อาชญากรรม

‘ชูวิทย์’ โพสต์ ‘ยิ่งคุ้ย ยิ่งเละ’ คดีตู้ห่าว – นายกฯสั่งสาวให้ลึก คดีทุนจีนสีเทา รายงานทุก 15 วัน

โดย petchpawee_k

28 ธ.ค. 2565

39 views

ปปส. กทม. จับมือฝ่ายสืบสวนและพิสูจน์หลักฐาน เปิดรถของกลาง 11 คัน ในผับจินหลิง เก็บลายนิ้วมือและดีเอ็นเอ พบยังไม่เคยถูกตรวจสอบ หลังยึดไว้ทั้งหมด 35 คัน

วานนี้ (วันที่ 27 ธ.ค.) เมื่อเวลา 12.00 น. พล.ต.อ.สุรเชษฐ หักพาล รอง ผบ.ตร.พร้อมด้วย พ.ต.อ.กู้เกียรติ เจริญบุญ อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด นายอุดมชัย โลหณุต. ผอ.สำนักงาน ปปส.กทม. และกองพิสูจน์หลักฐานได้เข้าไปเปิดรถยนต์ของกลางจำนวน 11 คัน จากที่ตรวจยึดไว้ 35 คัน ในผับจินหลิง เขตยานนาวา กรุงเทพมหานคร


โดยพบว่ารถทั้ง 11 คันยังไม่เคยถูกเปิดและเก็บลายนิ้วมือ รวมทั้งดีเอ็นเอและเอกสารภายในรถ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าส่วนใหญ่เป็นรถของนายทุนจีนสีเทา ที่มีความเกี่ยวข้องกับนายตู้ห่าว โดยเฉพาะรถยนต์ อัลพาร์ด สีดำทะเบียน 7 กภ 1234 ซึ่ง จากเอกสารภายในรถพบว่าเป็นของนายหยาง เฉิน ซึ่งมีศักดิ์เป็นหลานของนายตู้ห่าว และอีกคันคือรถยนต์โรลสรอยส์ ซึ่งมีมูลค่ากว่า 50 ล้านบาท โดยพบว่ารถยนต์คันดังกล่าวมีความเชื่อมโยงไปถึงคอนโดมิเนียมหรูริมแม่น้ำเจ้าพระยาย่านตากสิน โดยก่อนหน้านี้มีการตรวจค้นไปแล้วสองครั้งและตรวจยึดอายัดทรัพย์สินไว้จำนวนมาก


พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า การเข้าตรวจค้นวันนี้เป็นการตรวจเก็บลายนิ้วมือและดีเอ็นเอภายในรถแต่ละคันซึ่งที่ผ่านมายังไม่ได้เปิดตรวจ จึงต้องทำให้ครบถ้วนนอกจากนี้ยังมีหลักฐานอีกหลายรายการที่ไม่ได้ถูกตรวจเช่นกันไม่ว่าจะเป็นชิปแลกเงินสำหรับเล่นการพนัน ถาดรองไม้ซึ่งน่าจะใช้เป็นถาดรองยาเสพติดสำหรับสูดดม และยังมีหลอดสำหรับเสพยาตกกระจัดกระจายอยู่ในพื้นที่


โดยยืนยันว่าขณะนี้ฝ่ายสืบสวนได้ ดำเนินการในส่วนของคดีนายตู้ห่าว ครบแล้ว 100% ที่เหลือเป็นส่วนของสำนวนการสอบสวนซึ่งกองบัญชาการตำรวจนครบาลเป็นผู้รับผิดชอบ ทางทีมสืบสวน ไม่มีความเกี่ยวข้อง

ส่วนปัญหาที่นายชูวิทย์ เป็นห่วงนั้น รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ บอกว่า ไม่ต้องเป็นกังวลเพราะถึงปัจจุบันนี้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้เข้ามาดูแลเรื่องสำนวนการสอบสวนด้วยตัวเองดังนั้นการทำงานจากนี้ไปก็ต้องเป็นไปตามกลไกส่วนจะมีการบันทึกหลักฐานชิ้นใดเกี่ยวข้องกับในคดีใดบ้างส่วนนี้เป็นหน้าที่ของนครบาล

