อาชญากรรม

พ่อแรปเปอร์โดนต่อยเลือดออกในสมอง คาดอริเพื่อนลูกชายฉุนโดนหมายเรียกทุบรถ

โดย taweelap_b

6 ก.ย. 2565

176 views

เมื่อวันที่ 6 ก.ย. 65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกฤษณะ กนแกม หรือ “ไฮฮอต” อายุ 22 ปี แรปเปอร์หนุ่ม ลูกชายผู้บาดเจ็บ และนายบุญญฤทธิ์ ศรีสวัสดิ์ หรือ “แบงค์” อายุ 22 ปี ซึ่งเป็นคู่กรณีกับนายหนุ่ย อายุ 37 ปี และนายชา อายุ 32 ปี ผู้ก่อเหตุรุมทำร้ายร่างกาย พ่อของแรปเปอร์หนุ่มไฮฮอต ที่ร้านสะดวกซื้อซอยบางแวก 79 ย่านภาษีเจริญ จนได้รับบาดเจ็บเลือดออกในสมอง


นายกฤษณะ เปิดเผยว่า สำหรับพ่อของตนที่ถูกนายหนุ่ย ทำร้ายร่างกายนั้น ตนยืนยันว่าพ่อไม่ได้ไปหาเรื่องนายหนุ่ย ก่อนอย่างแน่นอน ซึ่งในวันเกิดเหตุพ่อขับรถออกไปรับแม่ จังหวะที่ออกมาจากร้านสะดวกซื้อ ก็ถูกกลุ่มนายหนุ่ย รุมทำร้าย พร้อมบอกว่า "ลูกมึงฟันกู" ทั้ง ๆ ที่ตนและพ่อยังไม่ได้ทำอะไรเลย และไม่ได้มีการยั่วยุ หรือเยาะเย้ยตามที่นายหนุ่ย กล่าวอ้างแต่อย่างใด


ส่วนเรื่องที่นายเจมส์ เพื่อนของตนไปฟันนายหนุ่ย ในวันที่ทะเลาะกับป้าขายหมูปิ้งนั้น ตนยอมรับว่านายเจมส์ ฟันจริง ซึ่งมีดที่ใช้ก่อเหตุเป็นมีดที่ใช้ในการถ่าย MV เพลง ไม่ได้มีการเตรียมการ หรือพกอาวุธมาก่อเหตุแต่อย่างใด ความจริงแล้วก่อนวันเกิดเหตุนายแบงค์ เพื่อนของตนมีปัญหากับป้าขายหมูปิ้งเรื่องที่จอดรถหน้าบ้าน และวันเกิดเหตุลูกของป้าขายหมูปิ้ง พร้อมเพื่อน ๆ และกลุ่มวินจักรยานยนต์ ได้ล้อมอยู่ที่บ้านตนเพื่อให้นายแบงค์ ออกมาขอโทษป้าขายหมูปิ้ง ซึ่งตอนนั้นนายแบงค์ ก็ได้ลงมา แต่ลูกป้าขายหมูปิ้งไม่รับคำขอโทษ และมีการตะโกนด่า จึงได้ให้นายแบงค์ เข้าบ้านไป


หลังจากนั้น นายแบงค์ จึงเดินขึ้นไปด้านบน ซึ่งมีนายเจมส์ นอนอยู่ ต่อมามีเสียงทะเลาะกันเริ่มรุนแรงขึ้น นายเจมส์ทนไม่ไหวจึงลงมาพร้อมกับนายแบงค์ แต่ด้วยนายเจมส์ เป็นคนอารมณ์ร้อน ตนจึงพยายามให้ขึ้นไปบนห้อง ตอนั้นนายเจมส์ ก็มีปัญหามีปากเสียงกับนายหนุ่ยแล้ว และจังหวะที่นายเจมส์ ขึ้นไปบนบ้าน นายหนุ่ยก็อ้อมออกมาอีกทาง ก่อนจะปาขวดน้ำเฉียดหน้านายเจมส์ไปนิดเดียว จึงสร้างความไม่พ่อใจให้กับนายเจมส์ ทำให้นายเจมส์ วิ่งขึ้นไปด้านบนบ้าน ซึ่งตอนนั้นตนไม่รู้ด้วยซ้ำว่านายเจมส์วิ่งไปเอามีด จนต่อมาปากเสียงเริ่มรุนแรง นายแบงค์ถูกทำร้ายร่างกาย จากวินจักรยายนต์ที่เข้ามาล้อมและมีปากเสียงกัน ตนก็เข้าไปช่วยนายแบงค์ ส่วนนายเจมส์ก็เอามีดลงมาฟันนายหนุ่ย ตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้ ตนเห็นเหตุการณ์อีกทีคือตอนที่นายหนุ่ยถูกฟันแล้ว


