อาชญากรรม

เด็กแฉมูลนิธิครูคนดัง ทารุณ ใช้แรงงานหนัก อดีต ส.ว.ขอให้ฟังความ 2 ข้าง โต้ตีเด็กเพราะสั่งสอนที่ติดยา

โดย thichaphat_d

3 พ.ย. 2565

129 views

โลกออนไลน์แชร์คลิปกรณีเด็กในมูลนิธิคุ้มครองเด็กแห่งหนึ่งภายใน จ.สมุทรสงคราม ตีเด็กในมูลนิธิ กลุ่มหนึ่ง ความยาวประมาณ 5 นาที

ในคลิปจะมีเด็กผู้ชายยืนอยู่  6-7 คน ลักษณะ เป็นการทำโทษ และมีเด็กบางส่วน นั่งอยู่กับพื้นท่ามกลางโดยมีชายเจ้าของมูลนิธิ ยืนถือไม้เรียว ชี้ไปชี้มา อบรมสั่งสอนเด็ก ในคลิปจะเห็นลักษณะพฤติกรรม ใช้คำไม่สุภาพ เดินไป เดินมา เเล้วเอาไม้ชี้หน้าเด็กรายคน จากนั้นก็เรียกเด็กออกไปตี รัว 5-6 ครั้ง

ทีมข่าวตรวจสอบ พบว่า เรื่องราวที่เกิดขึ้นได้รับการตีแผ่ จากนักศึกษามหาวิทยาลัยเเห่งหนึ่ง เข้าไปทำโครงการเลี้ยงอาหารและทำกิจกรรมกับเด็กๆในมูลนิธิ แต่ปรากฏว่า ระหว่างทำกิจกรรม มีเด็กเข้ามาขอความช่วยเหลือ ให้พาออกไป เพราะถูกทำร้ายร่างกายมานานจึงนำมาปรึกษากับมูลนิธิเส้นด้าย เพื่อขอความช่วยเหลือ

ทีมข่าว รับทราบเรื่องนี้เข้าก็ปรึกษากับ พล ต อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจเเห่งชาติ นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.พม. สั่งการให้ นายอนกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ลงพื้นที่มูลนิธิชื่อดังแห่งหนึ่งคลี่คลายเรื่องที่เกิดขึ้น

โดยมูลนิธิแห่งนี้ มีเด็กทั้งหมด 55 คน ตำรวจได้สอบปากคำ เด็ก 8 คนที่อ้างว่า ถูกทำร้ายร่างกาย จากการสอบถาม เด็กระบุว่า พฤติการณ์ของเจ้าของมูลนิธินี้ พบว่า มีปัญหาหลายเรื่อง อาทิ การใช้แรงงานเด็ก ซึ่งเด็กบางคน ไม่ทำตาม พฤติกรรมของเด็กบางคน เกี่ยวข้องกับยาเสพติด พฤติกรรมไม่เหมาะสม ของเด็กบางคน เช่นดื้อ ไม่ทำตาม แอบหนีในยามวิกาล

จึงมีการลงโทษ แต่ทั้งนี้ การลงโทษด้วยการตีเป็นการทำผิด พ.ร.บ.เด็ก ที่ห้ามลงโทษด้วยการตี ซึ่งการสอบถามเด็ก และหลักฐาน ที่มีคือ การทำร้ายร่างกายเด็ก

สำหรับเรื่องการจัดตั้งมูลนิธิแห่งนี้เปิดมานานหลายปี ซึ่งเจ้าหน้าที่ พม.สมุทรสงคราม ได้เข้ามาตรวจสอบทุกปี ก็พบว่า มูลนิธิคุ้มครองเด็กแห่งนี้ ประวัติค่อนข้างดีในอดีต ซึ่งการเข้ามาตรวจสอบเจ้าหน้าที่ได้มีการสุ่มพูดคุยกับเด็กในมูลนิธิ แต่ไม่เคยพบข้อมูลว่า มีเด็กถูกทำร้าย ทุกอย่างดูปกติ จนกระทั่งเกิดเรื่องดังกล่าว

