อาชญากรรม

วัยรุ่นกร่างยิงปืนไทยประดิษฐ์ใส่เด็ก 14 หน้าอู่ซ่อมรถ เจ้าของอู่เผย ผู้ก่อเหตุหาเรื่องไปเรื่อย

โดย kanyapak_w

24 ต.ค. 2565

337 views

จากกรณีที่ช่วงค่ำเมื่อวานนี้ (23 ต.ค. 65) ได้มีแม่ของเด็กชายอายุ 14 ปี เข้าพบตำรวจ สน.ราษฎร์บูรณะ เพื่อติดตามความคืบหน้ากรณีที่ลูกชาย ถูกกลุ่มวัยรุ่นใช้อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ ยิงใส่จนได้รับบาดเจ็บที่แขนซ้ายและแผ่นหลัง เหตุเกิดบริเวณหน้าอู่ซ่อมรถแห่งหนึ่งภายในซอย ประชาอุทิศ 33 เมื่อวันที่ 22 ต.ค. ที่ผ่านมา ประมาณ 1 ทุ่ม



วันนี้ทีมข่าวลงพื้นที่มายังจุดเกิดเหตุ พบกับ เจ้าของอู่ซ่อมรถ กล่าวว่า เด็กที่บาดเจ็บ เป็นเพื่อนของลูกชาย ซึ่งปกติกลุ่มเพื่อนลูกชาย จะมารวมตัวกันที่อู่เป็นประจำ มานั่งเล่นเกมออนไลน์กันประมาณ 10 กว่าคน โดยเมื่อช่วงค่ำวันที่ 22 ต.ค. ก็มีวัยรุ่น 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์มา แล้วคนที่ซ้อนท้ายก็ยิงสุ่มเข้ามาภายในอู่ จนโดนเพื่อนลูกชายอายุ 14 ปี มีรอยจ้ำที่แขนซ้ายและแผ่นหลัง 6 รอย จากการโดนลูกปราย



โดยกลุ่มลูกชายกับกลุ่มคู่กรณี ไม่ได้รู้จักกันเป็นการส่วนตัว แต่คู่กรณีเป็นกลุ่มวัยรุ่น อายุประมาณ 20 กว่าปี ที่ล่องหาเรื่องไปเรื่อย ขี่รถจักรยานยนต์ไปเจอกลุ่มวันรุ่นที่ไหนก็จะเข้าไปหาเรื่อง ไล่ฟัน ไล่ยิง ซึ่งมีเรื่องแบบนี้มาได้ประมาณ 1 เดือนแล้วตั้งแต่ปิดเทอม แต่ตนก็ไม่ได้คิดว่าจะมาเกิดกับกลุ่มของลูกตนเอง ซึ่งที่ตนให้เด็กๆ มารวมตัวกันที่นี่ เพราะจะได้ไม่ต้องออกไปข้างนอก ให้อยู่ในสายตา



แต่ก็ยังมาเกิดเหตุแบบนี้ และพอไปแจ้งความ ตำรวจก็จะบอกว่า เป็นเพราะเด็กมารวมตัวกันเยอะ คู่กรณีเลยหมั่นไส้ บอกให้อย่าเอาเด็กมาอยู่รวมกัน จึงไม่รู้จะทำอย่างไร จึงวอนตำรวจว่าให้ช่วยจัดการผู้ก่อเหตุ เพราะต่อไปอาจจะเกิดเหตุรุนแรงกว่านี้ก็ได้



ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุ กลุ่มเด็กๆ ได้ไปเจอว่าผู้ก่อเหตุโพสต์ภาพปืนลงในโซเชียล จึงรู้ว่าใครเป็นคนทำ ญาติของเด็กที่โดนยิง จึงตามไปหาคู่กรณีที่บ้าน ซึ่งแม่ของคู่กรณีก็ยอมรับ และนัดจะไปเจอที่สถานีตำรวจ แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้ไป และเมื่อคืนนี้ประมาณ 5 ทุ่ม กลุ่มวัยรุ่นคู่กรณีก็ยังขี่รถมาเขวี้ยงระเบิดปิงปองที่หน้าอู่อยู่เลย



ภรรยาของเจ้าของอู่ซ่อมรถ เปิดเผยว่า ก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุวันที่ 22 ต.ค. กลุ่มวัยรุ่นกลุ่มนี้ มักจะขับขี่รถมาวนเวียนก่อความวุ่นวายเวลาที่เห็นมีเด็กๆ รวมตัวกัน โดยส่วนมากจะเขวี้ยงระเบิดปิงปองใส่ที่อู่ โดยตนขายของอยู่ด้านหน้า จึงโดนระเบิดหลายครั้ง ล่าสุด เมื่อวันที่ 19 ต.ค. วัยรุ่นมากันประมาณ 10 กว่าคน ซึ่งวันนั้นเป็นวันเกิดตนด้วย เด็กๆ จึงมากันเยอะที่อู่เยอะ มาอวยพรวันเกิด



