อาชญากรรม

4 วันยังไร้วี่แวว! ตร.ตั้งโต๊ะสอบปากคำชาวบ้าน คลี่ปม 'น้องต่อ' เด็ก 8 เดือนหายปริศนา แม่วอนเอาลูกมาคืน

โดย panisa_p

8 ก.พ. 2566

72 views

เป็นเวลา 4 วันแล้ว ที่น้องต่อ เด็กชายวัย 8 เดือน หายตัวปริศนาไปจากบ้านหินมูล หมู่ 6 ตำบลหินมูล อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม ตำรวจได้ตั้งโต๊ะสอบปากคำคนในหมู่บ้านมากกว่า 10 ปาก ขณะที่แม่เด็กยันเสียใจลูกหาย วอนเอาลูกมาคืน ตั้งประเด็นสงสัยหลายคน



นายสิทธิโชค แสงสว่าง หรือพุด พ่อของน้องต่อ และ นางสาวนิ่ม แม่ของเด็ก ยังรอฟังข่าวการตามตัวลูกชายวัย 8 เดือนที่หายตัวไปไปจากอ้อมอกผู้เป็นแม่ เป็นเวลา 4 วันแล้ว ยังไร้วี่แวว



ทีมข่าวได้คุยกับคุณนิ่ม แม่ของน้องต่ออีกครั้ง ยืนยันว่าในวันเกิดเหตุ ตอนที่นอนอยู่ น้องต่อ ลูกชาย นอนอยู่บนหมอนสีฟ้า โดยมีแขนของเธอพาดไปบนหมอน แต่จู่ๆ ก็เหมือนมีคนมายกลูกออกไปจากหมอน ซึ่งเข้าใจว่าเป็นคนแถวบ้านมาเอาลูกไปเล่น ก่อนจะสะลึมสะลือเห็นเห็นคนรูปร่างท้วม สวมเสื้อคอกลมสีเหลืองออกไป ก่อนที่ตนจะรู้ตัวและตามหาลูก

และสาเหตุที่หลายคนบอกว่าตนไม่คิดถึงลูกหรือเปล่า และไม่เศร้า เป็นเพราะตนพยามให้ความร่วมมือทุกเรื่อง ทั้งต่อหน้ากล้อง ต่อหน้าตำรวจ ทำให้ดูหน้าไม่ร้องไห้ แต่ที่จริงตนเครียดทั้งเรื่องที่ลูกหาย และถูกสังคมตั้งข้อสงสัย



อยากบอกกับคนที่เอาลูกไปว่า ขอให้เอามาคืน อยากเห็นหน้าลูก เสียงที่เคยได้ยินทุกคืน เด็กที่เคยมาปีนบนตัว มากอด มาอุ้มตลอดเวลา มันหายไปเลย มันพูดไม่ถูก



แม้ตำรวจพยามตีกรอบบุคคลที่น่าสงสัย และตรวจสอบในประเด็นที่ว่าคนที่เคยเล่นกับน้องมีใครบ้าง ใครอุ้มน้องได้บ้าง รวมถึงตรวจสอบบัญชีการเงิน เพื่อตรวจสอบว่ามีการซื้อขายเด็ก ตามที่มีการสงสัยหรือไม่ นอกจากตรวจสอบโทรศัพท์ และการสนทนาต่างๆ ซึ่งยืนยันว่าไม่มี และเมื่อวานนี้ ตนก็ให้ข้อมูลกับตำรวจไปว่า สงสัยอยู่ 2-3 ประเด็น คือ



1. บ้านฝั่งตรงข้าม ถอดกล้องวงจรปิดออกไป หลังจากลูกหายตัวไป



2. สาวโรงงาน (ลูกค้าประจำที่มาซื้อของ)เคยวิดิโอคอล และถ่ายรูปลูกชาย ให้กับคนปลายสายดู



3. บุคคลปริศนา สวมเสื้อสีเหลือง ที่มีพยานเห็นว่าเหมือนอุ้มอะไรบางอย่างออกไป



เพื่อให้คลายข้อสงสัย ทีมข่าวจึงไปคลายความสงสัยทีละประเด็น ประเด็นแรก ที่แม่เด็กสงสัยว่าทำไมบ้านฝั่งตรงข้ามจึงถอดกล้องวงจรปิดไป ทีมข่าวได้คุยกับป้าลัดดา เพื่อนตรงข้ามบ้านยินดีให้ข้อมูล และพาทีมข่าวชี้ดูกล้องที่ถูกถอดออกไป ป้าลัดดาบอกว่า กล้องที่หันไปทางถนนด้านนอกมีอยู่ 2 ตัว แต่ตัวที่พ่อแม่สงสัย ถูกถอดไปเมื่อวันก่อน