จากนั้นตนพยายามพานายแบงค์ และนายเจมส์ รวมถึงน้อง ๆ คนอื่นขึ้นไปบนบ้านเพื่อป้องกันเหตุบานปลาย ส่วนนายหนุ่ย ที่ถูกฟัน ตนได้ไปดูบาดแผล ก่อนพลเมืองดีจะพาขึ้นรถไปหาหมอ จากนั้นตนก็ได้กลับขึ้นบ้านไป ก่อนจะโทรศัพท์แจ้งตำรวจให้มาควบคุมสถานการณ์ เพราะลูกหลานป้าขายหมูปิ้งและวินจักรยานยนต์ ยังรุมล้อมอยู่เต็มบ้าน แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึง กลับฟังข้อมูลจากฝั่งคู่กรณี และเรียกนายเจมส์และนายแบงค์ ให้ลงมาจากบ้านพร้อมใส่กุญแจมือพาตัวขึ้นรถไป สน.บางเสาธง พร้อมกับแจ้งข้อหากับทั้งคู่ ทั้งที่นายแบงค์ ไม่ได้ทำอะไรผิดด้วยซ้ำ หลังจากนายแบงค์ และนายเจมส์ ออกไปแล้ว ตนได้ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาช่วยพากลุ่มตนออกจากบ้านด้วย เพราะกลุ่มคู่กรณียังล้อมบ้านอยู่ เกรงว่าจะเป็นอันตราย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงพาพวกตนออกไป ซึ่งหลังจากตนออกมาก็มีคนในพื้นที่ส่งข้อมูลมาให้ว่ารถของนายแบงค์ ถูกกลุ่มคู่กรณีทำลายเสียหาย นายแบงค์ จึงแจ้งความกับบุคคลที่ลงมือทำลายรถในข้อหาทำลายทรัพย์ผู้อื่น เป็นเหตุให้ได้รับความเสียหายกับผู้ก่อเหตุทั้ง 5 คน


อย่างไรก็ตาม หลังจากเกิดเหตุนายเจมส์ฟันนายหนุ่ยในวันนั้น ตนได้กลับบ้านไปเก็บของเพราะรู้สึกไม่ปลอดภัย จะย้ายไปอยู่ที่อื่น ซึ่งบรรยากาศที่วินจักรยานยนต์มันดูตรึงเครียดไปหมด ไม่มีใครรับไหว้ตนเลย ส่วนนายหนุ่ย ตนไม่เห็น คาดว่าน่าจะรักษาตัวอยู่ ส่วนนายเจมส์ หลังเกิดเหตุได้มีการขอออกจากกลุ่มไป เพราะตนมองว่านายเจมส์ ทำเกินกว่าเหตุ ดังนั้นนายเจมส์ไม่มีความเกี่ยวข้องกับตนอีกแล้ว ตนก็งงว่านายหนุ่ย มาลงมือลงไม้กับพ่อตนทำไม เพราะตนและพ่อไม่ได้เกี่ยวข้องด้วย สาเหตุตนมองว่าก่อนเกิดเหตุ 1 วัน มีหมายเรียกจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ กรณีทุบทำลายรถนายแบงค์ ไปถึงกลุ่มเพื่อนของนายหนุ่ย ที่ก่อเหตุ ทำให้เจ้าตัวไม่พอใจ และวันนั้นก็เป็นวันแรกที่พ่อตนเห็นนายหนุ่ย หลังพักรักษาตัวมานานด้วย หลังจากนี้ก็ต่างคนต่างดำเนินคดีของแต่ละคนไป เขาต้องได้รับโทษและชดใช้ในสิ่งที่เขาทำ ส่วนพ่อของตนหมอบอกว่ามีเลือดออกในสมอง 8 ซม. และต้องศัยกรรมกระดูกใบหน้าที่หักหลายจุด

คุณอาจสนใจ

Related News