อาชญากรรม

มอบตัว 1 ราย นักเรียนอาชีวะแก๊งอุ้มเด็กช่างกล 3 คนขืนใจ จ่อออกหมายจับผู้ใหญ่เพิ่ม 3 ราย-หมายเรียกเยาวชนอีก 1 ราย

โดย kanyapak_w

15 พ.ย. 2565

1.9K views

(15 พ.ย.) ความคืบหน้าล่าสุดคดีเด็กช่างกล 3 คนถูกกลุ่มเด็กช่างคู่อริอุ้มไปทำร้ายร่างกายในบ้านทรงไทย ซอยรามคำแหง 63 ซึ่งมีผู้ต้องสงสัยร่วมก่อเหตุทั้งสิ้น 17 คน ก่อนหน้านี้ได้ออกหมายจับผู้ใหญ่ไป 8 คนและหมายเรียกเยาวชน 5 คน และทางตำรวจได้เตรียมออกหมายจับผู้ใหญ่เพิ่มอีก 3 รายและหมายเรียกเยาวชนเพิ่ม 1 รายนั้น



ล่าสุด วันนี้ พนักงานสอบสวน สน.หัวหมากเปิดเผยกับทีมข่าวว่า ขณะนี้มีเยาวชนที่ถูกออกหมายเรียกในลอตแรกมามอบตัวเพิ่มเมื่อคืนนี้ 1 คน คือ นายเติ้ล(นามสมมติ) ซึ่งพนักงานสอบสวนระบุว่า มีพฤติการณ์เป็นผู้ขี่รถมารับนายโอ๊ตและบังคับให้เหยื่ออมนกเขาตนเอง โดยพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาไป 3 ข้อหาตามรายงานข่าวก่อนหน้านี้ และจะนัดให้นายเติ้ลมาสอบปากคำร่วมกับสหวิชาชีพในวันนี้ เวลา 10:00 ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายเติ้ลเป็นหนึ่งในสองคนที่มีการกล่าวอ้างว่าเป็นผู้มีผลงานในวงการบันเทิง



ส่วนผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับไปก่อนหน้านี้ รวมถึงเยาวชนที่ถูกออกหมายเรียกไปก่อนหน้า พนักงานสอบสวน สน.หัวหมาก ระบุว่า ตอนนี้ยังไม่มีผู้ต้องหาผู้ใหญ่รายใดประสานขอเข้ามามอบตัว ส่วนเยาวชนที่ถูกออกหมายเรียก มีเพียงนายอี (นามสมมติ) คนเดียวเท่านั้นที่ทางผู้ปกครองประสานมามอบตัว แต่ยังไม่บอกว่าภายในเมื่อไหร่ แต่ต้องภายในวันที่ 21 พฤศจิกายนซึ่งเป็นกำหนดวันนัดหมายตามหมายเรียก



ดังนั้น จนถึงตอนนี้ มีผู้ต้องหาผู้ใหญ่ตามหมายจับ 8 ราย และยังคงควบคุมตัวได้เพียงแค่ 3 ราย ส่วนอีก 5 ราย ฝ่ายสืบสวนกำลังเร่งไล่ล่าตัว เบื้องต้นมีรายงานว่าได้กระจายหลบหนีออกนอกพื้นที่แล้ว ส่วนเยาวชนที่ถูกออกหมายเรียกไป 5 ราย ขณะนี้มีเพียงนายเติ้ลที่มามอบตัวแล้วและนายอีที่เตรียมประสานมอบตัว แต่อีก 3 คนยังไม่ได้ประสานเข้ามา ซึ่งถ้าหากเลยกำหนดตามหมายเรียกคือ 21 พฤศจิกายน ก็จะเตรียมขอศาลอนุมัติหมายจับเยาวชนที่ยังไม่มามอบตัวตามหมายเรียกต่อไป



