แม่เด็กเหยื่ออุ้มนักเรียนช่างกล 3 ราย ร้องกระทรวงยุติธรรม หวั่นความปลอดภัยถูกข่มขู่ - สถาบันเตรียมพิจารณาจ่อไล่ผู้ก่อเหตุออก

ทนายปิยณัฐ เลขาธิการเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พาครอบครัวเด็กอาชีวะ 3 คน ผู้เสียหายที่ถูกเด็กอาชีวะทารุณกรรมย่านรามคำแหง เข้าร้องขอความเป็นธรรมกับนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เพื่อขอให้ดำเนินการคุ้มครองพยานเนื่องจากถูกคู่กรณีข่มขู่เกรงจะได้รับอันตราย

โดยทนายปิยณัฐกล่าวว่า ที่มาร้องทุกข์วันนี้เนื่องจากต้องการให้ช่วยเร่งรัดการดำเนินคดี ตอนนี้ยังเหลือผู้ต้องหา 2 รายที่ลอยนวล จากทั้งหมดแก๊ง 17 คน จึงอยากให้เร่งไล่ล่าตามจับโดยเร็ว



อีกทั้งตอนนี้ทางครอบครัวโดยเฉพาะน้องผู้เสียหายยังกังวลในเรื่องความปลอดภัย มีภาวะหวาดกลัวและซึมเศร้า จึงขอให้กระทรวงยุติธรรมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น พม. หรือกรมสุขภาพจิต เข้ามาช่วยเหลือด้านสุขภาพจิต



นอกจากนี้ยังร้องขอการคุ้มครองพยานตามกฎหมายคุ้มครองพยานในคดีอาญา เนื่องจากกังวลในความปลอดภัยและกังวลว่า หากผู้ต้องหาได้รับการประกันตัวภายหลัง ก็อาจจะกลับมาตามแก้แค้นได้



ทนายปิยณัฐยังเปิดเผยเรื่องคดีอาวุธปืนว่า ทั้งตนและผู้เสียหายยังติดใจที่ไม่เจออาวุธปืนของกลาง จึงอยากให้ทางตำรวจเร่งขยายผลตรงนี้ เพราะมีพิรุธที่กลุ่มเยาวชนจะสามารถครอบครองหาซื้ออาวุธปืนเหล่านี้ได้ ทั้งที่ราคาสูงถึงหลักหมื่นหลักแสน และน้องผู้เสียหายก็ยืนยันว่าพบอาวุธปืนสงครามในบ้านด้วย จึงมองว่าการที่ผู้ปกครองผู้ก่อเหตุบอกไม่มีส่วนรู้เห็นคงเป็นไปไม่ได้ อยามให้ตอบคำถามสังคมว่าอาวุธปืนของกลางหายไปไหนหมด ส่วนการเพิ่มข้อหาครอบครองอาวุธ สามารถเพิ่มได้ภายหลัง จึงฝากความหวังให้ตำรวจขยายผลเพิ่มเติม




ด้านคุณแม่น้องโอ๊ต เปิดเผยว่า ตอนนี้สุขภาพจิตของน้องโอ๊ตยังคงย่ำแย่ เครียดเรื่องคดีและกังวลกลัวกับกลุ่มผู้ก่อเหตุว่าจะตามมาล้างแค้นเอาคืน เท่าที่ทราบมีการส่งข้อความข่มขู่ลูกผ่านกลุ่มของเพื่อนอีกที ทั้งที่คนที่ควรจะต้องแค้นเป็นฝ่ายแม่น้องผู้เสียหายมากกว่า เพราะพวกเขาทำกับลูกเราแบบนี้ ไม่ใช่พวกเขาที่เป็นฝ่ายแค้น ส่วนกับแม่โดยตรงยังไม่มีใครมาข่มขู่



คุณแม่ยังกล่าวอีกว่า อยากให้ทางตำรวจเร่งไล่ล่าจับกุมผู้ต้องหาอีก 2 ราย ยอมรับว่าตอนนี้พอใจมากขึ้นที่ผู้ต้องหาที่จับกุมได้ไม่ได้รับการประกันตัว แต่ก็กังวลที่ในอนาคตอาจจะได้รับการประกันตัวได้ โดยเฉพาะความปลอดภัย ซึ่งแม่ก็ดูแลลูกอยู่ในสายตาตนตลอด



ส่วนประเด็นที่ผู้ต้องหาโดยเฉพาะนายอีที่ตอบโต้ว่าฝั่งผู้เสียหายกล่าวไม่จริงและที่มีบาดแผลเนื่องจากต่อยกันเองนั้น แม่นายโอ๊ตกล่าวว่า แม่ไม่ได้สนใจ เขามีสิทธิจะพูดอะไรก็เรื่องเขา เรามีหลักฐานมัดตัวเพียงพอ

นายทวีศักดิ์ ผู้อำนวยการศูนย์ความปลอดภัย สอศ. (สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา) เปิดเผยว่า ตอนนี้คดีอุ้มเด็กอาชีวะไปทำร้ายย่านรามคำแหง ทางอาชีวะร่วมกับตำรวจในการปราบปรามและจับกุมดำเนินคดีอย่างเต็มที่ ส่วนสถานศึกษาอาชีวะแห่งหนึ่งย่านมีนบุรีผู้ต้องหา ได้ประสานให้สถาบันดำเนินการพิจารณาลงโทษตามระเบียบวินัยของสถาบัน คาดว่าจะเป็นการไล่ออก

ส่วนความเชื่อมโยงกับกลุ่มผู้ก่อเหตุเอาเข็มขัดจี้ที่บางชันนั้น ผอ.กล่าวว่า แม้จะพบว่าผู้ก่อเหตุเรียนที่สถานศึกษาเดียวกัน แต่ยังไม่พบความเชื่อมโยงกัน เป็นคนละกลุ่ม แต่ประสานให้สถานศึกษาต้นสังกัดดำเนินการลงโทษทางวินัยแล้วเช่นกัน และสั่งการให้สถานศึกษาดังกล่าวทบทวนและเฝ้าระวังการก่อเหตุซ้ำซากจากผู้มีอิทธิพลหรือสุ่มเสี่ยงในสถาบัน



นอกจากนี้ยังส่งเรื่องให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติและกระทรวง DES เร่งจัดการปราบปรามการที่เด็กอาชีวะโพสต์ยุยงในโลกโซเชียล พร้อมทั้งหารือกับกระทรวงศึกษาธิการและสำนักงานตำรวจแห่งชาติในการปราบผู้มีอิทธิพลในสถานศึกษาอาชีวะ โดยให้สถาบันส่งรายชื่อกลุ่มนักเรียนที่มีอิทธิพล มีอาวุธ หรือยุยงปลุกปั่นในทางโซเชียล เพื่อดำเนินการเฝ้าระวังและดำเนินการปราบปรามจับกุมดำเนินคดี อีกทั้งยังจะป้องกันการนำอาวุธ ยาเสพติด การพนัน สิ่งผิดกฎหมาย หรือการสร้างอิทธิพลในสถานศึกษาโดยเด็ดขาด เพื่อให้นักเรียน พ่ออม่ ผู้ปกครอง ไว้วางใจและเชื่อมั่นในความปลอดภัยของสถานศึกษาอาชีวะ