โฆษกศาลฯ เผย คุม 3 คนสนิท ‘ประสิทธิ์ เจียวก๊ก’ เค้นสอบสมรู้ร่วมคิด

ล่าสุด ตำรวจจับ 3 ผู้ต้องสงสัย เป็นเลขาและคนสนิทนาย ประสิทธิ์ ได้แล้ว หลังมีวงจรปิดปรากฎว่าทั้งหมด อยู่ในช่วงเวลาก่อนเกิดเหตุ แต่ยังอยู่ระหว่างสอบปากคำ ยังไม่แจ้งข้อหา

นายสรวิศ ลิมปรังษี โฆษกศาลยุติธรรม เปิดเผยว่า นาย ประสิทธิ์ ถูกคุมตัวมาที่ศาลเพื่อนัดสอบคำให้การกรณีเมื่อเดือนสิงหาคม 2563 ได้ชักชวน นางสาว พรพรรณ มาร่วมลงทุนในสหกรณ์ออมทรัพย์ด้านธุรกิจบริการและผลิตภัณฑ์ผสมผสาน จำกัด ทำให้เสียเงินไปกว่า 1 ล้าน 9 แสน บาท เพื่อร่วมลงทุนในสหกรณ์ออมทรัพย์การค้าธุรกิจบริการและผลิตภัณฑ์ผสมผสาน จำกัด

จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด ได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย ซึ่งคาดว่าเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดของนาย ประสิทธิ์ ได้ 3 คน เป็นผู้ชาย 2 คน ผู้หญิง 1 คน เลขาฯ ของนาย ประสิทธิ์ ซึ่งตำรวจ สน.พหลโยธินอยู่ระหว่างการสอบปากคำที่ศาล

จากการค้นตัวพบเงิน 1 หมื่นบาทที่ตัวผู้สมรู้ร่วมคิด ซึ่งจะต้องสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดว่ากุญแจที่ใช้เป็นการปั๊มกุญแจมาจากกุญแจต้นฉบับหรือไม่ หรือมีเจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้อง ส่วนเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ที่อ้างว่าเฝ้าอยู่บริเวณหน้าห้องน้ำทราบว่าทางกรมราชทัณฑ์มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนแล้ว เพราะไม่พบว่ามีการวิ่งตามจับกุมนาย ประสิทธิ์

เบื้องต้นนาย ประสิทธิ์ ถือว่าเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 190 ฐาน ผู้ใดหลบหนีระหว่างที่ถูกคุมขังตามอำนาจของศาล มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้้งปรับ ส่วนผู้สมรู้ร่วมคิดก็จะเข้าข่ายร่วมกันกระทำความผิด ต้องรับโทษเท่ากัน และยังเข้าข่ายละเมิดอำนาจศาล มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือนด้วย

ด้านนายนัสธี ทองปลาด ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพ ยืนยันว่า นาย ประสิทธิ์ ถูกตรวจร่างการตามมาตรการทั้งตอนออกจากเรือนจำ และเมื่อมาถึงศาล หลังจากนี้ต้องสืบสวนขยายผลหาข้อเท็จจริงว่ามีบุคคลใดเตรียมอุปกรณ์ต่างๆ มาให้การช่วยเหลือ โดยเฉพาะกุญแจโซ่ตรวจนักโทษ ถือเป็นกุญแจความมั่นคงสูง เป็นกุญแจเฉพาะทางที่กรมราชทัณฑ์จ่ายให้เรือนจำ กุญแจทั่วไปไขไม่ได้

ล่าสุดพ.ต.อ.ชิศณุพงศ์ สุริยานนท์ ผู้กำกับการ สน.พหลโยธิน เปิดเผยว่า ผู้ต้องสงสัย 3 คน เป็นเลขาฯและคนสนิทของนาย ประสิทธิ์ ขณะนี้ยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหา โดยอยู่ระหว่างการสอบถามและรวบรวมข้อมูลพยานหลักฐานต่างๆ ว่าทั้งสามคนมีส่วนเกี่ยวข้องกับการพยายามหลบหนีของนายประสิทธิ์หรือไม่

โดยขั้นตอนหลังจากนี้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกิดขึ้นภายในพื้นที่ของศาล จะต้องมีการพิจารณาว่าการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายการละเมิดศาลหรือไม่ หากการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายการละเมิดศาล ทางศาลอาญามีอำนาจในการพิจารณาและตัดสินโทษเอง หรือจะส่งตัวมาที่สน.พหลโยธิน พื้นที่เกิดเหตุเพื่อดำเนินการก็ได้

ส่วนประเด็นหลบหนีการคุมตัวของเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ ทางเจ้าหน้าที่ต้องมาแจ้งความที่ สน.พหลโยธิน

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/dXGywt8GF0k