ภารโรงฉาว ปฏิเสธอนาจาร 2 ด.ญ. ระหว่างขับส่งบ้าน อ้างเด็กไม่อยากลงจากรถ รับคุยเชิงชู้สาว ปัดแตะตัวเด็ก

ภารโรงหื่นอนาจาร 2 เด็กหญิง โรงเรียนพยายามปิดข่าว ผู้ปกครองโร่แจ้งจับภารโรง ซดเบียร์อนาจารนักเรียนหญิง ป.6 ฉวยโอกาสขณะขับรถตู้รับส่งนักเรียน โอบไหล่-ขอหอมแก้ม-ดึงตัวเข้าหาเอาปากมาใกล้ เจ้าตัวเข้าพบตำรวจ ปฏิเสธทุกข้อหา อ้างเด็กไม่อยากลงจากรถ รับคุยเชิงชู้สาว ปัดไม้ได้ถูกเนื้อต้องตัวเด็ก

วานนี้ (4 ก.ย. 65) ผู้ปกครองของเด็กหญิง 2 ราย ชั้น ป.6 อายุ 11 กับ 12 ปี โรงเรียนแห่งหน่ง ใน ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.บางเสาธง เอาผิดกับนักการภารโรงของโรงเรียน ในข้อหากระทำอนาจารเยาวชน อายุไม่ถึง 15 ปี หลังก่อเหตุทำอนาจารลูกสาวบนรถตู้รับส่งนักเรียน (รถตู้ของภารโรงนำมารับส่งรักเรียน)

โดยนักเรียนหญิงอายุ 11 ปี ชั้น ป.6 เล่าว่า เหตุเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม ที่ผ่านมา โดยวันเกิดเหตุโรงเรียนหยุดเรียนครึ่งวัน วันเกิดเหตุหลังจากเลิกเรียน นักการภารโรงรายนี้จะต้องพาเด็กๆ ไปส่งตามบ้านพัก ที่กำหนดไว้ในเส้นทาง ตนเองลงคนสุดท้าย

“วันนั้นเป็นวันพุธ คุณครูมีประชุม และให้เลิกเรียนครึ่งวัน พอขึ้นรถลุงเทียน (ภารโรง) เพื่อกำลังจะกลับบ้าน ซึ่งจะต้องไปส่งเพื่อนที่ลาดหวายก่อน แล้วรถเกิดยางแบนจึงจอดรถ แล้วโทรตามช่างมา  ระหว่างนั้นลุงเทียน ก็ไปซื้อเบียร์มากิน 1 ขวด จนช่างมา แล้วช่างออกไปซื้อของ ลุงเทียนเลยไปซื้อเบียร์มากินขวดที่สอง จนกระทั่งทำรถเสร็จ

ตอนนั้นเหลือนักเรียนคือหนูคนเดียว ลุงเทียนได้ขับรถมาจอดที่อู่รถเมล์เก่า ซึ่งไม่ใช่เส้นทางไปบ้าน  หนูยังถามลุงว่า มาจอดทำไมตรงนี้ หนูอยากกลับบ้านแล้วมันจะค่ำแล้ว ลุงเทียนก็นั่งกินเบียร์ของเขาอยู่ในรถ แล้วก็เอ่ยปากบอกว่า ขอหอมหน่อย ตอนนั้นหนูก็ยังบอกว่าไม่เอา เพราะลุงเทียนน่ากลัว ลุงเทียนยังพูดอีกว่า ลุงน่ากลัวตรงไหน แล้วก็เอามือมาโอบไหล่หนู ดึงหนูเข้าไปหาจนปากลุงเทียนมาใกล้ปากหนู หนูก็รีบดันหน้าลุงเทียนออก แล้วให้พากลับมาส่งบ้าน”

จากนั้น

• วันที่ 18 สิงหาคม ภารโรงคนนี้ทักแชทเฟซบุ๊กมาหาเด็กหญิงอายุ 11 ปี ถามว่า “กินข้าวหรือยัง”
• วันที่ 19 สิงหาคม ภารโรงทักแชทมาว่า “ทำไรอยู่, นุ้ย (ชื่อเด็ก) ใจร้าย, ไม่รู้จักแล้วนะ” เด็กตอบกลับ “อ่าว ลุงเทียนเปลี่ยนไป” ภารโรงตอบ “นุ้ยนั่นแหละขอก็ไม่ให้” เด็กตอบ “เอ้า ก็หนูไม่ชอบอ่ะ” ภารโรงตอบว่า “ก็ไม่เป็นไร ห่างๆ ไว้จะได้สบาย” แล้วยังทักถามอีกว่า “กินข้าวหรือยังเป็นห่วง”

