รวบแล้ว 1 แก๊งปล้นทองพบพระ ประสานตร.เมียนมา-รัฐกะเหรี่ยง เร่งล่าอีก 3

ตำรวจใช้เวลาเพียง 4 วันก็จับตัว 1 ในทีมร่วมปล้นร้านทองในอำเภอพบพระ จังหวัดตาก เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมาได้แล้ว เบื้องต้นรับสารภาพว่าร่วมวางแผนและจัดหาปืนให้ แต่ไม่ได้ไปในวันก่อเหตุ



ภาพวงจรปิดภายในร้านทองกรุงเทพ 4 สาขาอำเภอพบพระ จังหวัดตาก เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ คนร้ายขับรถกระบะเข้ามาที่หน้าร้านตอนบ่าย 2 โมง 6 นาที ซึ่งขณะนั้นในร้านมี 2 สามีภรรยากำลังเลือกซื้อทองอยู่ จากนั้นก็มีเสียงปืนดังขึ้น แล้วเจ้าของร้านก็ล็อคประตูทันที ทำให้ลูกค้า 2 คน ไม่สามารถเปิดประตูได้ และเข้าไปหลบอยู่หลังเคาน์เตอร์ร้านทอง



ซึ่งคนร้ายที่ยิง คือ นายคึ แซ่ท้าว อายุ 22 ปี จากนั้น นายวิชัย แซ่ว่าง อายุ 31 ปี ก็ใช้ค้อนทุบกระจกเพื่อเปิดทางเข้ามา แล้ว นาย เต้อ แซ่ท้าว อายุ 23 ปี ก็เข้ามาเป็นคนแรก ตามด้วยนายวิชัย และ นายคึ โดย นายเต้อ ได้ปีนขึ้นเคาน์เตอร์ร้านทองทุบกระจกตู้โชว์ ก่อนจะกวาดทองไป เช่นเดียวกับ นายวิชัย ที่เป็นคนกวาดทองอยู่อีกฝั่งซึ่งกล้องวงจรปิดจับภาพไม่ได้ ส่วนนายคึ เมื่อเห็นว่าได้ทองแล้ว ก็เดินออกไปขึ้นรถกระบะเพื่อเตรียมหนี โดยการก่อเหตุครั้งนี้ใช้เวลาไม่ถึง 1 นาที ได้ทองคำไป 182 บาท มูลค่ากว่า 5 ล้านบาท



เมื่อช่วงสายที่ผ่านมา ตำรวจ สภ.พบพระ ขอศาลจังหวัดแม่สอดออกหมายจับแล้ว 4 คน ที่ร่วมขบวนการ คือ นายวิชัย แซ่ว่าง คนที่ทุบกระจกและปล้นทอง นายเต้อ แซ่ท้าว คนที่ปีนเคาน์เตอร์ปล้นทอง นายคึ แซ่ท้าว ทำหน้าที่ขับรถและยิงเปิดทาง และอีกคนหนึ่งที่ถูกออกหมายจับและตำรวจตามจับได้แล้ว คือ นายวรพงษ์ อายุ 23 ปี รับสารภาพว่า ร่วมกับทั้ง 3 คน วางแผนปล้นและเป็นคนจัดหาอาวุธปืน ซึ่งตำรวจอยู่ระหว่างการสอบปากคำอยู่ที่ สภ.พบพระ เพื่อขยายผลถึงจุดซ่อนทอง และเส้นทางหลบหนีของทั้ง 3 คน



ทีมข่าวได้เข้าไปสำรวจที่บ้านของ 1 ในผู้ต้องสงสัย ที่หมู่บ้านรวมไทยพัฒนา ต.รวมไทยพัฒนา อ.พบพระ จ.ตาก พบว่าปิดเงียบไม่มีคนอยู่ ส่วนเพื่อนบ้านใกล้กันให้ข้อมูลว่า บ้านหลังนี้ คนฝั่งเมียนมามาปลูกทิ้งไว้ประมาณ 5-6 ปีที่แล้ว เป็นครอบครัว พ่อแม่ลูก คนลูกน่าจะวัยประมาณ 20-30 ปี แต่ก็จะไม่ได้ค่อยได้มาอยู่ ส่วนมากจะอยู่ฝั่งเมียนมา และจะข้ามมานานๆ ที



นอกจากทีมข่าวยังพบกับ เจ้าของร้านขายเครื่องมือเกษตรในหมู่บ้าน ซึ่งยอมรับว่า เสื้อยืดสีแดงที่ 1 ในคนร้ายใส่ เป็นเสื้อของร้านขายของเกษตรของเธอที่แจกให้ลูกค้าเวลามาซื้อของเท่านั้น แต่ยืนยันว่าไม่ได้รู้จักคนร้าย เช่นเดียวกับร้านขายเสื้อผ้าที่ทีมข่าวไปเจอว่าคนร้ายน่าจะมาซื้อกระเป๋าจากร้านนี้ ก็อยู่ภายในหมู่บ้านเดียวกัน



ส่วนการติดตามตัว ผู้ต้องหา อีก 3 คน พลตำรวจโท อัคราเดช พิมลศรี ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 6 เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาอีก 3 คนที่หลบหนี รายงานข่าวทราบว่าไปกบดานอยู่ในชุมชนที่ฝั่งประเทศเมียนมา ซึ่งทางการไทยได้ประสานส่งข้อมูลทั้งหมดให้กับผู้นำรัฐกะเหรี่ยงและผู้นำเมียนมา เพื่อขอความช่วยเหลือในการติดตามตัวคนร้ายแล้ว

ชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/gAYNN14UIoQ