อาชญากรรม

สรุปตั้งแต่ต้น! จากคีย์บอร์ดระเบิด สู่ 'ปืนลั่น' ทำ ม.3 ดับ ครอบครัวไม่เชื่ออุบัติเหตุ เดินหน้าหาความจริง

โดย panwilai_c

16 ก.ย. 2565

72 views

ย้อนดูเหตุการณ์ ไล่เรียงไทม์ไลน์ตั้งแต่ต้น โศกนาฏกรรม เด็ก ม.3 พกปืนไปโรงเรียน ก่อนลั่นใส่เพื่อน เสียชีวิตคาห้องคอมพิวเตอร์ ซึ่งคดีนี้ในตอนแรก ถูกเข้าใจว่าเป็นอุบัติเหตุแป้นพิมพ์คีย์บอร์ดระเบิด แต่ภายหลังคดีพลิก 1 ในนักเรียนสารภาพ ปืนลั่นใส่จนเกิดเหตุสลดดังกล่าว



จากเหตุโศกนาฏกรรมสลดในโรงเรียน วันนี้ (16 ก.ย. 65) ครอบครัวน้องโชค ผู้เสียชีวิต ทำพิธีเชิญวิญญาณ ท่ามกลางความโศกเศร้ากับความสูญเสียที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะยายร้องไห้หนัก น้ำตาแทบเป็นสายเลือด



เมื่อช่วงเช้า ครอบครัวน้องโชคนิมนต์พระ ไปที่โรงเรียนเพื่อทำพิธีเชิญดวงวิญญาณ โดยมีคณะครูมารอต้อนรับและพูดคุยกัน บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า จากนั้นคุณยายเดินขึ้นมานั่งที่หน้าห้องคอมพิวเตอร์ จุดธูปและนำชาเขียวที่น้องโชคชอบดื่มมาวางไว้ ก่อนเข้าไปในห้องคอมที่เกิดเหตุ ซึ่งยังมีคราบเลือดติดพื้นอยู่ คุณยายร้องไห้น้ำตาแทบเป็นสายเลือดตลอดเวลา ขณะที่พระสงฆ์ได้ทำพิธีเชิญวิญญาณน้องโชคจากจุดเกิดเหตุ



หลังเสร็จพิธี ครูณัฐญา เจริญพันธุ์ หัวหน้าฝ่ายปกครองและระดับมัธยม เดินเข้ามาพูดคุยกับคุณยายและน้าสาวของน้องโชค กล่าวขอโทษและกอดให้กำลังใจคุณยาย พร้อมบอกว่า น้องโชคเป็นเด็กดี เป็นเด็กน่ารักเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่มีใครคาดคิดมาก่อน ทางคณะคุณครูและผู้บริหารโรงเรียนรู้สึกเสียใจ



ส่วนค่าใช้จ่ายภายในงานต่างๆ ทางโรงเรียนจะรับผิดชอบให้ทั้งหมด วันนี้ทางคณะครู จะเดินทางไปร่วมพิธีสวดศพ แต่อาจไปถึงช้า เพราะเขตพื้นที่การศึกษา และ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือ สพฐ. ได้ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง และตอนนี้อยู่ระหว่างการสอบสวน



โดยครูยืนยันว่า โรงเรียนมีมาตรการเข้มงวดตรวจกระเป๋าก่อนเข้าโรงเรียนทุกวัน มีบันทึกหลักฐานไว้ตลอด ที่ผ่านมาไม่เคยพบว่า มีการพกพาอาวุธเข้ามาในโรงเรียน จะมีแต่ของมีคม เช่น มีดปอกผลไม้ ซึ่งครูจะยึดไว้ และก็มีเรื่องยาเสพติด เช่น กัญชา สำหรับน้องโชคและนักเรียนที่ก่อเหตุ เป็นเพื่อนรักเพื่อนสนิทกัน ไม่มีสัญญาณว่าทะเลาะผิดใจกัน



ส่วนด้านค่าใช้จ่ายภายในงานต่างๆ ทางโรงเรียนจะรับผิดชอบให้ทั้งหมด วันนี้ทางคณะครู จะเดินทางไปร่วมพิธีสวดศพ แต่อาจไปถึงช้า เพราะเขตพื้นที่การศึกษา และ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือ สพฐ. ได้ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง และตอนนี้อยู่ระหว่างการสอบสวน



