงดึกกล้องส่องไปที่เรือที่เคลื่อนแตงโมมา และมีเจ้าหน้าที่ร่วมกตัญญูคนหนึ่ง เจ้าหน้าที่คนนั้นเอาไม้เขี่ยผ้าขึ้นจากน้ำ อีกมือก็จับเรือไว้ โดยพบเป็นผ้าผืนใหญ่ คุณแม่เห็นเต็มตาเลย แม่ไม่ได้มโนอะไร เวลาดูข่าวลูกจะละเอียดมาก ความคิดแม่คิดว่าเจ้าหน้าที่เก็บไว้ให้ พี่ไทด์ไม่เห็นแน่นอน เพราะหันหลังให้


รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/fxLCu2uYF_Q


คุณอาจสนใจ

Related News