หลังจากตำรวจชุดสืบสวนเข้ามาขอดู ซึ่งยืนยันว่ากล้องไม่ได้ใส่เมมโมรี่การ์ด และทางตำรวจได้เข้ามาตรวจสอบแล้วเมื่อวานนี้ จึงถอดออกมาให้ดู และตรวจสอบซึ่งก็ไม่มีภาพบันทึกเหตุการณ์จริงๆ ตอนนั้นก็บอกไปแล้วว่ากล้องเสีย พร้อมยืนยันว่าไม่ได้มีเรื่องผิดใจอะไรกับทั้งคู่ และปกติตนก็ไม่ได้สุงสิงอะไรกับใคร ตอนวันเกิดเหตุ ก็เพิ่งมาทราบตอน 8 โมงหลังจากที่พ่อของเด็กมาถาม



ประเด็นที่ 2 พ่อแม่สงสัยคือ สาวโรงงานที่เช่าบ้านอยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน และมาซื้อของที่ร้านเป็นประจำทุกเย็น แม่ให้การว่า สาวคนนี้ เคยวีดีโอคอลคุยกับใครบางคน และถ่ายรูปลูกชายไป ทีมข่าวจึงไปหาที่บ้าน ซึ่งหญิงสาวรายนี้ทำงานอยู่ ยังไม่กลับมา แต่ได้คุยกับพี่สะใภ้ของหญิงคนนี้ ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง ยอมรับว่าน้องสะใภ้รักเด็ก และมักจะไปซื้อน้ำแข็งที่ร้านของพ่อแม่เด็ก ชอบที่เด็กหน้าเป็น และวันนั้นกึไม่ได้วีดีโอคอลคุยกับใคร แต่ขอถ่ายรูปไป เพราะมีคนเขียนคิ้วให้น้องต่อ เหมือนชินจัง เห็นแล้วน่ารักดี



ส่วนประเด็นที่ 3 คือ ภาพจากกล้องวงจรปิด บนถนนสายหลัก เส้นมุ่งหน้าไปยังตลาดบางหลวง อ.บางเลน จ.นครปฐม ช่วงเวลา 7.49 น. อยู่ห่างจากบ้านของน้องประมาณ 450 เมตร คบรถกระบะสีบรอนซ์ทองต้องสงสัยคันหนึ่ง ขับผ่านไปด้วยความเร็ว ที่มีการสังเกตเห็นเหมือนมีคนที่นั่งท้ายรถกระบะ ใส่เสื้อสีเหลืองนั่งอยู่ แต่จากการสังเกตยังไม่ชัดว่ามีการอุ้มเด็กด้วยหรือไม่ ซึ่งประเด็นนี้ที่พ่อแม่สงสัย ตำรวจอยู่ระหว่างการแกะรอยสืบสวน



ขณะที่ทางคดีวันนี้ พนักงานสอบสวน สภ.บางหลวง ได้นำชุดสอบสวนไปตั้งโต๊ะสอบปากคำคนในหมู่บ้านเพิ่มเติมที่ด้านหน้าหมู่บ้าน โดยได้สอบปากคำทั้งญาติที่ใกล้ชิด อย่างพี่สาวของพ่อเด็ก แฟนของพี่สาว รวมถึงเพื่อนบ้าน ซึ่งสอบไปมากกว่า 11 ปากแล้ว



พร้อมกันนี้ ชุดสืบสวนได้จำลองเหตุการณ์ โดยให้ "ลุงวี" ซึ่งเป็นชาวบ้านในพื้นที่ ที่ออกมาให้ข้อมูลก่อนหน้านี้ว่า เห็นชายสวมเสื้อสีเหลือง อุ้มอะไรบางอย่างออกมา ก่อนที่เด็กจะหายไป มาจำลองเหตุการณ์ และเดินเทียบเคียง จับเวลาตามวันเกิดเหตุ ว่าเดินผ่านหน้าบ้านแล้วเห็นชายเสื้อเหลืองที่จุดใด



ด้านพันตำรวจเอกพัลลภ สุริยะกุล ณ อยุธยา รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม ให้ข้อมูลว่า เมื่อคืนวานนี้จากการสอบปากคำแม่เด็กตลอดทั้งคืนด้วยตัวเอง จนกระทั่งถึงเที่ยงคืน ตัวแม่เด็กเริ่มให้การที่เป็นประโยชน์มากขึ้น และสามารถชี้เป้าหมายและตีวงแคบให้กับทางตำรวจได้ดี ช่วงเช้าได้สั่งการให้ชุดสืบสวนไปตรวจสอบบ้านเป้าหมาย 2 หลัง อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียง ขณะเดียวกันวันนี้มีกำลังเสริมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ตำรวจภูธรภาค 7 ลงพื้นที่มาหาเบาะแส และแกะรอยตามหาน้องต่อ


https://youtu.be/hnHpzQPNDeI

คุณอาจสนใจ

Related News