สุดเดือด! รุมสหบาทา 'พ่อเลี้ยงข่มขืน 2 ลูกเลี้ยง' แม่แท้ๆ โดดป้องสามี ลูกเผยแม่รู้แต่ไม่ช่วย

ชาวบ้าน เดือดรุมกระทืบพ่อเลี้ยง วัย 53 ปี หลังก่อเหตุข่มขืนลูกเลี้ยง 2 คน แม่แท้ๆ โดดป้องช่วยสามีไม่ให้โดนกระทืบ ยืนยัน ไม่เคยรู้เรื่องสามีทำกับลูกสาว ระบุพึ่งไปเซ็นใบหย่าจับได้สามีนอกใจ ด้านตำรวจคุมตัวพ่อเลี้ยงสอบปากคำเข้ม สารภาพอนาจารไม่ได้ข่มขืน เตรียมส่งฝากขังวันนี้ (6 ต.ค.) ขณะที่แม่แท้ๆให้การกับตำรวจยอมรับ รู้ว่าสามีอนาจารลูกนานนับปี แต่คิดว่าเลิกทำแล้วจึงไม่ได้เอาเรื่อง

เป็นเหตุการณ์ที่ต้องบอกว่าเดือด เมื่อชาวบ้านชุมชนบางตลาด ถนนติวานนท์ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี รวมตัวรุมประชาทัณฑ์ นายลอย แสนวงษ์ อายุ 53 ปี พ่อเลี้ยง อาชีพรับจ้างตัดต้นไม้ ทั้งต่อย ทั้งถีบ ทั้งกระทืบ และรัวหมัดไม่ยั้ง

โดย มีนางสาวน้ำค้าง แก้วเขียว อายุ 36 ปี (ภรรยา) กระโดดเข้าไปกอดเพื่อปกป้องสามีตัวเอง ไม่ให้ถูกทำร้าย และตะโกนห้ามอย่าทำร้ายสามี แต่ชาวบ้านก็ไม่ฟัง รุมประชาทัณฑ์ด้วยความโกรธแค้น จนนายร้อยสลบไปคาเท้า หลังตื่นฟื้นขึ้นมา แล้วถูกพาตัวเข้าไปในบ้าน ชาวบ้านก็ยังไม่หายโกรธแค้น ตามไปรุมชกต่อยในบ้านอีก จนคนเฒ่าคนแก่ในชุมชนต้องตะโกนส่งเสียงห้าม

กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.ปากเกร็ด เดินทางมาที่เกิดเหตุ จึงคุมตัวนายลอย พร้อมนำภรรยาและลูกสาว ไปสอบปากคำที่ สภ.ปากเกร็ด

ซึ่งการที่ชาวบ้านรุมกระทืบนั้น เพราะทราบเรื่องว่า นายลอย พ่อเลี้ยงรายนี้ ก่อเหตุข่มขืนลูกเลี้ยง 2 คน อายุ 17 ปี และ 11 ปี มาเป็นเวลานาน

หลังจากระงับเหตุเสร็จแล้ว ปรากฎว่า ช่วงค่ำก็เดือดอีก เมื่อชาวบ้านไปรวมตัวที่ สภ.ปากเกร็ด เพื่อสอบถามตำรวจว่า ทำไมถึงปล่อยตัวนายลอยกลับมาบ้าน ทั้งที่ก่อเหตุข่มขืนลูกเลี้ยง

ช่วงนั้น ทีมข่าวเราเดินทางถึง สภ.ปากเกร็ด ชาวบ้านก็เข้ามาร้องเรียน จึงไปตรวจสอบพร้อมกับ พันตำรวจเอกพงศ์จักร ปรีชาการุณพงศ์ ผู้กำกับ สภ.ปากเกร็ด ปรากฎว่า เมื่อถึงบ้านของนายลอยก็พบว่านายลอยอยู่ในบ้านจริง ชาวบ้านกำลังรวมตัวจะรุมประชาทัณฑ์รอบที่ 3 ตำรวจจึงต้องควบคุมตัวนายลอยและภรรยา ออกไปจากพื้นที่ชุมชนทันที เพื่อไปสอบปากคำที่ สภ.ปากเกร็ด

ทีมข่าวสอบถาม นางสาวกุ้ง อายุ 35 ปี เล่าว่า ที่ชาวบ้านโกรธแค้น รุมประชาทัณฑ์นายลอย เพราะรู้มาว่านายลอย ก่อเหตุข่มขืนลูกเลี้ยงสองพี่น้อง โดยคนพี่อายุ 17 ปี ส่วนคนน้องอายุ 11 ปี

ซึ่งเด็กหญิงวัย 11 ปี สนิทกับลูกสาวตน และดูแลกันมาตั้งแต่เล็กๆ มีความสนิทสนมกัน มาสังเกตระยะหลังๆ เด็กวัย 11 ปี มีอาการเหม่อลอย ซึมเศร้า และบางครั้งก็ร้องไห้ เก็บตัวเงียบ จึงถามว่าเกิดอะไรขึ้น

เด็กหญิงวัย 11 ปี เล่าว่า ถูกนายลอยกระทำอนาจารมาหลายครั้ง บอกแม่ไปแล้ว แต่แม่ก็ไม่ได้สนใจอะไร  และช่วงที่ถูกอนาจาร แม่ก็อยู่ด้วย แต่ไม่ได้ช่วยเหลืออะไร และปล่อยแบบนี้มานานเป็นปี ซึ่งพี่สาววัย 17 ปี ก็โดนกระทำด้วย

เมื่อชาวบ้านรู้เรื่องจึงโกรธแค้น เพราะเห็นสองพี่น้องตั้งแต่ยังเล็กๆ เอ็นดูเหมือนลูกหลาน ถูกกระทำแบบนี้ หน่ำซ้ำแม่แท้ๆ ยังไม่ปกป้องลูก จึงรุมประชาทัณฑ์ ยอมรับว่า ทุกคนโกรธมาก ไม่เข้าใจว่า ทำไมแม่แท้ๆ ถึงไม่ปกป้องลูก และยิ่งโกรธตอนรุมประชาทัณฑ์ แม่แท้ๆ ยังเอาตัวป้องสามีไว้อีก แต่กลับไม่สนใจลูกของตัวเอง ทำให้ชาวบ้านโกรธมาก

หลังเกิดเหตุ ตำรวจนำสองพี่น้องไปตรวจร่างกาย แทนที่แม่จะไปดูแลลูก แต่ไม่ใช่ แม่อยู่กับสามีใหม่ตลอดเวลา

และขณะเกิดเหตุนั้น แม่แท้ๆ และพ่อเลี้ยงพึ่งกลับจากอำเภอ หลังจากไปทำเรื่องหย่ากัน ทุกคนเข้าใจว่าหย่าเพราะพ่อเลี้ยงทำไม่ดีกับลูก แต่ไม่ใช่ แต่เป็นการหย่าเพราะจับได้ว่าพ่อเลี้ยงไปมีแฟนใหม่

ทางด้าน นายโก้ อายุ 29 ปี หนึ่งในบุคคลที่รุมประชาทัณฑ์นายลอย ยอมรับว่า เป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่รุมทำร้าย เพราะทนไม่ได้จริงๆ รู้สึกโกรธมาก และไม่กลัวหากจะต้องถูกดำเนินคดีเพราะรับไม่ได้กับพฤติกรรมที่ทำกับลูกเลี้ยง ซึ่งเป็นเด็กที่คนในชุมชนรัก และเห็นมาตั้งแต่เล็กๆ 

อีกทั้ง แม่แท้ๆ ก็ปกป้องสามี แทนที่จะปกป้องลูก จึงทนไม่ไหว และยังโกรธที่ตำรวจปล่อยตัวกลับมาบ้านหลังจากคุมตัวไปโรงพักแล้ว ทุกคนก็งงว่า ทำไมปล่อยตัว ทั้งที่ทำผิด จึงพากันปิดล้อมบ้านไว้ และรอให้ตำรวจเข้ามาคุมตัวไป

นอกจาก เรื่องอนาจารลูกเลี้ยงแล้ว ยังอยากให้ตำรวจตรวจสารเสพติดนายลอยและแม่แท้ๆ ด้วยเพราะพบประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติด

ตำรวจ สภ.ปากเกร็ด นำตัวนายลอยพ่อเลี้ยงไปตรวจร่างกาย เพราะถูกรุมประชาทัณฑ์จนได้รับบาดเจ็บ ส่วนนางสาวน้ำค้าง แม่แท้ๆ ตำรวจนำตัวมาสอบปากคำ 

ช่วงที่ตำรวจควบคุมตัวแม่มา สภ. ทีมข่าวสอบถาม แม่แท้ๆ ว่า รู้หรือไม่ว่าพ่อเลี้ยงอนาจารลูกสาว คุณแม่ตอบว่า “ไม่เคยรู้มาก่อน เพิ่งมารู้เรื่องวันนี้ และจะขอดำเนินคดีกับสามีให้ถึงที่สุด“

หลังจากนั้น พันตำรวจเอกพงศ์จักร ผู้กำกับ สภ.ปากเกร็ด ก็สอบปากคำแม่แท้ๆ ด้วยตนเอง โดยแม่ ยอมรับว่า รู้ว่าสามีอนาจารลูกเมื่อปีที่แล้ว โดยลูกสาวไปบอกคุณตาว่า ถูกพ่อเลี้ยงลวนลาม พยายามจับของสงวน หลังจากอาบน้ำเสร็จ ซึ่งลูกไปบอกคุณตา แล้วตาก็มาบอกให้แม่ไปบอกสามี และจัดการเรื่องนี้ แต่คุณแม่บอกว่าไม่ได้ทำอะไร และคิดว่าสามีคงไม่ทำลูกแล้ว จนกระทั่งมารู้วันนี้

ส่วนนายลอย พ่อเลี้ยงตำรวจสอบปากคำแล้ว ให้การยอมรับสารภาพว่า อนาจารลูกเลี้ยง แต่ไม่ได้ข่มขืน ซึ่งตำรวจได้พาเด็กหญิง 11 ปีและพี่สาวไปตรวจร่างกาย และจะสอบปากคำร่วมกับสหวิชาชีพอีกครั้ง ในวันนี้ (6 ต.ค. 65)

ส่วนนายลอย ตำรวจแจ้งข้อหาอนาจารเด็ก และจะตรวจสารเสพติด ก่อนจะนำตัวฝากขังศาลจังหวัดนนทบุรี วันนี้ (6 ต.ค. 65) ซึ่งหากมีหลักฐานพบว่ามีการข่มขืนเด็ก ก็จะแจ้งข้อหาเพิ่ม

ส่วนนางสาวน้ำค้าง จากการสอบสวนเบื้องต้น เข้าข่ายความผิดร่วมกันสนับสนุนให้สามีก่อเหตุ เพราะรู้อยู่แก่ใจ แต่กลับไม่ห้าม หรือดำเนินการล่วยเหลือลูกสาวตนเอง ซึ่งต้องสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง

ส่วนเพื่อนบ้านที่รุมประชาทัณฑ์นายลอย ก็จะถูกดำเนินคดีข้อหาทำร้ายร่างกาย

ทั้งนี้ กรณีที่พบว่าพนักงานสอบสวนปล่อยตัวนายลอยกลับบ้าน ทั้งที่คุมตัวมา สภ.แล้วนั้น ตำรวจชี้แจงว่าไม่ได้ปล่อยตัว แต่นายลอยให้การว่าได้รับบาดเจ็บจากการรุมประชาทัณฑ์ จึงให้ไปพบแพทย์ตรวจร่างกาย แล้วกลับมาโรงพัก แต่นายลอยกลับบ้านไปอาบน้ำ ทำให้ชาวบ้านไม่พอใจเข้าใจผิดว่าปล่อยตัว จนเกือบหวิดประชาทัณฑ์รอบ 3

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/eRDMt4QbdwY