ขณะที่ผู้อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดกรุงเทพมหานครบอกว่าการตรวจเก็บในวันนี้จะนำไปเป็นหลักฐานสำคัญในการเชื่อมโยงข้อมูลในคดีต่างๆ โดยขณะนี้ทาง ปปส ได้มีการยึดอายัดซับไว้แล้วกว่า 4,400 ล้านบาท และไม่ได้รู้สึกหนักใจ เพราะทรัพย์สินที่ยึดมาเป็นทรัพย์สินที่มีความเกี่ยวข้องกับคดีและมีความเกี่ยวเนื่องจึงต้องยึดมาตรวจสอบ อย่างไรก็แล้วแต่กระบวนการในการดำเนินการของ ปปส จะต้องเริ่มขึ้นหลังจากคดีอาญาสิ้นสุดแล้ว


นอกจากเก็บพยานหลักฐานลายนิ้วมือดีเอ็นเอในรถยนต์ทั้งหมดแล้วในวันนี้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานยังได้ทำบันทึกตรวจยึดและตรวจเก็บหลักฐานดีเอ็นเอจากกองวัสดุที่ถูกนำมาวางรวมไว้กลางลานซึ่งพบว่ามีทั้งอุปกรณ์ที่ใช้ในสถานบันเทิง ถ้วยชามแก้วทั้งขยะ รวมไปถึงเศษอาหารจำนวนมากส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้ง ขณะที่ภายในหลายห้องยังอยู่ระหว่างการตรวจเก็บวัตถุพยาน ของกองพิสูจน์หลักฐาน ซึ่งยังไม่เปิดให้บุคคลใดเข้าไปภายในได้


ทั้งนี้การดำเนินการตั้งแต่ช่วงเช้ากินเวลา ต่อเนื่องมาถึงช่วงบ่ายโดยมีการระดมช่างกุญแจฝีมือดีที่สามารถเปิดรถยนต์ที่ทันสมัยเป็นระบบไฟฟ้า มาช่วยเปิดประตูเนื่องจากกุญแจทั้งหมด ไม่มีใครยอมรับว่าอยู่ที่ไหน โดยรถยนต์คันที่เปิดยากที่สุดก็เป็นรถยนต์เบนซ์สีดำ ทะเบียน 3 กว 6666 ซึ่งถูกระบุว่าเป็นของนายทุนจีนสีเทาที่มีความเชื่อมโยงกับคดียาเสพติดสำคัญ ซึ่งใช้ระยะเวลาในการเปิดอยู่นาน


จะเห็นได้ว่าการเข้าตรวจสอบวันนี้เป็นส่วนหนึ่งจากที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ตั้งข้อสงสัยว่าเหตุใดการดำเนินการจึงไม่ทำให้แล้วเสร็จในวันที่มีการจับกุมทั้งๆที่สถานที่ทั้งสามแห่งติดกัน


ซึ่งในเรื่องดังกล่าวรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติบอกว่า ไม่ทราบเพราะไม่ได้อยู่ในชุดจับกุมเนื่องจากในวันที่เกิดเรื่องเป็นการดำเนินการของชุดจับกุมจากกองบัญชาการตำรวจนครบาล จึงไม่สามารถให้ความเห็นในเรื่องนี้ได้

--------------------------------


ขณะที่ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองโพสต์เฟซบุ๊กเกี่ยวเนื่องคดี “ตู้ห่าว” ระบุว่า 


“ชิบหายแน่แล้ว!


ผบช.น. มัวทำอะไรอยู่? ผ่านไป 2 เดือน พอดิบพอดี ของกลาง หลักฐานเสพยา ยังอยู่ที่เดิม รถอีก 11 คัน ก็ยังไม่ได้ค้น  ช่วยย้ายออกไปหน่อย ไม่ใช่ย้ายของกลางนะ แต่ย้าย ผบช.น. ออกไปจากกรุงเทพฯ ทีเถอะ!”


นอกจากนี้นายชูวิทย์ยังโพสต์ด้วยว่า  “ดดี “ตู้ห่าว” ยิ่งคุ้ย ยิ่งเน่า วันนี้ เลขา ป.ป.ส. อัยการ และตำรวจทีม “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ไปตรวจทรัพย์สินที่ถูกอายัดในที่เกิดเหตุคดี “จินหลิง”    มีรถยนต์หรูของกลางจำนวน 11 คัน จาก 35 คัน ที่พบว่าไม่ได้ตรวจมาก่อนจากทีม บชน.  ไม่เหมือนที่ ผบช.น. เคยให้สัมภาษณ์ว่า “มีการตรวจทุกคันและถ่ายวีดีโอไว้เป็นหลักฐาน”