โดยครูยืนยันว่า โรงเรียนมีมาตรการเข้มงวดตรวจกระเป๋าก่อนเข้าโรงเรียนทุกวัน มีบันทึกหลักฐานไว้ตลอด ที่ผ่านมาไม่เคยพบว่า มีการพกพาอาวุธเข้ามาในโรงเรียน จะมีแต่ของมีคม เช่น มีดปอกผลไม้ ซึ่งครูจะยึดไว้ และก็มีเรื่องยาเสพติด เช่น กัญชา สำหรับน้องโชคและนักเรียนที่ก่อเหตุ เป็นเพื่อนรักเพื่อนสนิทกัน ไม่มีสัญญาณว่าทะเลาะผิดใจกัน



ย้อนกลับไปเมื่อวานนี้ (15 ก.ย.65) เวลา 13.30 น.

-ครูประจำวิชาคอมฯ ได้ยินเสียงระเบิด 1 ครั้ง จึงวิ่งไปห้องคอม

-พบร่างน้องโชคนอนจมกองเลือดอยู่ที่พื้นด้านล่างหน้าโต๊ะคอมพิวเตอร์

-ครูรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และกู้ภัย พบน้องโชคมีแผลที่ใบหน้าเหนือคิ้วซ้ายลึกถึงกระดูก

-ทีมแพทย์ปั้มหัวใจ นานกว่า 30 นาที น้องโชคเสียเลือดมากเสียชีวิตทันที

-ขณะนั้นเด็กบอกคุณครูว่าคีย์บอร์ดระเบิด และพบร่องรอยเสียหายที่คีย์บอร์ด จึงแจ้งตร.ตามนั้น

-ตร.สภ.บางบัวทอง กันพื้นที่ นำเด็กนร.ในห้องไปสอบสวน



เวลา 17.00 น.

-ด.ช.เอ รับสารภาพ เอาปืนปากกามาเล่น เกิดลั่นใส่เพื่อน

โดยปืนขโมยมาจากพระ(ผู้ปกครอง)

-ตร.นิมนต์พระผู้ปกครองมาสอบสวน พระปฏิเสธเรื่องปืนไม่ใช่ของตนเอง และให้ข้อมูลว่า ด.ช.เอ ไม่เคยมีมีปัญหากับน้องโชค

-ต่อมาข้อมูลว่าเด็กมีปัญหากันเรื่องเกมออนไลน์ ด.ช.เอ พกปืนมาล้างแค้น โดยเอาปืนจ่อยิงใส่น้องโชค จากด้านหลังเข้าท้ายทอย กระสุนทะลุไปถูกคีย์บอร์ด



เวลา 20.00 น.

-นักประดาน้ำงมหาปืนในคลองบางไผ่ อ.บางบัวทอง ใช้เวลา 25 นาที พบปืนประดิษฐ์ก่อเหตุ



เวลา 21.30 น.

-ผกก. สภ.บางบัวทอง ให้สัมภาษณ์ว่าน้องโชคถูกกระสุนปืนเข้าบริเวณเบ้าตาจนเป็นเหตุให้เสียชีวิต

-และด.ช.เอ ให้ปากคำ ยอมรับว่ายืมปืนไทยประดิษฐ์จากรุ่นพี่ ไม่ใช่ของพระ โดยเอาปืนมาโชว์เพื่อนก่อนทำปืนหลุดมือกระแทกกับคีย์บอร์ด ทำให้ปืนลั่น

-จากนั้นด.ช.เอ โทรศัพท์ไปตามเพื่อนให้มารับปืนไปทิ้ง



จากนั้นมีแชทหลุดออกมาก เป็นการแชทของต้า ชั้น ม.3 ทักหาเพื่อนบอกว่า "มาด่วนๆ" และ "ผมทำปืนลั่นใส่เพื่อน"ก่อนพิมพ์ข้อความไปอีกว่า " พี่กัน มาเอาของไป"



ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบกล้องวงจรปิดจับภาพกลุ่มเด็กชาย 5 คน ยืนเกาะกลุ่มกัน คาดเป็นจุดที่พากันนำอาวุธปืนไปทิ้งในคลองไผ่ ใกล้กับโรงเรียนแห่งหนึ่ง เมื่อทิ้งเสร็จก็ข้ามถนนกลับไป ภายหลังรุ่นพี่ได้เปิดใจ เล่าทุกอย่าง นาทีน้อง ม.3 โทรเรียกไปรับ ขอให้ช่วยเอาปืนไปทิ้ง ตกใจทำอะไรไม่ถูก จึงตัดสินใจเอาไปทิ้งน้ำ