ด้าน พ่อของเด็กหญิงอายุ 11 ปี ชั้น ป.6 กล่าวว่า มีครูประจำชั้นของลูกสาวโทรมาแจ้งเรื่องให้ทราบ  ตนจึงได้สอบถาม ลูกสาวยอมรับว่า ถูกนายมณเทียน (สงวนนามสกุล) นักการภารโรงกระทำอนาจารจริง ตอนแรกลูกสาวไม่กล้าเล่าเรื่องราวดังกล่าวให้พ่อแม่ฟัง

กระทั่งลูกสาว ได้ไปพูดคุยกับกลุ่มเพื่อนในรถที่ไปด้วยกัน ซึ่งมีนักเรียนตัวแทนสภานักเรียนรวมอยู่ด้วย ปรากฎว่า ไม่ใช่ลูกสาวของตนที่ถูกกระทำคนเดียว ยังมีเด็กนักเรียนหญิงอีกราย ที่ขึ้นรถสายเดียวกัน คันเดียวกัน ถูกกระทำอีกด้วย ทำให้ตัวแทนสภานักเรียนนำเรื่องมามาปรึกษาครูประจำชั้นจนเรื่องแดงขึ้นมา

จากนั้น ผู้บริหารโรงเรียนได้เรียกคุย และพยามเจรจาเรื่องราวทั้งหมด ให้จบลงภายในโรงเรียน อ้างว่ากลัวจะเสียชื่อเสียงของทางโรงเรียน ที่ผ่านมา เคยเข้าไปพูดคุยในโรงเรียนแล้วถึง 2 ครั้ง จนกระทั่งครั้งล่าสุด มีทั้งตัวแทนท้องถิ่นเทศบาล กำนัน คณะกรรมการศึกษา ผู้ปกครอง เข้าร่วมพูดคุย

โดยมีการตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกับทางภารโรงคนนี้ ซึ่งเจ้าตัวก็ยอมรับว่าก่อเหตุจริง ทางโรงเรียนจึงให้ออกจากราชการทันที แต่กลับพบว่า ยังไม่มีการดำเนินการทางกฎหมายกับภารโรงรายนี้ หลังจากเกิดเรื่องภารโรงรายนี้ ยังย้อนกลับมาที่โรงเรียนด้วยท่าทีที่เมาสุราและโวยวาย ข่มขู่ในโรงเรีย นจนสร้างความหวาดกลัวให้กับครูในโรงเรียน รวมถึงความปลอดภัยของเด็กและผู้ปกครอง

จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความเพื่อให้ดำเนินคดี ตอนนี้ยอมรับว่า นอกจากจะเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยแล้ว ยังห่วงสภาพจิตใจของลูกสาวมาก เพราะตั้งแต่เกิดเรื่องมา ลูกสาวจากคนนิสัยร่าเริงกลายเป็นคนเงียบ ซึม และเก็บตัวอยู่แต่ในห้อง ขณะที่โรงเรียนไม่อยากให้เป็นข่าว แต่คงปิดไม่อยู่ ถ้าไม่ดำเนินคดี ต่อไปถ้าทำกับเด็กคนอื่นอีกจะทำอย่างไร ว่ากันไปตามกระบวนการตามกฎหมาย

แม่ของเด็กหญิงชั้น ป.6 วัย 11 ปี กล่าวว่า พอทราบเรื่องก็ตกใจ โดยภารโรงคนนี้ขับรถรับส่งลูกสาวตั้งแต่เรียน ป.1 ถึง ป.6 ไม่คิดว่าจะทำแบบนี้ เห็นเป็นคนอัธยาศัยดี ไว้ใจนึกว่าเขาจะรักเป็นลูกเป็นหลาน เด็กเริ่มโตเป็นสาวแล้ว ไม่รู้ว่าทำเพราะอารมณ์ชั่ววูบ เพราะดื่มเบียร์ หรือทำเพราะอะไร แม่รู้สึกไม่ปลอดภัย เพราะเขารู้จักที่อยู่กลัวมาวุ่นวาย ลูกสาวหวาดกลัวไม่กล้าไปโรงเรียน แม่จะให้ลูกหยุดเรียนชั่วคราวก่อน เพราะเป็นห่วงสภาพจิตใจ

