ศาลไม่ให้ประกันตัว หนุ่มคนสนิท 'เจ๊นุช' หลังผู้เสียหายยื่นค้านประกันตัว หวั่นข่มขู่-ยุ่งเหยิงพยาน

ยังคงเป็นประเด็นต่อเนื่องกรณีของ ส.ต.ท กรศศิร์ หรือเจ๊นุช ที่ก่อเหตุทำร้ายร่างกายอดีตทหารรับใช้ และถูกดำเนินคดี พ.ร.บค้ามนุษย์ ซึ่งเจ๊นุช ถูกควบคุมตัวในเรือนจำจังหวัดราชบุรี  ซึ่งเรื่องนี้ถูกเปิดเผยและขยายผลไปถึงหลายวงการ และคนใกล้ชิดเจ๊นุช ก็ได้รับผลกระทบไปตามๆ กัน

อย่างเช่น นายคมสิทธิ์ น้องชายนักการเมืองท้องถิ่น จังหวัดราชบุรี ซึ่งเป็นชายคนสนิทเจ๊นุช ก่อนหน้านี้ถูกดำเนินคดี ร่วมกันทำร้ายร่างกาย นางสาวเอ อดีตทหารรับใช้ ขณะที่ไปเที่ยวที่ชะอำและหัวหิน  คดีนี้ได้รับการประกันตัว

และเมื่อวันศุกร์ที่ 2 กันยายน นางสาวเอ แจ้งความเอาผิด นายคมสิทธิ์ ที่สภ.เมืองราชบุรี ข้อ พ.ร.บค้ามนุษย์ หลังจากที่ นางสาวเอ ไปทำงานเป็นลูกจ้างของนายคมสิทธิ์ แต่ไม่ได้รับค่าจ้างและยังถูกข่มขู่ ซึ่งเรื่องนี้ เข้าแจ้งความ เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2565

วานนี้ (5 ก.ย. 65) พนักงานสอบสวน สภ.เมืองราชบุรี คุมตัวนายคมสิทธิ์ จังพานิช ส่งฝากขังศาลจังหวัดราชบุรี ในข้อหา บังคับใช้แรงงานหรือบริการตามมาตรา 6/1 พ.ร.บ ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์,ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ตาม ป.อ.มาตรา 295 , ข่มขืนใจผู้อื่นโดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย ขู่เข็ญและใช้กำลังประทุษร้าย ตาม ป.อ.มาตรา 309

โดยตำรวจคุมตัวขึ้นรถกระบะ 4 ประตู สีบรอนซ์ ทันทีที่มาถึงศาล ตำรวจรีบคุมตัวเข้าสู่ห้องคุมขัง นายคมสิทธิ์สวมเสื้อยืดสีน้ำตาลอ่อน ด้วยสีหน้าเรียบเฉย ไม่มีการถูกสวมกุญแจมือ

บริเวณด้านหน้าศาล มีพ่อและแม่ของนายคมสิทธิ์ เดินทางมาที่ศาลฯ พร้อมกับทนายความ เพื่อยื่นขอประกันตัวลูกชายด้วยเช่นกัน

ส่วนทางด้านนางสาวเอ ผู้เสียหาย เดินทางมาพร้อมกับ คุณกัน จอมพลัง เพื่อมาขอยื่นคัดค้านประกันตัว ซึ่งวันนี้นางสาวเอ ได้สวมชุดนักศึกษาและชุดครุยมาที่ศาล เนื่องจากเข้าพิธีซ้อมรับพระราชทานปริญญาบัตร ระดับปริญญาโท มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง  

ศาลจังหวัดราชบุรีใช้เวลาอ่านคำวินิจฉัย เกือบ 2 ชั่ว กระทั่งเวลา 16 นาฬิกา 30 นาที ศาลมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ประกันตัวนายคมสิทธิ์ หลังผู้เสียหายยื่นค้านประกัน

หลังจากนั้นเวลา 17 นาฬิกา รถคุมขังจากเรือนจำกลางจังหวัดราชบุรี ได้คุมตัวนายคมสิทธิ์ ออกจากศาลจังหวัดราชบุรี มุ่งสู่เรือนจำกลางจังหวัดราชบุรีตามขั้นตอน

โดยคุณกัน เปิดเผยว่า เหตุผลที่ศาลไม่ให้ประกัน คาดว่าน่าจะมาจากคำสัมภาษณ์ของนายคมสิทธิ์ ที่เป็นหลักฐานชิ้นสำคัญ

โดยให้สัมภาษณ์กับสื่อก่อนหน้านี้ว่า "เรื่องที่ถูกนางสาวเอ แจ้งความ ก็ให้เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย ซึ่งก็ยอมรับผิดว่า ตบตีเอจริง แต่เด็กคนนี้เมื่อไหร่มึงจะหยุด เอพี่เตือนไว้นะ ตอนนี้พี่ไม่รู้ว่าเอจะทำอะไร แต่ก็คิดอยู่ในใจว่าเอกำลังตกเป็นเครื่องมือของคนอื่น ถ้าเอ ไม่รีบหยุดตอนนี้ สุดท้ายเอ จะลำบากคนเดียว เอจำคำพี่ไว้ พี่สอนเอมาตลอด พี่เคยร้องไห้กับเอจำได้ไหม เอลองนึกย้อนนะพี่หวังดีกับ เอมาตลอด ทุกครั้งที่ตบตีมาตลอด และก็จะจบด้วยการที่พี่สอนเอทุกครั้ง เอลองนึกให้ดีๆ เอจำคำพี่ไว้ ที่ผ่านมาพี่เคยบอกเอเสมอว่าคนเราเท่ากัน ให้จำคำพี่ไว้ ทุกวันนี้เอ หลงผิดหรือทำอะไรพี่ไม่รู้ แต่เอหยุดซะนะ"

โดยในคำสัมภาษณ์นั้นมีการข่มขู่ผู้เสียหาย และกลัวว่าจะไปยุ่งเหยิงและคุกคามผู้เสียหาย ตามที่ข่มขู่ในคำสัมภาษณ์ ซึ่งในวันนี้หลังทราบข่าวว่าจะมีการนำตัวนายคมสิทธิ์ส่งฟ้องศาล ตนก็รีบเดินทางมายื่นค้านประกันตัวกับผู้เสียหายทันที

ส่วนนางสาวเอ ผู้เสียหาย เปิดใจว่ารู้สึกดีใจและโล่งใจ แต่ยังมีความกังวล เรื่องความปลอดภัยของครอบครัว เพราะต้องหาเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่

ซึ่งในวันที่ 7 กันยายนนี้ เธอจะเข้าพิธีรับพระราชทานปริญญาบัตร ระดับปริญญาโท ซึ่งในตอนแรกเธอตัดสินใจว่าจะไม่เข้ารับ เนื่องจาก ส.ต.ท.กรศศิร์ เคยข่มขู่ไว้ว่า "จะทำทุกอย่างไม่ให้เธอได้รับปริญญา" ซึ่งเธอคิดว่าถ้าเธอไม่ได้รับการช่วยเหลือจากคุณกัน ก็คงไม่มีโอกาสได้รับปริญญา

ส่วนประเด็นเรื่องการเข้ารับราชการ หลังจากนี้ หากต้องถูกให้ออกตามระเบียบ ตนก็ยินดี เพราะยอมรับว่าเธอเองก็เข้าไปอย่างไท่ถูกต้อง มารู้ตัวอีกทีก็ถูกให้ช่วยงานราชการแล้ว

ด้านญาติของ น.ส.เอ ก็บอกว่า ตั้งแต่เกิดเรื่องนี้ขึ้นมาก็กลัวกันมาก ต้องย้ายไปนอนตามบ้านญาติๆ เนื่องจากกลัวความไม่ปลอดภัย ล่าสุดกล้องวงปิดที่บ้านก็จับภาพรถต้องสงสัยมาวนเวียนหน้าบ้าน ซึ่งเป็นทะเบียน กทม. ติดฟลิ์มสีดำ ยิ่งทำให้เกิดความกลัว จนต้องขอกำลังตำรวจคุ้มครอง เวลาเดินทางไปไหนมาไหน แม้แต่ น.ส.เอจะต้องไปซ้อมรับปริญญาโทที่ราชภัฎจอมบึง ก็ต้องขอกลับมาก่อนเพื่อมายื่นประกันในครั้งนี้ด้วย
-------------

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/ukqX1-b9mV4