ในส่วนเรื่องของเงินของมูลนิธิ ได้บริจาคมา ทางมูลนิธิก็จะใช้จ่ายเงิน ดูแลเด็ก ทั้งอาหาร, การศึกษา ซึ่งจำนวนเงินบริจาคก็จะใช้หมดไปปีต่อปี

หลังจากรับทราบปัญหา ทางเจ้าหน้าที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะเร่งหาข้อสรุป 2 ส่วน คือ การย้ายเด็กออกจากมูลนิธิคุ้มครองเด็กแห่งนี้ เพื่อให้ไม่ได้รับอันตราย โดยจะสอบถามความสมัครใจของเด็ก ว่าจะต้องการอยู่ต่อหรือไม่ หากไม่ต้องการอยู่ต่อพม ก็จะต้องหาที่อยู่ให้เด็ก รับไปดูแล

ส่วนที่ 2 เจ้าหน้าที่จะเร่งพิจารณารายละเอียด เรื่องการหยุดการดำเนินการของมูลนิธิแห่งนี้ ซึ่งเป็นไปตามกฎหมาย หากพบความผิด ก็จะโทษ ตั้งแต่การตักเตือน การปิดมูลนิธิชั่วคราว และสูงสุดคือ ถอนใบอนุญาตเปิดสถานสงเคราะห์ หรือ มูลนิธิ

ซึ่งการเพิกถอนใบอนุญาต จะต้องรอการตรวจสอบหลายส่วน ให้ชัดเจนก่อน เนื่องจากหลักฐานการกระทำความผิด มีเพียงบาดแผลของเด็กที่ถูกกระทำนานแล้ว หาบาดแผลไม่เจอ ขณะนี้มีเพียงคำให้การของเด็กที่บอกว่าถูกทำร้ายเท่านั้น

เบื้องต้น ความผิดที่ชัดเจนในขณะนี้ มีเพียงการทำร้ายร่างกายเด็ก ความผิดตาม พ.ร.บ. คุ้มครองเด็ก มาตรา 61

เจ้าหน้าที่ พม.จังหวัดนำเอกสาร เเละรายละเอียดเกี่ยวกับการคุ้มครองเด็กมาแสดง โดยลูกชายของเจ้าของมูลนิธิให้ข้อมูล และขอให้คุยกับประธานมูลนิธิ ทางโทรศัพท์ โดยเปิดลำโพงให้สนทนากับนายแก้วสรร อติโพธิ อดีตสมาชิกวุฒิสภาไทย ซึ่งเป็นประธานมูลนิธิ บอกว่าคนดูแล คือ นายมนตรี  สินทวิชัย หรือ ครูยุ่น

นายเเก้วสรร ยืนยันว่า ที่นี่เป็นบ้านเด็กๆ มูลนิธิเเห่งนี้สร้างขึ้นมาเพื่อดูเเลเด็กมีปัญหาจากครอบครัวที่ไม่สามารถเลี้ยงดูได้ เเละเด็กที่ถูกกระทำความรุนเเรง เเละเรื่องทางเพศ ยืนยันว่าไม่มีอันตรายอะไรกับเด็ก เปรียบเหมือนบ้านของเด็กที่ไร้ที่พึ่ง ไม่ใช่การยกพวกมาเอาเด็กไป

เด็กกำลังเรียนอยู่ การร้องเรียนที่เกิดขึ้น อยากขอให้ฟังความมูลนิธิบ้าง อย่าฟังความข้างเดียว แล้วทำแบบนี้ จะส่งผลกระทบกับเด็กหลายคน หากเอาตัวเด็กไป เด็กที่เรียนอยู่ ไม่ได้เรียน ก็เกิดผลกระทบ และสภาพจิตใจของเด็ก จะเป็นอย่างไร อยากให้ทบทวนให้ดี เเละให้สอบถามว่าเด็กเขาอยากไปหรือไม่