แม่ของเด็กหญิงชั้น ป.6 วัย 12 ปี อีกราย เผยว่า ลูกสาวถูกภารโรงคนเดียวกันจับมือ ลูบหน้าผาก แล้วเอ่ยปากถามว่า “เป็นรอบเดือนแล้วหรือยัง” ยิ่งทำให้ตนและพ่อของเด็กตกใจมาก ยืนยันจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด หวาดกลัวเรื่องความปลอดภัยของครอบครัว เนื่องจากภารโรงคนนี้มักชอบดื่มสุรา และยังเคยออกมาโวยวายข่มขู่หลังจากเกิดเรื่อง อีกทั้งยังมีบ้านพักหลังโรงเรียน และรู้บ้านพักของนักเรียนอีกด้วย

ขณะที่นายธีรยุทธ ผู้อำนวยการโรงเรียนคลองเจริษราฎร์  เดินทางมายัง สภ.บางเสาธง พร้อมกับกำนันตำบลบางเสาธง เพื่อจะร่วมพูดคุยหาทางออก โดย ผอ.ไม่ทราบเรื่องว่า ฝ่ายผู้เสียหายเดินทางมาแจ้งความ นักข่าวพยายามสอบถามเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ ผอ.ปฎิเสธไม่ให้ข้อมูล โดยมีสีหน้าเคร่งเครียดทันทีที่เจอนักข่าว และเมื่อทราบว่ามีการแจ้งความเอาผิด จนกลายเป็นเรื่องใหญ่

ทางด้าน ผอ.ได้โชว์หลักฐานเอกสารที่ระบุเป็นสำนวนสอบสวนทางวินัยของคณะกรรมการ ซึ่งมีใจความสอบสวนข้อเท็จจริงกับนักการภารโรง ในสำนวนการสอบสวน ระบุการให้ถ้อยคำของนักการภารโรงรายนี้ ยอมรับว่า ดื่มสุราจริง ยอมรับว่ามีการถูกเนื้อต้องตัวกับนักเรียนจริง และยอมรับมีการพูดคุยต่อหน้านักเรียนในเชิงชู้สาวจริง โดยข้อมูลทั้งหมดยังไม่ขอให้สัมภาษณ์ใดๆ โดยอ้างว่าจะเตรียมแถลงข่าวที่โรงเรียนในวันนี้ (5 ก.ย. 65) เวลา 9.00 น.โดยจะมีคณะกรรมการเขตการศึกษาเข้ามาร่วมแถลงด้วย

เวลา 15.00 น. นายมนต์เทียน อายุ 53 ปี อดีตนักการภารโรง เดินทางมามอบตัวกับทางพนักงานสอบสวน สภ.บางเสาธงเจ้าตัวออกมาปฎิเสธข้อกล่าวหา อ้างว่าเด็กไม่อยากลงจากรถ ส่วนเบียร์แวะซื้อจริง แต่จะเอากลับไปดื่มที่บ้านพัก ส่วนที่ถูกกล่าวหากอดและหอมแก้มเด็กนั้น นายมนต์เทียน ให้การปฎิเสธ อ้างว่าไม่ได้ถูกเนื้อต้องตัวเด็กแต่อย่างใด  

จากนั้น 16.00 น. พนักงานสอบสวนได้คุมตัวนายมนต์เทียน ไปชี้จุดที่ขับรถออกนอกเส้นทาง แล้วไปจอดรถกับเด็กผู้เสียหาย หลังจากนี้พนักงานสอบสวน จะเรียกสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งนัดผู้เสียหายที่เป็นเด็กหญิงทั้ง 2 ราย เข้าสอบปากคำต่อหน้าสหวิชาชีพอีกครั้ง เพื่อจะรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/CJrs1RTRZoU