ซ้อนแผนรวบเครือข่ายยาบ้า ยึดของกลางกว่า 2 ล้านเม็ด

ตำรวจปราบปรามยาเสพติดและตำรวจ สภ.สบปราบ เข้าตรวจค้นภายในรถหกล้อตู้ทึบ พบของกลางยาบ้าจำนวน 2 ล้านเม็ดซุกซ่อนปะปนกับอุปกรณ์อิเลคทรอนิกส์บรรจุในลังไม้อย่างมิดชิด บริเวณด่านสบปราบ จ.ลำปาง จากการสอบสวนจากการสอบสวนผู้ต้องหา คือ นายโสภณ อายุ 59 ปี ชาวจังหวัดลำพูน ตั้งแต่เวลา 18.00 น. ของวันที่ 21 ก.ย.65 ถึงเวลา 04.00 น. ของวันที่ 22 ก.ย. ให้การรับสารภาพว่าได้รับจ้างขนยาเสพติดจากชายแดนภาคเหนือ เข้าไปส่งให้กับเครือข่ายที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยจะมีเครือข่ายมารอรับจุดนัดหมาย


ซึ่งตำรวจปราบปรามยาเสพติด และกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ได้เฝ้าติดตามพฤติกรรมของ นายโสภณ มาอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งจับกุมพร้อมของกลาง


ทั้งนี้ ผู้ต้องหาให้ความร่วมมือถึงเครือข่ายที่ได้มีการนัดหมายในการส่งยาเสพติด ตำรวจจึงขยายผลด้วยการซ้อนแผนนำรถหกล้อตู้ทึบพร้อมของกลาง และตัวผู้ต้องหามุ่งหน้าไปยังจุดนัดหมายที่จังหวัดอยุธยา กระทั่งเวลา 04.00 น. ของวันที่ 21 ก.ย.65 เมื่อหกล้อตู้ทึบจอดริมถนนสายเอเชียขาเข้ากรุงเทพฯบริเวณนิคมอุตสาหกรรมโรจนะ ได้มีชาย 1ราย ขับรถกระบะสีขาว 4 ประตูมาจอดเทียบบริเวณท้ายหกล้อตู้ทึบตามการนัดหมายของนายโสภณ โดยมีเจ้าหน้าที่ควบคุมปฎิบัติการ


โดยชายคนดังกล่าวลงจากรถกระบะและไปยังบริเวณท้ายรถหกล้อ เตรียมที่จะรับยาเสพติดตามที่ได้มีการวางแผน ตำรวจที่ได้เฝ้าสังเกตการณ์บริเวณโดยรอบจึงนำรถยนต์เข้าปิดล้อมและจับกุมตัว นายคณนาท อายุ 44ปี ชาวจังหวัดนนทบุรี


จากการสอบสวนตำรวจพบว่า นายโสภณ เป็นเจ้าของบริษัทขนส่งสินค้าที่รับส่งสินค้าเส้นทางจังหวัดภาคเหนือเข้ากรุงเทพฯ โดยมีรถขนส่งจำนวนหลายคัน ทั้งรถกระบะตู้ทึบ รถตู้ และรถหกล้อตู้ทึบคอยให้บริการ โดยครั้งนี้นายโสภณ ได้ขับรถหกล้อตู้ทึบเปล่าจากกรุงเทพฯ ไปรับยาเสพติดที่ อ.เมือง จ.เชียงราย


จากนั้นก็ขับรถกลับมาที่จังหวัดลำพูนเพื่อมารับสินค้าอุปกรณ์อิเลคทรอนิกส์ตามปกติที่ได้มีการว่าจ้าง ภายในรถจึงมีการปะปนซุกซ่อนยาบ้าและสินค้าที่ว่าจ้างในการขนส่งเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ เนื่องจากลังไม้จะถูกบรรจุอย่างมิดชิดไม่ให้อุปกรณ์อิเลคทรอนิกส์เสียหาย ในการเข้าตรวจค้น หากเจ้าหน้าที่ไม่มีหลักฐานหรือการข่าวชัดเจนก็จะไม่กล้าตรวจค้นเพราะสุ่มเสี่ยงจะเกิดความเสียหายได้ ทำให้นายโสภณ มีการลักลอบขนยาเสพติดมาหลายครั้ง โดยครั้งนี้นายโสภณ อ้างว่าได้รับค้าจ้าง 50,000 บาท


ส่วน นายคณนาท รับสารภาพว่าตนเองทำหน้าที่ขับรถมารับยาเสพติดตามคำสั่งของเครือข่ายที่อยู่พื้นที่ชั้นใน ก่อนหน้านี้เคยมารับยาเสพติดในพื้นที่อยุธยา จากนั้นจะนำไปโยนทิ้งไว้ตามจุดนัดหมาย โดยในพื้นที่จังหวัดนนทบุรีทำมาแล้ว 2 ครั้งรวมครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 จนกระทั่งมาถูกจับกุม หลังจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีการติดตามขยายผลจับกุมผู้ที่อยู่เบื้องหลัง รวมทั้งตรวจสอบเส้นทางการเงินของเครือข่ายทั้งหมด


เบื้องต้น ตำรวจดำเนินคดีทั้งสองรายในข้อหามียาเสพติดประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองและจำหน่าย ก่อนส่งตัวให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย