คุมตัวทำแผนมือยิง "เมี้ยก โคกพลา" อ้างไม่ได้ตั้งใจ ทะเลาะแรงเรื่องช่วยคดีผู้ตาย

จากกรณีนายณัฐนนท์ หรือ “สุดหล่อ โคกพลา” อายุ 26 ปี อยู่บ้านหมู่ 9 ต.โคกหล่อ อ.เมืองตรัง เข้ามอบตัวตามหมายจับ ศาลจังหวัดตรัง ที่ 341/2565 หลังก่อเหตุใช้อาวุธปืนขนาด 11 มม. ยิงนายฐิติกร หรือ “เมี๊ยกโคกพลา” อายุ 22 ปี อยู่บ้าน 58/4 หมู่ 9 ต.โคกหล่อ อ.เมืองตรัง อาชีพเด็กเลี้ยงวัวชน จำนวน 3 นัด เสียชีวิตในพื้นที่ หมู่ 9 บ้านโคกพลา ต.โคกหล่อ อ.เมืองตรัง เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 11.30 น. วานนี้ (15 ก.ย. 65) ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น


วันนี้ (16 ก.ย.) เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. พ.ต.อ.เชื้อชาติ เยาดำ ผกก.สภ.เมืองตรัง พร้อมด้วย พ.ต.ท.วสันต์ บรรลือพืช สว.สส. และกำลังชุดสืบสวนกว่า 10 นาย ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาไปชี้จุดตามที่กล่าวอ้างว่าหลังจากก่อเหตุ ได้นำอาวุธปืนขนาด 11 มม. ที่ใช้ก่อเหตุไปโยนทิ้งลงแม่น้ำตรัง บริเวณสะพานท่าแก้มดำ หมู่ที่ 1 ต.โคกยาง อ.กันตัง จ.ตรัง โดยที่ผู้ต้องหา เล่าว่า ได้ใช้ผ้าห่ออาวุธปืนแล้วโยนอย่างสุดแรงลงแม่น้ำ บริเวณตรงกลางสะพาน


ขณะเดียวกันนางนฤทัย อายุ 51 ปี แม่ผู้เสียชีวิตได้เดินทางมาพร้อมกับลูกสาว ที่เป็นน้องสาวของผู้ตาย เพื่อจะขอคุยกับผู้ต้องหา และทวงถามความจริงถึงสาเหตุ ท่ามกลางเสียงร้องไห้ระงมน้ำตาอาบใบหน้า ก่อนที่ผู้ต้องหาจะคุกเข่ากราบขอโทษแม่ผู้เสียชีวิต และบอกว่าไม่ได้ตั้งใจจะก่อเหตุ เป็นแค่อารมณ์ชั่ววูบ และได้ช่วยเหลือผู้ตายทุกอย่างก่อนหน้านี้แล้ว ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะควบคุมตัวไปชี้จุดเกิดเหตุ และปฏิเสธการให้สัมภาษณ์ตามสิทธิ


ต่อมาทางชุดประดาน้ำจากหน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลสถานตรัง กว่า 10 นาย ได้กระจายกำลังลงค้นหาอาวุธปืนของกลางในแม่น้ำตรัง ซึ่งต้องระดมกันวางแผนเป็นอย่างดี เนื่องจากมีกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวกราก รวมทั้งแม่น้ำมีความกว้างและยาวเป็นอย่างมาก ในเบื้องต้นจากการค้นหาประมาณ 30 นาทียังคงไม่พบอาวุธปืนแต่อย่างใด


ด้าน นางนฤทัย แม่ผู้เสียชีวิต กล่าวว่า คนยิงตนก็รู้จักดี เป็นเพื่อนสนิทของลูกชาย และมีศักดิ์เป็นเครือญาติกันด้วย ตนไม่ได้โกรธแค้น เพราะทุกคนต้องมีวันตาย แต่อยากรู้ว่าคนยิงทำน้อง ฆ่าน้องทำไม สาเหตุที่คนยิงกล่าวอ้างตนไม่เชื่อว่าเรื่องแค่นั้น และยังอ้างว่าไม่ได้เจตนาไม่ได้ตั้งใจจะทำแค่นั้นหรือ เรื่องแค่นั้นต้องมาแลกกับชีวิตของคน ๆ หนึ่งเลยหรือ


เบื้องต้นผู้ต้องหายังให้การภาคเสธฯ อ้างว่าได้อยู่กับผู้ตายที่คอกเลี้ยงวัวชนจริง แต่ไม่ได้เป็นคนลงมือก่อเหตุ ขณะที่ ตร.ยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การ จากนั้นได้นำตัวเข้าห้องขังเพื่อรอสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง ขณะที่แนวทางการสืบสวนสอบสวนทราบว่าทั้งคู่รู้จักกัน และมักจะไปมาหาสู่กันอยู่เป็นประจำ วันเกิดเหตุผู้ตายได้ขับรถ จักรยานยนต์มาที่คอกวัวของผู้ต้องหา เพื่อเจรจาพูดคุยปัญหาขัดแย้งส่วนตัว และเรื่องวิ่งเต้นคดีของผู้ตาย แต่ไม่สามารถตกลงกันได้ จึงมีปากเสียงทะเลาะกันรุนแรง ทำให้ลงมือก่อเหตุดังกล่าว ก่อนหลับไปท่ามกลางห่าฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก


ส่วนทางคดีทางตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหา ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา และมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัวหรือมีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์และไม่มีเหตุอันสมควร โดยที่ชั้นพนักงานสอบสวนไม่ได้คัดค้านการประกันตัวแต่อย่างใด และเตรียมนำตัวส่งฟ้องศาล จ.ตรังต่อไป