อาชญากรรม

ป.ป.ท.บุกจับทนายอาสาเครือข่ายสวมบัตรประชาชนคนจีน ไหวตัวทันหนีพร้อมพวก

โดย nattakarn_l

23 ธ.ค. 2565

813 views

           นายศานต์ชาติ ตึดสันโดษ นักสืบสวนสอบสวนชำนาญการพิเศษ ป.ป.ท.ภาค 3  พร้อมด้วย ชุดสืบสวน สภ.เดชอุดม  และฝ่ายปกครอง  นำหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3 โดยศาลจังหวัดเดชอุดมทำการแทน เข้าจับกุมนายปารเมศ  อายุ 59 ปี  ทนายอาสาประจำสถานีตำรวจภูธรเดชอุดม พร้อมพวกรวม 3 คน ในข้อหาสนับสนุนเจ้าพนักงานปฎิบัติหน้าที่โดยทุจริต (สวมบัตรประชาชน) ขณะปฏิบัติหน้าที่ทนายความอาสาบนสถานีตำรวจภูธรเดชอุดม   แต่นายปารเมศ ไหวตัวทันชิงหลบออกด้านหลังของโรงพัก ก่อนจะแอบเข้ามาเอารถขับหลบหนีออกไป เจ้าหน้าที่พยายามไล่ตามแต่ก็ไม่ทัน

          สำหรับกรณีการสวมบัตรประชาชนในพื้นที่เดชอุดม  เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2557 โดยเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท.ได้สอบสวนขยายผลจนพบว่า  นอกจากปลัดอำเภอในขณะนั้นแล้ว  ยังมีผู้สมรู้ร่วมคิดสนับสนุนจัดหาคนมาสวมบัตรอีก 4 ราย ซึ่่งมีนายปารเมศ  ทนายความและทนายความอาสาประจำ สภ.เดชอุดม  เป็นผู้สมรู้ร่วมคิดด้วยทุกราย  ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมานายปราเมศ พร้อมพวกได้หลบหนีไม่ไปพบพนักงานอัยการเพื่อเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมาย  ซึ่งทางเจ้าหน้าที่พยายามติดตามหลายครั้งจนต้องให้พนักงานสอบสวน สภ.เดชอุดม ออกหมายจับเมื่อช่วงเที่ยงวานนี้ ( 22 ธ.ค)

             ตลอดทั้งวันที่เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท.ขอหมายจับ นายปราเมศยังใจเย็นปฏิบัติหน้าที่ทนายอาสาอยู่บนโรงพัก  แต่เมื่อหมายจับออกมาแล้ว เหมือนมีพรายกระซิบ แจ้งนายปราเมศว่าถูกออกหมายจับแล้ว จึงไหวตัวทันหนีออกทางด้านหลังโรงพัก  เจ้าหน้าที่  จึงไปที่สำนักงานทนายความของนายปราเมศ  แต่ก็ไร้วี่แวว  มีเพียงเจ้าหน้าที่ออกมาบอกว่าไม่อยู่ ไม่ได้เข้ามาที่สำนักงาน  เมื่อไปที่บ้านผู้ร่วมขบวนการอีก 2 คน คือ   นางจำนงค์  และนายสัตยา  ก็ไม่พบตัวทั้งคู่  สอบถามจากเพื่อนบ้านทราบว่านางจำนงค์ออกไปรับหลานที่โรงเรียน  แต่เมื่อเพื่อนบ้านลองโทรไปหา  นางจำนงค์กลับบอกว่า   “มีคนมาหาใช่ไหม บอกไปว่าไปไหนไม่รู้”  จึงคาดว่านายปราเมศ อาจจะโทรแจ้งเครือข่ายให้ทราบและหลบหนีไปก่อนแล้ว

         แต่เจ้าหน้าที่จะยังเร่งไล่ล่าติดตามตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย มาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว

คุณอาจสนใจ

Related News