อาชญากรรม

'ชูวิทย์' เปิดตัวพยานสำคัญ คนใกล้ชิด 'ตู้ห่าว'

โดย attayuth_b

5 ม.ค. 2566

123 views

‘ชูวิทย์’ นำผู้รับเหมาที่ถูก ‘ตู้ห่าว’ ยังไม่จ่ายค่าจ้างกว่า 10 คน โดยค้างเงินสูงสุด 36 ล้านบาท พร้อมนำภาพวงจรปิดภายในจินหลิง และลีลา ที่พบว่าเล่นการพนันแต่ไม่นำเข้าสำนวนมาเปิดเผย พร้อมเตรียมผลักดันให้นำคดีทุนจีนสีเทาอภิปรายไม่ไว้วางใจในสภา


เมื่อเวลา 14.00 น.ที่ผ่านมา นาย ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เดินเข้ามาพร้อมตะเกียง บอกว่า ต้องใช้ตะเกียงส่องทาง เพราะประเทศนี้มันมืดมิด ไม่มีผู้นำ ไม่มีแสงสว่างให้ประเทศไทยนี้ ทุกคนห่วงแต่ตัวเอง


ทันทีที่เริ่มแถลงก็บอกว่า "อัยการ" กับ "ตำรวจ" ก็พอๆ กัน การทำงานหลายคดีก็มีปัญหา มีความน่าสงสัย อย่าง "อัยการ" คดีสวนงู คดีบอสอยู่วิทยา ก็ไม่ชัดเจนสักคดี มีข้อสงสัยในการทำคดีทั้งนั้น พร้อมบอกว่าไม่รู้ว่าจะถูกฟ้อง เพราะเขาพูดเรื่องจริง แถมยังเอาเทียนมา บอกฝากให้อัยการกับตำรวจ เผื่อเทียนที่ใช้นั่งมันจะหมด


แถมแถลงโต้เรื่องที่อัยการและ ผบ.ตร.บอกตรวจพยานหลักฐานครบ สอบพยานทุกคนแล้ว แต่ นาย ชูวิทย์ ยังจี้ให้เห็นช่องโหว่การทำคดี เช่น คดีที่รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 รับเงินแลกกับการปล่อยรถของกลาง โดยนำภาพกล้องวงจรปิดใน สน.ยานนาวา มาเปิด เป็นคลิปขณะหญิงจีนนำซองเงินมา


โดยบอกว่า ตอนนี้ตำรวจสอบผู้หญิงคนนี้หรือยัง รู้หรือยังว่าเป็นใคร ก่อนจะนำภาพหนังสือเดินทาง และภาพนิ่งในอินสตราแกรมของเธอมาเปิด และทิ้งท้ายว่า สุดท้ายตำรวจก็ยังไม่ได้สอบ เพื่อที่จะช่วยคดีให้รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 หลุด จากข้อกล่าวหา เพราะไม่รู้ว่าเป็นเงินใคร และยังมีคดีอื่นๆ อีก


จากนั้นนำแผนผังมาให้ดูว่า ในพื้นที่ที่ตรวจจับ ไม่ได้มีแต่จินหลิง เพราะถูกแบ่งเป็น 3 โซนหลัก คือ ลีลาจุดที่เปิดเป็นบ่อน มีเซิร์ฟเวอร์วงจรปิด 2 จุด รวมกล้อง 68 ตัว ผับจินหลิง มีเซิร์ฟเวอร์วงจรปิด 1 จุด กล้อง 20 ตัว และวิบวับคาร์วอช เป็นโกดังที่เก็บยาเสพติด เซิร์ฟเวอร์ 1 จุด กล้องวงจรปิด 20 ตัว รวมทั้งหมด 108 ตัว แต่ปรากฏว่ากล้องวงจรปิดมีการตัดต่อ


ภาพกล้องวงจรปิดภายในสถานบันเทิงจินหลิง ซึ่งอ้างว่าเปิดให้บริการยาเสพติด และอาคารลีลาทีเปิดบ่อนคล้ายกาสิโน เปิดเปิดให้สื่อดูซึ่งเป็นช่วงขณะที่ตำรวจนครบาลกำลังเข้าไปตรวจค้น และพบว่านักพนันต้องวิ่งหนีแตกกระเจิงไปคนละทิศละทาง ส่วนพนักงานขนอุปกรณ์การเล่นพนันออกจากอาคารไปด้านหลัง ส่วนภายในอาคารจินหลิงผับ ก็มีนักท่องเที่ยววิ่งหลบหนี และยังมีภาพวงจรปิดภายในห้องเก็บของ พบว่าพนักงานได้ใส่สิ่งของคล้ายยาเสพติดลงในตระกร้าเครื่องดื่มก่อนจะส่งไปให้ลูกค้าที่อยู่ภายในร้าน


นอกจากนั้นยังได้นำพยานที่เป็นผู้รับเหมาโครงการก่อสร้างหลายแห่งที่ในจังหวัดภูเก็ต และชลบุรี ที่นายตู้ห่าว ได้ว่าจ้างให้มาตกแต่ง และทำระบบโครงสร้างกว่า 10 คน โดยทุกคนนายชูวิทย์ได้พาไปให้ปากคำกับอัยการแล้ว เนื่องจากนายตู้ห่าวค้างค่าจ้างกับผู้รับเหมาทุกรายตั้งแต่ 1 ล้าน 5 แสนบาท จนบางคนสูงถึง 36 ล้านบาท


หนึ่งในผู้รับเหมา บอกว่า หลังจากได้ร่วมทำงานกับนายตู้ห่าวมาตั้งแต่ปี 2559 นายตู้ห่าวได้เป็นผู้ติดต่อว่าจ้าง และจ่ายเงินบางส่วนมาโดยตลอด แต่เมื่อก่อสร้างเสร็จแล้ว ก็ยังมีค่าจ้างค่าอยู่จำนวนมากและไม่สามารถติดต่อได้ ผู้รับเหมาบางคนต้องนำรถยนต์ และบ้านไปจำนอง จนเป็นหนี้สิน และเมื่อทราบข่าวว่านายตู้ห่าวถูกจับจากคดีทุนจีนสีเทา จึงติดต่อมาที่นายชูวิทย์ เพื่อไปให้ปากคำกับอัยการ และไม่ไว้ใจการทำงานของตำรวจ


นอกจากนั้นนายชูวิทย์ ได้นำพยานคนหนึ่ง ที่อ้างว่าเป็นคนใกล้ชิดกับนายตู้ห่าว และให้ข้อมูลว่าเห็นนายตู้ห่าวสั่งให้คนไปถอนเงินสดครั้งละ 20-30 ล้านบาทต่อวัน จากธนาคารแห่งหนึ่งย่านลาดกระบัง ซึ่งเป็นเงินจากประเทศจีนที่โอนเข้ามาในไทย และได้ไปให้ปากคำกับอัยการแล้ว โดยที่ไม่ผ่านตำรวจเพราะไม่ไว้ใจการทำงานเช่นกัน


นายชูวิทย์ ยังกล่าวถึงการแถลงข่าวระหว่างผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และอัยการที่ทำคดีว่ามีการทำคดีร่วมกันจนสำนวนคดีมีความสมบูรณ์แล้ว แต่นายชูวิทย์ไม่เห็นด้วย เนื่องจากพบว่ามีพยานหลักฐานบางส่วนที่ไม่นำเข้าสู่สำนวน และเห็นว่าสำนวนคดียังช่วยเหลือนายตู้ห่าว


โดยเฉพาะ ตั้งแต่การเข้าตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุแบบเว้นวรรค ไม่เข้าตรวจต่อเนื่อง โดยอ้างว่าไม่มีอำนาจเข้าตรวจสอบ มีการขยักหลักฐานไม่นำเข้าสำนวน โดยบอกว่ามีหลักฐานเยอะแล้ว ส่วนรถยนต์หรูที่เป็นของกลางก็มีการปล่อยกลับไปให้ผู้ต้องหาอีกด้วย


นอกจากนั้นยังไม่ตั้งข้อหาการรับผลประโยชน์ของนายตำรวจที่ทำคดี โดยไม่มีการสอบปากคำหญิงชาวจีนคนหนึ่งที่มีหลักฐานจากกล้องวงจรปิดในสน.ยานนาวา ว่านำถุงกระดาษที่ภายในมีเงินสด 6 แสนบาท ไปวางไว้บนโต๊ะในห้องรองผู้บังคับการ รักษาการผู้กำกับการ เพื่อขอนำรถยนต์หรูยี่ห้อปอร์เช่ ที่ถูกยึดจากจินหลิงผับออกไป


ขณะเดียวกันยังไม่มีการตรวจเลขตัวถังรถยนต์ที่ยึดได้ทั้ง 11 คัน และปล่อยตัวหลานของนายตู้ห่าวออกไปจนหลบหนีออกนอกประเทศ นอกจากนั้นยังให้นายตำรวจที่คุมสำนวนคดีนี้เป็นตำรวจคนเดียวกับที่ปล่อยตัวผู้ต้องหาไป


และหลักฐานที่สำคัญที่สุดคือกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุ นายชูวิทย์ได้นำแผนผังของพื้นที่เกิดเหตุ พบว่าแบ่งเป็น 3 ส่วน คือ อาคารร้านล้างรถยนต์ อาคารจินหลิง และอาคารลีลา โดยเซิฟเวอร์ที่บันทึกกล้องวงจรปิดแบ่งเป็น 4 ส่วน โดยส่วนที่เยอะที่สุดคือ อาคารลีลา มีกล้อง 68 ตัว จินหลิง และอาคารล้างรถ ที่ละ 20 ตัว แต่พนักงานสอบสวนได้ส่งให้ตำรวจพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบมีเพียง 1 เชฟเวอร์ คือที่จินหลิง


แต่ก็ตรวจสอบไฟล์ได้เพียงวันที่ 21-26 ตุลาคม และไม่ตรวจสอบเชิฟเวอร์ของอาคารลีลา ที่เปิดให้เล่นการพนัน ซึ่งเห็นว่าเป็นการให้ความช่วยเหลือกับนายตู้ห่าว ที่ไม่ตั้งข้อหาจัดให้เล่นการพนัน โดยนายชูวิทย์ ยังระบุว่า มีคลิปวิดีโอวงจรปิดอีกกว่า 1,500 คลิป ที่ยังไม่ได้เปิดเผย และเชื่อว่าตำรวจมีทั้งหมด แต่ไม่นำเข้าสู่สำนวนเอง


นอกจากนั้นยังพบว่าชะลอการตั้งข้อหาฟอกเงิน กับนายตู้ห่าว เพราะเงินในบัญชีเหลือไม่มากเนื่องจากถูกยักย้ายออกไปทั้งหมดแล้ว และออกหมายจับในวันที่ 22 พฤศจิกายน ที่เกิดขึ้นหลังจากเข้าตรวจค้นเกือบ 1 เดือน


ส่วนการตรวจสอบรถยนต์หรูของนายตู้ห่าว ก็พบว่าเป็นรถเช่าจากบริษัทหนึ่งที่นายชูวิทย์ อ้างว่ามีหลานของนักการเมืองเป็นเจ้าของบริษัท และตั้งข้อสังเกตว่าเหตุใดนายตู้ห่าวขับรถยนต์หรูจำนวนมาก แต่ไม่มีเงินไปจ่ายให้กับผู้รับเหมาที่ติดค้างอยู่จำนวนมาก


ส่วนข้อมูลทั้งหมดที่นายชูวิทย์ได้มา เชื่อว่าตำรวจมีทั้งหมดแล้ว แต่ไม่นำเข้าสู่สำนวน โดยไม่ทราบว่าเหตุใดถึงไม่นำเข้า และข้อมูลที่ได้มาทั้งหมด เป็นข้อมูลของตำรวจและเจ้าหน้าที่ในกระบวนการยุติธรรม จึงเป็นหลักฐานที่มีความน่าเชื่อถือ ซึ่งหลังจากนี้จะติดตามคดีนี้จนถึงกระบวนการในชั้นศาลว่าผลตัดสินจะออกมาอย่างไร


ขณะเดียวกันนายชูวิทย์ ยังยืนยันว่าการนำข้อมูลของทุนจีนสีเทาออกมาเปิดเผยเหล่านี้ จะไม่เป็นการเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการเมือง ส่วนกรณีที่พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ เตมียาเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ได้มาทาบทามให้เข้าร่วมในพรรคและจะให้มาร่วมเปิดโปงขบวนการนี้ต่อ


นายชูวิทย์ยืนยันว่าจะขอทำหน้าที่การตรวจสอบของภาคประชาชน เพราะหากภาคประชาชนไม่เข้มแข็งก็จะทำให้เกิดความเสียหายมากกว่านี้ และยืนยันว่าไม่ใจอ่อนที่จะเล่นการเมือง เพราะได้ประกาศไปตั้งแต่ปี 2560 แล้ว แต่จะผลักดันให้นำเรื่องนี้อภิปรายไม่ไว้วางใจแบบไม่ลงคะแนน ในสภาครั้งสุดท้ายให้ได้


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/nPtIGTG_cPM

คุณอาจสนใจ

Related News