ส่วนกรณี การลงโทษด้วยการตีเด็ก นายเเก้วสรร ยืนยันว่า เด็กที่ถูกตี เกี่ยวข้องกับยาเสพติด เอายาเสพติดมาเผยแพร่ให้น้องๆ ในบ้าน เเละยังพาเด็กในบ้านทำตัวไม่เหมาะสม พาเด็กลงน้ำในที่ห้าม  

ที่ผ่านมาพยายามสอนและดึงเด็ก ๆ ไว้ เพราะกลัวว่าเด็กจะเสียอนาคต เรื่องที่เกิดขึ้นอยากให้ฟังครูยุ่นบ้าง การเข้ามาเเบบนี้ ไม่ต่างจากการมายึดลูกจากพ่อเเม่เขาไป เเละถามว่าเอาเด็กไปจะดูเเลอย่างไร มารังเเกเด็กผมไม่ยอม กว่าจะสร้างมูลนิธิมาได้ ถามปลัดว่าใช้อำนาจอะไรจะเข้ามาเอาเด็กไป

ส่วนการให้เด็ก มาทำงานนั้น นายเเก้วสรร เปิดเผยว่า งานที่ทำก็เป็นงานง่ายๆ เช่นไปเก็บใบไม้ ในรีสอร์ท การไปทำงานก็ได้ทิปจากลูกค้าที่มาพัก เด็กบางคนเรียนการโรงแรม ก็ไปทำงานเหมือนฝึกงาน

“ผมจะไม่ยอมให้ทำเเบบนี้ คุณทำลายชื่อเสียงเขา ทำลายกิจการเขาด้วย ยืนยันว่าไม่ได้เอาเดกมาหากิน เเต่เอาเด็กที่ถูกทอดทิ้งมาเลี้ยง เเต่ถ้าเด็กถูกตีก็เป็นความผิด สามารถทำโทษได้ในฐานะผู้ปกครอง เหมือนพ่อลงโทษ”

ต้องไปดูพฤติกรรมการตี ว่ามีบาดเเผลหรือไม่ การเข้ามาใช้อำนาจโดยไม่ชอบ เด็กไม่ได้อยู่ในอันตราย ขอให้ทุกคนออกไปให้หมด อย่าทำให้เด็กตกใจ ยืนยันว่าการที่ครูยุ่นทำรีสอร์ท เพื่อนำเงินมาช่วยเหลือเด็กเด็ก จากนั้น พม.และเจ้าหน้าที่ ก็ขอเข้าไปตรวจสอบ และพูดคุยกับเด็ก

ขณะเดียวกัน พนักงานสอบสวน สภ.เมืองอัมพวา นำหมายเรียกวัตถุพยาน เข้าแจ้งต่อผู้ดูแลมูลนิธิ เพื่ออายัดเอาวัตถุพยาน ที่เกี่ยวข้องไปตรวจสอบ ประกอบการสอบสวนทางคดี

ซึ่งวัตถุพยานที่ว่านี้ คือ ท่อเหล็ก, ไม้เรียว และอุปกรณ์ที่ใช้ทำร้ายเด็ก ตามที่เด็กอ้างว่า ถูกลงโทษ โดยมีตำรวจพิสูจน์หลักฐาน เก็บรวบรวมพยานหลักฐานที่คาดว่าเกี่ยวข้องทั้งหมด

ทางด้านครูยุ่น ให้ข้อมูลว่า ตอนนี้ยังไม่สะดวกให้สัมภาษณ์ ส่วนการที่ถูกแจ้งข้อหานั่น พอทราบอยู่แล้ว เรื่องทางกฎหมายก็ว่ากันตามพยานหลักฐาน และมีรายงานว่า ช่วงบ่ายวันนี้ (3 พ.ย.) จะมีการแถลงรายละเอียดทั้งหมด ที่มูลนิธิ


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/mQd_OQac0RI

คุณอาจสนใจ

Related News