เพราะวันนี้ 27 ธันวาคม ผ่านมา 2 เดือนแล้ว  พบว่า “รถตู้อัลพาร์ด” ของนายหยาง เฉิน หลานนายตู้ห่าว ที่ปล่อยหนีไปในวันเกิดเหตุ 26 ตุลาคม ยังไม่เคยถูกค้น ของในรถยังอยู่ครบสภาพเดิม  ปรากฏพบเขียงไม้ที่แบ่งยาเสพติด มีร่องรอยคราบยาอยู่ มีหลอดดูดยา และที่ปั่นจมูก   หลักฐานทั้งหมด ยังอยู่ในรถตู้ของหลานตู้ห่าว และภายในจินหลิง ที่เพิ่งตรวจพบวันนี้นี่เอง  ทั้งที่ผ่านมากว่า 2 เดือนแล้ว ทำไม ผบช.น. ไม่ได้ตรวจยึดเอาไว้เป็นของกลาง?


และยังพบ ชิพ อุปกรณ์การเล่นพนันอีก ที่แสดงถึง จำนวนเงินหมุนเวียนภายในเป็นจำนวนมาก  นับเป็นความ “สะเพร่าอย่างร้ายแรง” ของการทำงานในทีม ผบช.น. หากเป็น “นักสืบมืออาชีพ” จริง มีอย่างที่ไหน ทิ้งของกลางในคดี ไม่เก็บไว้เป็นหลักฐาน  ไม่ได้สนใจ ไม่ให้ความสำคัญ หน่วยอื่นไปตรวจพบโดยบังเอิญ


ในวันนี้ 27 ธันวาคม ผ่านไป 2 เดือนแล้ว ยังพบร่องรอยของการใช้ยาเสพติดมากมาย ทั้งในรถของหลานตู้ห่าว และภายในอาคาร “จินหลิง” ที่กลับถูกแม่บ้านกวาดออกมากองอยู่ด้านนอก  หลักฐานที่ต้องเก็บให้ดีในวันแรกกลับถูกละเลย เพิกเฉย ไม่สนใจ เช่นเดียวกับพยานสำคัญที่ปล่อยหลุดไปหมด


การทำ “สำนวน” ให้อ่อนปวกเปียกมีวิธีการทำมากมาย แต่ไม่เคยเห็นที่โจ๋งครึ่มแบบนี้มาก่อน  ขนาดเป็นเรื่องใหญ่ สังคมให้ความสนใจขนาดนี้ ยังแกล้งโง่ได้ถึงเพียงนี้  แม้อัยการจะเก่งขนาดไหน แต่เมื่อไม่เก็บพยานหลักฐาน ร่องรอยทั้งหมดไว้


ท้ายสุด ศาลจะไม่สามารถลงโทษได้อย่างปราศจากความสงสัย ว่าเหตุใดตำรวจถึงเว้นวรรคเรื่องที่ต้องทำ ต้องเก็บ ยกเว้นว่า “ยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลย”  ใครจะไปรู้ว่างานใหญ่แบบนี้   ดันปล่อยให้ “มือสมัครเล่น” มาทำงาน เพราะยิ่งคุ้ย ยิ่งเละ

---------------------------------------------

นายกฯ สั่งรายงานความคืบหน้าคดีทุนจีนสีเทาทุก 15 วัน สาวให้ลึกเข้าข่ายอาชญากรรมข้ามชาติหรือไม่


 วานนี้ (วันที่ 27 ธ.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง และโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า นายกรัฐมนตรี มีข้อสั่งการในที่ประชุมครม. ถึงการตรวจและจับกุมเครือข่ายทุนต่างชาติที่ประกอบธุรกิจผิดกฎหมาย หรือคดีเครือข่ายกลุ่มทุนจีนสีเทา


โดยให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเร่งตรวจสอบดำเนินคดีกับกลุ่มทุนจีน นายชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ หรือตู้ห่าว และคณะ มีพฤติกรรมอะไรทำความผิดในลักษณะอาชญากรรมข้ามชาติ หรือให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความร่วมมืออย่างเป็นกำลังความสามารถ เพื่อให้หน่วยงานที่ได้รับมอบหมายรายงานผลความคืบหน้าและอุปสรรคให้นายกรัฐมนตรีทราบทุก 15 วัน

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/nbvDkswdkpg

คุณอาจสนใจ

Related News