ขณะที่นายกัน (นามสมมุติ) อายุ 18 ปี เพื่อนรุ่นพี่ที่เอาปืนไปทิ้ง บอกว่า หลังเกิดเหตุ นายต้าโทรมาหาแต่ตนไม่ได้รับสาย จากนั้นเพื่อนอีกคนกดเข้าไปอ่านในแชท พบว่า ต้าแชทมาบอกว่าทำปืนลั่นใส่เพื่อน ตนจึงรีบขับรถออกไปหาต้าที่โรงเรียน วนหาแต่ไม่เจอ ต่อมาน้องวิ่งมาหาตนขณะจอดรถรอที่ด้านหน้าโรงเรียน นายต้าส่งเสื้อให้หนึ่งตัวเป็นลักษณะม้วนมา ซึ่งตนก็ไม่ได้คิดอะไร จึงขับรถกลับบ้าน เมื่อถึงบ้านได้สะบัดเสื้อออกปืนจึงได้หล่นลงมา ตนและเพื่อนจึงรีบขับรถน้ำปืนไปทิ้งที่คลองบางไผ่



ด้านผู้การจังหวัดสรุปคดี น้องโชค ถูกปืนลั่นใส่เสียชีวิต เป็นอุบัติเหตุ ไม่ใช่ฆาตกรรม พร้อมคุมตัว นายต้า ส่งศาลเยาวชน ด้าน พฐ. นำครูประจำห้องคอมพ์ ชี้จุดเกิดเหตุจำลองวิถีกระสุน



พลตำรวจตรี ไพศาล วงศ์วัชรมงคล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี ได้แถลงสรุปคดี หลังสอบปากคำนักเรียนที่ก่อเหตุ ร่วมกับสหวิชาชีพ อ้างว่า นายต้า ได้พกปืนไทยประดิษฐ์ .38 มาที่โรงเรียน โดยใส่ปืนไว้ในเสื้อกันหนาว ซึ่งขณะนั้นน้องโชคผู้เสียชีวิต ได้นั่งอยู่ที่หน้าคอมพ์ ส่วนเด็กชายเอ ได้สะบัดเสื้อกันหนาวเพื่อมาสวมใส่ แต่ปรากฎว่าปืนลั่นเข้าที่กระบอกตาข้างซ้ายของน้องโชค จนทำให้เสียชีวิต



ซึ่งในที่เกิดเหตุ มีเพื่อนอยู่ด้วยกัน 4 คน นายต้าก็พยายามจะเข้าไปช่วยเพื่อน แต่ด้วยความชุลมุน ครูเลยให้นักเรียนออกจากห้องไปก่อน เพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยเหลือ นายต้าจึงโทรไปหารุ่นพี่ ให้เข้ามาที่โรงเรียน เพื่อให้ช่วยนำปืนไปทิ้งในคลอง



จากการสอบสวน ยืนยันทั้งคู่ไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งอะไรกัน แต่เป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกัน สาเหตุที่พกปืนเข้ามาในโรงเรียน เพื่อนำมาขู่กลุ่มนักเรียนที่เป็นคู่อริในโรงเรียน โดยปืนกระบอกดังกล่าว เป็นของเพื่อนรุ่นพี่ ที่มีความรู้ทางช่างทำปืนไทยประดิษฐ์ .38 ขึ้นมาเอง ทั้งนี้ตำรวจได้คุมตัวรุ่นพี่ที่เกี่ยวข้องทั้ง 5 คน ไว้แล้ว ซึ่งมีทั้งเจ้าของปืนและคนที่เอาปืนไปทิ้งน้ำ



สำหรับวิถีกระสุนพบว่ากระสุนเข้าจากทางด้านหลังศีรษะทะลุออกมาที่เบ้าตา แต่ต้องรอเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบโดยละเอียด เบื้องต้นพบว่าเสื้อกันหนาวของนายต้า มีร่องรอยรูกระสุนปืนทะลุออกมาจริง สำหรับในส่วนของคีย์บอร์ดที่พัง ต้องตรวจสอบอย่างละเอียดว่า เกิดจากอะไร