ส่วนที่มีรายงานว่าทางตำรวจเตรียมออกหมายจับผู้ใหญ่อีก 3 รายและหมายเรียกเยาวชน 1 รายนั้น พนักงานสอบสวนกล่าวว่า ต้องรอสอบปากคำกับผู้เสียหายเพิ่มอีกสองราย คือนายซับและนายโอ๊ต เนื่องจากอายุไม่ถึง 18 ปี ต้องร่วมสอบกับสหวิชาชีพ จึงนัดหมายให้มาสอบปากคำเพิ่มในวันนี้เวลาบ่ายสอง เพื่อรวบรวมข้อมูลและพยานหลักฐานเพิ่มเติมสำหรับออกหมายแก่ผู้ต้องสงสัยทั้ง 4 ราย หากไม่มีอะไรผิดพลาด ก็จะสามารถขอศาลออกหมายได้ภายในวันพุธนี้ ส่วนเมื่อวานนี้เป็นการนัดสอบเพิ่มนายฟลุ๊ค(นามสมมติ) ซึ่งอายุเกิน 18 ปีแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องใช้สหวิชาชีพ



ทั้งนี้ พนักงานสอบสวน สน.หัวหมาก เปิดเผยอีกว่า เบื้องต้นยังคงแจ้งข้อหา 3 ข้อหา คือ กักขังหน่วงเหนี่ยว ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วนข้อหาอื่น ๆ ต้องรอสรุปสำนวนและสอบสวนหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมอีกครั้ง ขณะที่บรรดาผู้ปกครองของกลุ่มผู้ก่อเหตุ ทางพนักงานสอบสวนกล่าวว่า เบื้องต้นยังไม่แจ้งข้อหาใด ๆ ขอดำเนินการกับ 17 คนให้ครบถ้วนก่อน แล้วค่อยสอบสวนฝั่งผู้ปกครองอีกครั้ง หากสอบสวนและพบว่ามีส่วนช่วยเหลือหรือปกปิดการกระทำความผิดก็เตรียมแจ้งข้อหาดำเนินคดีต่อไป อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ยังคงมีผู้ต้องก่อเหตุคงที่ 17 ราย เป็นผู้ใหญ่ 11 ราย และเยาวชน 6 ราย ยังไม่มีการขยายผลถึงผู้ก่อเหตุอื่น ๆ เพิ่มเติมแต่อย่างใด




ขณะเดียวกันด้านครอบครัวเหยื่อ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ทนายรณรงค์ แก้วเพ็ชร์  ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พร้อมด้วย ครอบครัวผู้เสียหายจากกรณีถูกกลุ่มเด็กช่างกลจับ 3 วัยรุ่น รุมทำร้ายร่างกาย ใช้อาวุธปืนข่มขู่ บังคับให้อมนกเขา เข้ายื่นหนังสือต่อ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์  สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อขอให้รับทำคดี ถูก 17 วัยรุ่น อุ้มไปกักขัง ทำร้ายร่างกาย ใช้อาวุธปืนข่มขู่ บังคับให้อมนกเขาย่านรามคำแหง 63  เนื่องจากมีการใช้อาวุธสงครามมาใช้ในการก่อเหตุ กระทำการอุกฉกรรจ์ไม่เกรงกลัวกฎหมายลักษณะเป็นอั้งยี่ซ่องโจรโดยขอให้ขยายผลไปถึงกฎหมายฟอกเงินแก่ผู้ที่เกี่ยวข้องทุกราย โดยมีพ.ต.อ.สมิง รอดรัตษะ รองผบก.ทว. นายตำรวจเวรอำนวยการเป็นตัวแทนรับมอบหนังสือ



ทนายรณรงค์ กล่าวว่า อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุทั้งหมดมาดำเนินคดีให้ได้เพราะพฤติกรรมโหดร้ายเกินกว่าเด็กอายุ 17 ปี รวมถึงควรพิจารณาเอาผิดผู้ปกครองของผู้ก่อเหตในฐานะที่เป็นพ่อแม่ไม่ห้ามปราม พร้อมขอให้มีการตรวจสอบและเอาผิดฐานอั้งยี่ซ่องโจร เพราะเข้าข่ายความผิดฐานฟอกเงิน ควรตรวจสอบว่าเด็กเหล่านี้นำเงินจากไหนมาซื้ออาวุธปืนสงครามได้ และได้มาอย่างไร ตอนนี้ก็ยังมีการโพสต์แชร์ภาพอาวุธปืนกลอยู่ พร้อมเรียกร้องให้ดารานักแสดงสาวชื่อดังรายหนึ่งที่นามสกุลเดียวกับหนึ่งในวัยรุ่นที่ก่อเหตุออกมาชี้แจงว่าเป็นหลานจริงหรือไม่หลังผู้ก่อเหตุให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอ้างว่าเป็นหลาน  



