อาชญากรรม

เจอตัวแล้ว สาวถูกอดีตสามีพังบ้าน อุ้มหายข้ามวัน ยันไม่เอาเรื่อง แต่จากนี้ไม่ยุ่งเกี่ยวกันอีก

โดย nattachat_c

22 ก.ย. 2565

299 views

จากกรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊ก อาร์ม กมลสุทธิ โพสต์คลิปบอกว่า น้าสาวโดนอดีตสามีที่เลิกรากันไป แต่ไม่ยอมจบ ก่อนจะถูกอุ้มออกไปไหนไม่รู้ เหตุการณ์เกิดขึ้น ในพื้นที่หมู่ 1 ต.คลองจินดา อ.สามพราน จ.นครปฐม เมื่อวันที่ 20 ก.ย. 65 เวลา 22:25 น. ที่ผ่านมา


จากกล้องวงจรปิดที่บันทึกเหตุการณ์ จะเห็นว่า มีผู้ชายคนหนึ่งใส่เสื้อสีเหลือง พยายามพังบ้านบุกเข้ามาในบ้านของฝ่ายหญิง ก่อนจะทำร้าย มีการฉุดกระชาก ล็อกคอพยายามลากออกจากบ้าน ขณะที่ท่าทีของฝ่ายหญิงพยายามขัดขืนและกรีดร้อง แต่ท้ายที่สุดก็โดนลาก และหายออกไปจากกล้องวงจรปิด ทราบชื่อต่อมา ฝ่ายชายชื่อโจ อายุ 38 ปี ส่วนฝ่ายหญิงชื่ออุ๋ม อายุ 49 ปี


สำหรับจุดเกิดเหตุ เป็นบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ หมู่ 1 ต.คลองจินดา อ.สามพราน ซึ่งทำเป็นร้านขายของชำ ซึ่งตรงที่ทำเป็นประตูมุงด้วยไม้คล้ายๆ กับไม้อัด จึงทำให้ผู้ก่อเหตุสามารถพังเข้ามาได้ง่าย


ต่อมา เวลาประมาณ 20.25 น. ทีมข่าวได้รับการยืนยันจาก พ.ต.ท.ภานุพงศ์ ชมดารา รองผกก.สอบสวน สภ.สามพราน ว่า เจอตัวแล้วฝ่ายหญิงปลอดภัย กำลังนำตัวมาจาก จ.เพชรบุรี


โดยคุณพ่อของฝ่ายหญิงได้เล่าเหตุผลในการปล่อยตัว เนื่องจากว่า ฝ่ายชายรู้ว่ามีการแจ้งความเกิดขึ้น ก็เลยยื่นเงื่อนไขมาว่า ให้ถอนแจ้งความ และจะปล่อยตัวฝ่ายหญิงออกมา


จากนั้นเวลา 22.05 น. ตำรวจนำตัวฝ่ายหญิงที่ถูกอุ้มมาถึง สภ.สามพราน เธอได้บอกสั้นๆ กับผู้สื่อข่าวเพียงแค่ว่า ที่ฝ่ายชายอุ้มไปเพราะเขาต้องการเคลียร์ และขอคืนดี แต่เราไม่ยินยอม ตอนที่ถูกอุ้มไปโดนขู่นิดหน่อย เมื่อถามว่าอีกฝ่ายเคยทำแบบนี้มาแล้ว 1 รอบใช่หรือไม่ ฝ่ายหญิงพยักหน้ารับ ซึ่งก่อนหน้านี้ฝ่ายหญิงไม่ได้เอาเรื่อง


ผู้สื่อข่าวพยายามถามว่าจะเอาเรื่องไหม ฝ่ายหญิงบอกว่าถ้าเอาเรื่องก็จะมีหลายคนโดนด้วย คือเขาไม่ได้มีส่วนร่วมอะไรด้วย ก่อนจะเดินเข้าห้องสอบสวน และได้สวมเข้ากอดกันกับแม่


จากนั้น ฝ่ายหญิงได้ออกมาเผยกับทีมข่าว โดยเล่าถึงเหตุการณ์ว่า ฝ่ายชายเข้ามาทุบประตูเสียงดังมาก ตอนนั้นก็รู้แล้ว จะวิ่งหนี แต่วิ่งไม่ทัน เขามาล็อกคอ ซึ่งตนก็บาดเจ็บถลอกเล็กน้อย ตามคอ ตามแขน รู้สึกปวด และระบม


จากนั้นเขาลากเข้าไปในรถ ซึ่งตนรู้สึกแค้นมากตรงที่โดนเท้าเหยียบหน้า จากนั้นได้ขับรถไปที่ซุ้มไก่ ในพื้นที่ชะอำ เพชรบุรี ก่อนจะพาไปที่ ป่าละอู เพชรบุรี และค้างที่นั่น ซึ่งเป็นบ้านญาติของอีกฝ่าย


ตอนนั้นใจหวิวมาก คิดว่าไม่รอดแล้ว ขณะเดียวกันอีกฝ่ายมีการขู่ ในลักษณะที่ว่า ถ้าไม่เชื่อฟัง จะฆ่าทิ้ง รวมทั้งบอกว่าจะฆ่าทั้งโคตร