ขณะเดียวกัน พันตำรวจเอก พฤฒ จำรูญศาสตร์ ผู้กำกับการ สภ.บางบัวทอง และพันตำรวจโท พันธมิตร จ้างประเสริฐ รองผู้กำกับการสอบสวน สภ.บางบัวทอง พร้อมตำรวจชุดพิสูจน์หลักฐาน หรือ พฐ. นำตัว น.ส.ศศินา ครูประจำวิชาคอมพิวเตอร์ เข้าชี้จุดเพื่อจำลองเหตุการณ์ และวิถีกระสุน ทางกองพิสูจน์หลักฐาน ได้นำคีย์บอร์ดและปืนไทยประดิษฐ์กระบอกที่ก่อเหตุ มาจำลองเหตุการณ์ด้วย ใช้เวลาเกือบ 1 ชั่วโมง ก่อนจะเก็บวัตถุพยาน และข้อมูลไปตรวจสอบ



น.ส.ศศินา ให้ข้อมูลว่า น้องโชค นั่งอยู่ตรงโต๊ะตัวที่ 2 จากริมกำแพงด้านใน พอมีเสียงระเบิดดังขึ้น มีนักเรียนตะโกนบอกครูว่า คอมพ์ระเบิด จึงรีบวิ่งไปดูเห็นน้องโชคนอนก้มหน้าเลือดท่วมอยู่ ตนจึงได้ประคองร่างน้องพลิกกลับขึ้นมา เลือดก็กระฉูดออกมาจากด้านหน้าน้อง ตอนนั้นตนไม่ได้สนใจมองสิ่งรอบข้าง ไม่ได้มองแม้กระทั่งเครื่องคอมพิวเตอร์ สนใจแต่จะช่วยเด็กนักเรียนอย่างเดียวเลย ยืนยันไม่ได้คิดปกปิดเรื่องปืน



พันตำรวจโท พันธมิตร เผยว่า จากการจำลองเหตุการณ์ และตรวจวิถีกระสุน พบว่า วิถีกระสุนน่าจะเกิดจากปืนที่อยู่บริเวณหน้าท้องของนายต้า ก่อนที่ปืนจะลั่นทะลุเสื้อแจ็คเก็ต ไปโดนบริเวณหางตาทางด้านซ้ายของน้องโชค และไปทะลุออกด้านขวา ส่วนหัวกระสุนกระเด็นไปโดนคีย์บอร์ดจนแตก และไปกระแทกกับผนังห้องอีกครั้งหนึ่ง ทำให้หัวกระสุนมีลักษณะบี้แบน และมีเพียงแค่นัดเดียว



จากการสอบสวนนายต้า บอกว่า เพิ่งจะมาวันนี้วันแรก แค่จะเอามาขู่เพื่อนอีกกลุ่มหนึ่งที่มีปัญหากันเท่านั้น ส่วนอาวุธปืนที่ใช้ เพื่อนที่ถูกจับกุมด้วยกันสารภาพว่า เป็นเจ้าของปืนและจะแยกดำเนินคดีอีกส่วนนึง



ขณะที่ตำรวจได้ นำตัว ต้า เยาวชนที่ทำปืนใส่เพื่อน และ เพื่อนรุ่นพี่ 5 คนมาสอบสวนตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา ซึ่งจะมีการแจ้งข้อกล่าวหากับทั้ง 6 คนด้วย โดยตำรวจระบุว่า ได้ควบคุมตัว ผู้ร่วมอยู่ในเหตุการณ์นี้รวม 6 คน คือ ต้า นักเรียนชายที่ทำปืนลั่นใส่เพื่อน และ เพื่อนรุ่นพี่อีก 5 คนที่เป็นคนนำปืนไปทำลายด้วยการนำไปทิ้งน้ำ พร้อมกับการแจ้งข้อหา หลังจากมีการสอบสวนร่วมกับสหวิชาชีพคือ



สำหรับ ต้า ถูกดำเนินคดี รวม 3 ข้อหา คือ กระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, มีอาวุธปืนไว้ในครอบครอง และพกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้าน ทางสาธารณะ



เยาวชน เจ้าของปืน ถูกดำเนินคดี 2 ข้อหา คือ มีอาวุธปืนไว้ในครอบครอง และ ร่วมกันช่วยเหลือซ่อนเร้น ทำลายหลักฐาน



ส่วน กัน อายุ 18 ปี ซึ่งเป็นคนนำปืนไปทิ้ง ถูกดำเนินคดี 3 ข้อหา คือ มีอาวุธปืนไว้ในครอบครอง, พกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้าน ทางสาธารณะ และร่วมกันช่วยเหลือซ่อนเร้น ทำลายหลักฐาน ส่วนเยาวชนอีก 3 คน ถูกดำเนินคดี 1 ข้อหา คือ ร่วมกันช่วยเหลือซ่อนเร้น ทำลายหลักฐาน



