อาชญากรรม

รวบแก๊งแอบอ้างเจ้าหน้าที่ธนาคาร หลอกเหยื่อเก็บค่าดำเนินการทำบัตรเครดิต เสียหายกว่า 10 ล้านบาท

โดย paranee_s

22 ก.ย. 2565

298 views

พลตำรวจเอกดำรงศักดิ์ กิตติรภัทร รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แถลงผลการจับกลุ่มแก๊งอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารหลอกลวงเหยื่อ รับสมัครบัตรเครดิตก่อนเรียกค่าธรรมเนียม มีเหยื่อหลงเชื่อนับพันราย เสียหายกว่า 10 ล้านบาท


ตำรวจกองปราบปรามสามารถควบคุมตัวผู้ต้องหาได้รวม 4 คน จากการตรวจสอบประวัติพบผู้ต้องหา 1 ใน 4 เคยก่อคดีในลักษณะเดียวกันตั้งแต่ปี 2560 - 2563 แต่หลบหนีหลบหนีคำพิพากษามาเป็นเวลากว่า 2 ปี


รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุว่าเจ้าหน้าที่ธนาคารได้เข้าแจ้งความกับตำรวจกองปราบปรามว่า พบเอกสารปลอมของผู้สมัครรับบัตรเครดิตจากธนาคารกว่าพันราย แต่ไม่สามารถอนุมัติให้ได้ เนื่องจากขาดคุณสมบัติ


เมื่อส่ง SMS แจ้งผลการสมัครกลับมีผู้เสียหายบางรายเดินทางมาร้องเรียนกับทางธนาคารว่าถูกเจ้าหน้าที่เรียกเก็บเงินค่าธรรมเนียมไปจำนวน 2,000 บาท บางราย 5,000 บาท และมีผู้เสียหายสูญเสียเงินมากสุด 300,000 บาท


จากการสอบปากคำผู้เสียหายพบว่าได้สมัครบัตรเครดิตผ่านแอปพลิเคชัน line และ facebook พร้อมส่งเอกสาร สมุดบัญชีธนาคาร สำเนาบัตรประชาชน และเอกสารอื่น ๆ ไปยังบุคคล ที่อ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคาร ในพื้นที่จังหวัดชลบุรีก่อนได้รับ SMS ว่ากำลังพิจารณาเอกสารของท่าน


จากคำให้การของผู้เสียหาย พบว่าพฤติกรรมดังกล่าวใกล้เคียงกับผู้ต้องหาที่เคยถูกจับกุมตัวเมื่อปี 2563 คือนายกุณฑล ซึ่งเป็นผู้ต้องหาหลบหนีคำพิพากษาของศาลอาญาในคดีปลอมแปลงเอกสาร ตำรวจกองปราบปรามจึงขยายผลจากบัญชีที่รับโอนเงินก่อนจากกรมผู้ต้องหาได้จำนวน 3 คน และขยายผลไปสู่การจับกุมนายกุณฑล อายุ 53 ปี หัวหน้าแก๊ง ได้ที่หมู่ 10 ซอยเขาตาโล 9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี


นอกจากนี้ยังสามารถจับกุมผู้ต้องหา อีก 3 ราย ได้แก่ นายสาโรจน์ อายุ 27 ปี, นายอภิศักดิ์ อายุ 29 ปี และ น.ส.นนทกร อายุ 49 ปี ซึ่งรายสุดท้ายถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้แล้วในข้อหาอื่น ปัจจุบันถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำพิเศษพัทยา


และแจ้งข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอม และโดยทุจริตหลอกลวง และร่วมกันเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน”


พร้อมตรวจยึดของกลาง ได้แก่ บัตรเอทีเอ็มและสมุดบัญชีธนาคารต่างๆ จำนวน 31 รายการ, เครื่องคอมพิวเตอร์ จำนวน 2 เครื่อง และโทรศัพท์มือถือและแท็บเล็ต จำนวน 8 เครื่อง


สำหรับนายกุลฑล จะทำหน้าที่ปลอมเอกสาร และส่ง sms ไปยังเหยื่อส่วนที่เหลืออีก 3 คน ทำหน้าที่เปิดบัญชีธนาคาร เพื่อรับโอนเงินจากผู้เสียหาย และเบิกถอนเงินออกจากตู้ ATM


รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เผยว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การ รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา และสำหรับคดีนี้เชื่อว่ายังมีผู้เสียหายอีกจำนวนมากหาก ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อขอให้ไปแจ้งความตามท้องที่เกิดเหตุ ซึ่งพนักงานสอบสวนกองปราบปรามจะเร่งดำเนินการรวบรวมสำนวนไว้ เป็นคดีเดียวกัน และดำเนินคดีกับผู้ต้องหา


คุณอาจสนใจ

Related News