ฝ่ายหญิงยังได้เล่าถึงความสัมพันธ์ด้วยว่า คบหากันเป็นสามี-ภรรยา มาแล้วกว่า 6 ปี โดยช่วง 1-2 ปีแรก เขาดีมาก พอปีที่ 3 ทะเลาะกันรุนแรง ได้แยกกันไป ก่อนกลับมาคุยกัน


ต่อจากนั้นหลังๆ มาก็มีปัญหา ทะเลาะกันหนักขึ้นๆ เขาคิดว่าเราอยากเลิกเพราะมีคนอื่น แต่เขาไม่คิดว่าเป็นพฤติกรรมของเขา ข่มขู่ ใช้ความรุนแรง แม้ว่าเขาบอกว่ายังมีเยื่อใยอยู่ แต่เราคิดว่ารุนแรงขนาดนี้ แยกทางกันดีกว่า เพราะยอมรับความรุนแรงแบบนี้ไม่ได้


ทั้งนี้ ยืนยันว่าไม่เอาเรื่อง เพราะคนที่พาไปก็จะโดนด้วย คิดว่าเขาไม่ได้เกี่ยวข้องอะไร เพราะมีแค่เราสองคน


ด้านพ่อของฝ่ายหญิง ได้ย้ำชัดถึงเหตุผลที่ไม่ดำเนินคดีว่า ผู้ก่อเหตุได้บอกกับฝั่งลูกสาว ถ้าเราถอนแจ้งความจะปล่อยตัวโดยดี เพราะเราคำนึงถึงความปลอดภัยของลูกสาวเป็นหลัก จึงตัดสินใจไม่เอาเรื่อง


ถ้าหากวนกลับไปเอาเรื่อง ก็จะเกิดเป็นความแค้นต่อกัน ครั้งนี้ก็อโหสิกรรมซึ่งกันและกันไป  แต่มีเงื่อนไขอยู่ว่า ต้องมาให้มาพูดต่อหน้าตำรวจว่า จะเลิกกันอย่างเด็ดขาด ไม่มีการมาข่มขู่ หรือเกี่ยวข้องกันอีก ถ้ามีอีกครั้งหน้าจะดำเนินคดีอย่างแน่นอน รวมทั้งครั้งนี้ที่ลงบันทึกประจำวันไว้แล้วด้วย


เวลา 00.30 น. ฝ่ายชายเดินทางมาถึงที่ สภ.สามพราน และได้เข้าพนักงานสอบสวน และออกมาให้สัมภาษณ์กับทีมข่าว ซึ่งได้ขอโทษ และยอมรับผิดในสิ่งที่ทำรุนแรงไป และบอกถึงเหตุผลว่า ทำไปเพราะกดดันในหลายเรื่อง คบกันมา 6 ปี รู้ทั้งรู้ว่าแฟนมีหนี้ แต่ก็ยังอยู่ด้วยและหาเงินให้ ถึงขั้นยอมเอาชีวิตตัวเองไปเสี่ยงกับสิ่งผิดกฎหมาย เพื่อหาเงินมาให้เขาใช้หนี้ และตนไม่รู้ว่าผิดอะไร


พอไปหาก็มีแต่ไล่ ไปปุ๊ปก็ไล่ๆ และพยายามตีตัวออกห่าง จึงพยายามที่จะไปเคลียร์ แต่ก็ไม่ได้คุย ก็เลยงงว่า ทำไมไม่ยอมคุยกันดีๆ ทั้งที่เราทำเพื่อเขาทุกอย่าง ซึ่งสิ่งที่เราต้องการเพียงแค่ความสบายใจ แต่ก็ไม่เคยได้รับ จนสุดขีดความอดทน ก่อนจะตัดสินใจทำแบบนั้นลงไป และขอยืนยันว่า ไม่เคยขู่ฆ่าอีกฝ่ายตามที่เขากล่าวอ้างเลยสักครั้งเดียว


ตอนนี้เจรจากับอีกฝ่ายแล้ว ซึ่งเขาก็ยืนยันไม่ดำเนินคดี ขณะเดียวกันที่มา สภ. ก็มาเพื่อนยืนยันให้พ่อแม่อีกฝ่ายสบายใจว่า เราจะไม่ยุ่งกับเขาอีกแล้ว แต่ก็ยอมรับว่ายังคงมีความรู้สึกดีๆ ให้อยู่ ส่วนความสัมพันธ์ต่อจากนี้เป็นเรื่องของอนาคต


ด้าน พ.ต.ท.ภานุพงศ์ เผยว่า ได้สอบสวนทั้ง 2 ฝ่ายไปแล้ว เบื้องต้น พฤติการณ์ของผู้ก่อเหตุนั้นมีความผิด ส่วนจะเข้าข่ายความผิดใดบ้างนั้นขึ้นอยู่กับความประสงค์ของผู้เสียหาย ซึ่งฝ่ายหญิงที่เป็นผู้เสียหายไม่ประสงค์ดำเนินคดี แต่ก็ยอมรับว่าเป็นกังวลในเรื่องความปลอดภัยอยู่


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/ZBkGTsNCb50


คุณอาจสนใจ

Related News