แม่น้องโชค นักเรียน ชั้น ม.3 ที่ถูกยิงเสียชีวิต ติดใจคำให้การของเพื่อนผู้ก่อเหตุ ว่าเป็นการ ปืนลั่น หรือว่า ตั้งใจกันแน่ รวมถึงติดใจ โรงเรียนที่ออกมาพูดตอนแรกว่าแป้นคีย์บอร์ดระเบิด ยืนยันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด



แม่ของน้องโชค เปิดใจกับนักข่าว ถึงเหตุการณืที่เกิดขึ้นทั้งน้ำตา ว่า ตอนนี้ครอบครัวยังติดใจับคำให้การของ นักเรียนชาย ที่อ้างว่าทำปืนลั่นใส่ลูกชายเธอ ลูกชายเธอไปทำอะไรให้ เป็นเพื่อนกัน ทะเลาะกัน ทำไมจะต้องให้ถึงตาย ซึ่งเธอจะขอดูผลการชันสูตรก่อน ถ้าบ่งชี้ว่าเป็นการยิงในระยะเผาขน จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ประกอบกับจะรอดูพยานหลักฐานของทางตำรวจด้วย และตั้งแต่เกิดเหตุทางครอบครัวยังไม่เคยไดด้พูดคุยกับเพื่อนนักเรียนผู้ก่อเหตุเลย



ซึ่งเธอ ยืนยันว่า น้องโชคไม่ได้เป็นเด็กเกเร เป็นคนสนุกสนาม ชอบเล่นกับเพื่อน และเชื่อว่าลูกชายของเธอไม่มีทางไปหาเรื่องใครก่อนแน่นอน และที่ผ่านมา น้องโชคไม่เคยมาเล่าเรื่องราวที่โรงเรียนให้ฟัง แม่น้องโชค ยังบอกทั้งน้ำตาอีกว่า แม่รักลูก แม่คงไม่มีโอกาสส่งเสียลูกเรียนโปรแกรมเมอร์ หรือทหาร ตามที่ลูกตั้งใจไว้ เพราะลูกมาด่วนจากแม่ไป แต่แม่พร้อมต่อสู้ เพื่อความเป็นธรรมให้กับลูกถึงที่สุด



นอกจากนี้ แม่น้องโชค ยังบอกอีกว่า ตั้งแต่เกิดเรื่อง ทางโรงเรียนยังไม่เคยมาชี้แจงอย่างเป็นทางการกับทางครอบครัว บอกเพียงแต่ว่าอยู่ระหว่างการตั้งคณะกรรมการสอบสวน โดยส่วนตัว แม่ ยังคงติดใจ กับการที่โรงเรียนออกมาชี้แจ้งเหตุครั้งแรกว่า เหตุที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเพียงแป้นคีย์บอร์ดระเบิด จนทำให้ลูกชายเสียชีวิต / อีกทั้งมองว่า เหตุใดโรงเรียนปล่อยให้เด็กนำอาวุธปืนเข้ามาในเขตโรงเรียนได้อย่างไร ทำไมโรงเรียนจึงไม่มีมาตรการด้านความปลอดภัย รวมถึงหลังเกิดเหตุยังปล่อยให้มีการนำ อาวุธปืนออกไปจากโรงเรียนอีก นี่ก็เป็นปอีกระเด็นที่แม่น้องโชคติดใจกับทางโรงเรียน



ขณะที่ช่วงบ่ายที่ผ่านมา แม่ของน้องโชค ได้มารับศพลูกชาย ที่ สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ โดยผลชันสูตร เบื้องต้นแม่บอกว่า ต้องรออีก 2 เดือนถึงผลจะออก และหลังจากนี้จะนำร่างลูกชายไป ประกิบพิธีทางศาสนา ที่ วัดราษฎร์ประคองธรรม อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี จะสวดอภิธรรม 3 วัน ก่อนจะมีพิธีฌาปนกิจในสัปดาห์หน้า



ทันทีที่ร่างของน้องโชค เคลื่อนร่างมาถึงที่วัดราษฎร์ประคองธรรม ศาลา 2 ในช่วงเวลาประมาณ 15.00 น.ที่ผ่านมา มีญาติๆ เพื่อนๆ และครูของโรงเรียนตั้งแถวรอรับอยู่ เมื่อร่างเคลื่อนออกจากรถเข้าศาลา ทุกคนก็ต่างร้องไห้ โดยเฉพาะคุณยายยลดา คุณยายที่เลี้ยงดูน้อง ถึงกับทรุดนั่งลงบนเก้าอี้ โดยมีคนปลอบและดูแลอย่างใกล้ชิด เพราะยังทำใจไม่ได้



จากนั้น คุณยายนันท์นภัส ชโยดมสิทธิ์เดช อายุ 51 ปี พร้อมด้วย นางสาว วรรณพร งามสุด อายุ34 ปี น้าสาวที่น้องโชคเรียกว่าแม่ ก็เปิดใจอีกครั้ง ทั้งน้ำตาว่า ไม่เชื่อว่าสาเหตุครั้งนี้ จะเป็นอุบัติเหตุ คิดว่าไม่น่าจะใช่ หากเด็กเล่นกัน ตีกันอันนั้นยอมรับได้ แต่อันนี้มีปืนเข้าไปในห้องเรียน ไปในโรงเรียน จึงมองว่าไม่ใช่อุบัติเหตุแน่นอน จึงอยากขอความเป็นธรรมให้กับน้องโชค



ที่ผ่านมาน้องเป็นเด็กดี แค่ข้ามถนนเองยังไม่เป็นเลย และน้องเพิ่งจะกลับบ้านเองได้สองวัน ปกติก่อนหน้านี้ ให้ตาไปรับไปส่ง น้องเป็นเด็กเล่นร่าเริง ขออนุญาตทุกอย่าง ทุกคำ เช่นขอเข้าห้องน้ำ ครอบครัว อยากถามผู้ก่อเหตุ ว่าทำไมทำน้อง ส่วนทางโรงเรียนก็ดี ได้ยื่นความช่วยเหลือมา และเปึนเจ้าภาพให้



ส่วนมาตรการความปลอดภัยโรงเรียน ก็ยอมรับว่าติดใจโรงเรียน ผิดที่เด็กที่เอาอาวุธเข้าไปในโรงเรียน ทั้งนี้ทางครอบครัว อยากให้ทุกโรงเรียน อยากให้ปลอดภัยกว่านี้ มีการค้นกระเป๋า ติดตั้งเครื่องตววจอาวุธ มีกล้องวงจรปิดในห้องเรียน



ส่วนที่ตำรวจบอกว่า น้องโชค สนิทกับผู้ก่อเหตุ ทางครอบครัวยืนยันว่าไม่เคยเห็นเด็กคนนี้ และถามเพื่อนในกลุ่มแล้ว ยืนยันว่าไม่ใช่ เหตุที่เกิดขึ้นไม่น่าใช่อุบัติเหตุ แต่อาจจะมีสาเหตุอื่น (ยาเสพติด) หรือไม่ และเด็กคนนี้เท่าที่ทราบก็ขาดเรียนไปนาน เพิ่งจะกลับมา เลยไม่รู้ว่าเกี่ยวหรืงไม่ ส่วนญาติผู้ก่อเหตุ ไม่ได้ติดต่อเลย ไม่มีเลย ไม่เคยเห็นหน้าเลย



ส่วนในแชทที่ระบุว่า ปืนลั่น ครอบครัวน้องโชค อธิบายว่า คำว่าลั่น ของเด็กวัยรุ่น ไม่เหมือนกับความหมายทั่วไป แต่หมายถึงพลั้งมือก่อเหตุไปแล้วมากกว่า อยากบอกกับดวงวิญญาณน้องโชคว่า ไม่ต้องห่วง ให้ไปสู่คติภพภูมิที่ดี เกิดชาติใหม่ ให้กลับมาเป็นลูกหลานกันอีก



ทางด้าน ทนายปิยณัฐ สุกยัง เลขาธิการเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ระบุว่า จากที่ฟังแถลงเมื่อเช้า ยังคาใจในประเด็น ว่ามีการตรวจคราบเขม่าดินปืนที่มือผู้ก่อเหตุหรือไม่ เพราะจะบ่งชี้ได้ว่า มีการล้วงเข้าไปในกระเป๋า มีการจับอาวุธปืนหรือไม่ พร้อมฝากย้ำมาตนการรักษาความปลอดภัยในโรงเรียน ไปกับทางกระทรวงศึกษาธิการ ไม่อยากให้เกิดซ้ำ โรงเรียนควรเป็นสถานที่ปลอดภัย


รับชมทางยูทูปที่ : https://youtu.be/43EtF8EmneI

คุณอาจสนใจ

Related News