ซึ่งวันนั้น ตนโดนระเบิดเข้าที่เท้าขวาเต็ม เป็นแผล และรู้สึกจุกจากแรงระเบิด เด็กบางคนก็โดนสะเก็ดเข้าที่ใบหน้า และก่อนหน้าที่กลุ่มเด็กจะมาที่อู่ ก็มีเพื่อนลูกชาย 1 คน ถูกแทงเข้าที่หลังระหว่างทางด้วย ซึ่งทางผู้ก่อเหตุบอกว่าขอให้ไม่เอาเรื่อง แต่สุดท้ายพอแม่เด็กยอมความ ก็มาก่อเหตุเขวี้ยงระเบิดอีก ตนจึงอยากให้ตำรวจจัดการกับผู้ก่อเหตุ เพราะตนต้องมาเจอระเบิดแทบทุกวันก็เดือดร้อน บางทีก็โดนปาหิน



ทีมข่าวได้ไปพูดคุยกับเยาวชนอายุ 16 ปี ที่ถูกอาวุธมีดแทง เมื่อวันที่ 19 ต.ค. เล่าว่า วันเกิดเหตุตนกำลังขี่รถจักรยานยนต์ไปกับกลุ่มเพื่อน จะไปเตะบอลกัน ระหว่างติดไฟแดง ก็บังเอิญเจอกับกลุ่มผู้ก่อเหตุ ซึ่งพวกตนก็เลยจะขี่รถหนี เพราะเพื่อนเคยมีปัญหาเป็นคู่อริกัน แต่คู่กรณีก็ลงมาขวาง จากนั้นก็มีเรื่องกัน จนตนถูกมีดแทงเข้าที่ไหล่ขวา ทั้งนี้ ตนไม่รู้ว่าเพื่อนกับคู่กรณีมีปัญหาอะไรกัน แต่รู้ว่ามีมาหลายเดือนแล้ว แต่ตนเพิ่งมาคบเพื่อนกลุ่มนี้ได้ไม่นาน



ส่วนแม่ของเยาวชนรายนี้ บอกว่า หลังเกิดเหตุ ทางผู้ปกครองของคู่กรณีก็ได้มาขอโทษ และขอให้ไม่เอาความ เพราะคู่กรณีก็ได้รับบาดเจ็บเหมือนกัน ตนจึงไม่ได้ไปแจ้งความ ถือว่าจบกันไป และบอกลูกไม่ให้ออกไปกับเพื่อนกลุ่มนี้ ให้อยู่แต่ที่บ้าน ซึ่งก็เพิ่งทราบว่ากลุ่มคู่กรณียังไปก่อเหตุกับกลุ่มเพื่อนของลูกอยู่ แต่ตนและลูกไม่ทราบ เพราะไม่ได้ยุ่งกันแล้ว



ทั้งนี้ จากการสอบถามไปยัง พันตำรวจเอกสุกฤต มังคละสวัสดิ์ ผู้กำกับการ สน.ราษฎร์บูรณะ ระบุว่า เบื้องต้น ทางผู้ก่อเหตุ ยังไม่ได้ประสานกับพนักงานสอบสวนว่าจะเข้ามาพบแต่อย่างใด แต่จากการสอบปากคำผู้บาดเจ็บเบื้องต้น พบว่า ตอนเกิดเหตุ อยู่ห่างจากคู่กรณีประมาณ 2-3 เมตร แต่ไม่ได้ยินเสียงปืน และลักษณะของบาดแผลเป็นจ้ำๆ ดังนั้น จึงยังไม่แน่ชัดว่าอาวุธที่ใช้ก่อเหตุใช่อาวุธปืนหรือไม่ อย่างไรก็ตาม พนักงานสอบสวนได้รับแจ้งความไว้แล้ว และส่งตัวผู้บาดเจ็บไปตรวจร่างกาย อยู่ระหว่างรอสอบปากคำผู้บาดเจ็บและพยานเพิ่มเติม และจะติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาสอบปากคำด้วย



โดยทีมข่าวยังได้เดินทางไปที่บ้านของผู้ก่อเหตุ อยู่ภายในซอยประชาอุทิศ 69 พบเพียงแม่ของผู้ก่อเหตุ ซึ่งบอกว่า ลูกชายไปทำงาน พร้อมปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลใดๆ บอกเพียงว่ายังไม่พร้อมคุย และไม่ตอบว่าจะเข้าไปพบพนักงานสอบสวนหรือไม่





คุณอาจสนใจ

Related News