ทั้งนี้ ทนายรณรงค์ ยังกล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการกระทำที่รุนแรงเกินรับได้ และควรผู้ต้องหาควรถูกดำเนินตามตามกฎหมายไม่แบบผู้ใหญ่ไม่ควรจบที่ศาลเยาวชนเท่านั้น ครอบครัวผู้เสียหาย ยังคงรู้สึกหวาดกลัว เนื่องจากกลุ่มผู้ก่อเหตุยังลอยนวลไปฉลองวันเกิดอยู่ ส่วนตัวรับไม่ได้กับพฤติกรรมของผู้ก่อเหตุ นอกจากนี้ยังพบกลุ่มผู้ก่อเหตุยังมีคดีเก่าติดตัว หลังร่วมกันใช้มีดแทง คู่อริ เมื่อเดือนธันวาคม 2564



แม่ของเยาวชน กล่าวว่า อยากให้ดำเนินการให้ถึงที่สุด มีความมั่นใจว่าทุกสิ่งทุกอย่างต้องผ่านไปอย่างที่หวังและจะสู้จนถึงที่สุด โดยเมื่อวานนี้ได้พูดคุยรายละเอียดกับทางกระทรวงยุติธรรมไปเยอะแล้ว หลังจากยื่นเรื่องจะไปที่สน. หัวหมากต่อ ส่วนสภาพจิตใจของลูกตั้งแต่วันเกิดเรื่องจนถึงวันนี้ น้องดีขึ้น ยิ้มได้ แม่อุ่นใจขึ้นเยอะ แต่ยังกังวลและกลัวถึงเรื่องความปลอดภัยของครอบครัว ทำให้ไม่สามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติ ทั้งนี้ยังไม่มีการข่มขู่ แม่เลือกที่จะไม่อ่านหรือเข้าโซเชียลเพราะต้องเยียวยาจิตใจตัวเอง ทั้งนี้อยากถามผู้ก่อเหตุว่า ถ้าลูกคุณโดนแบบนี้คุณจะทำอย่างไร



ล่าสุด เมื่อช่วง 10:40 นายเติ้ล ได้เดินทางมายัง สน.หัวหมากพร้อมคุณย่า ตามนัดหมายของพนักงานสอบสวนในการสอบปากคำร่วมกับสหวิชาชีพ ซึ่งก่อนหน้านี้นายเติ้ลได้เดินทางมามอบตัวกับพนักงานสอบสวน สน.หัวหมาก เมื่อคืนนี้ ตามหมายเรียกที่พนักงานสอบสวนออกไปในครั้งแรก



โดยนายเติ้ลเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวสั้นๆ ว่า ตนยอมรับว่าทำจริง แต่สิ่งที่ผู้เสียหายกล่าวอ้างนั้นเกินความจริง โดยเฉพาะเรื่องแชทที่นายโอ๊ตอ้างว่าตนส่งไปเพื่อล่อลวงนายซับนั้นไม่เป็นความจริง นายโอ๊ตเป็นคนส่งเอง พร้อมปฏิเสธว่าตนไม่ได้บังคับให้ผู้เสียหายอมอวัยวะเพศของตนแต่อย่างใด


ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามให้นายเติ้ลชี้แจงในสิ่งที่ทำลงไปเพิ่มเติม แต่นายเติ้ลปฏิเสธที่จะตอบคำถามก่อนเดินเข้าห้องสอบสวนไป ขณะที่คุณย่านายเติ้ลบอกสั้น ๆ ว่าตนไม่รู้เรื่องในสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนเดินเข้าห้องสอบสวนไป


ขณะที่มีรายงานว่า ช่วงบ่ายวันนี้ ทางผู้ปกครองจะเดินทางไปสน.หัวหมาก เพื่อแจ้งความเพิ่มกรณีปล่อยคลิปลับของผู้เสียหายที่ถูกทำร้ายลงไปในโซเชียลมีเดีย


คุณอาจสนใจ

Related News