ผู้การฯ ราชบุรี จ่อออกหมายเรียก เชื่อตร.หญิงทำร้ายทหารรับใช้ไม่หนี

เมื่อวันที่ 19 ส.ค. 65 พล.ต.ต.ปิติ นฤขัตรพิชัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดราชบุรี เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีที่ ทหารรับใช้หญิง ซึ่งเป็นผู้เสียหาย ถูกนายจ้างที่เป็นตำรวจ ยศ ส.ต.ท. ซึ่งอ้างว่าเป็นภรรยา ส.ว. ทำร้ายร่างกาย ว่า การดำเนินคดีในเบื้องต้นกรณีการทำร้ายร่างกาย ยังต้องรอผลการตรวจทางแพทย์ก่อนว่าเป็นการทำร้ายร่างกายสาหัสหรือไม่

จากการสอบปากคำนานกว่า 10 ชั่วโมง มีการสอบปากฝั่งผู้เสียหายไปทั้งหมด 4 ปากแล้ว คือ ตัวของผู้เสียหาย พ่อ แม่ และน้าของผู้เสียหาย แต่เนื่องจากมีประเด็นที่ต้องสอบปากคำผู้เสียหายโดยละเอียดมาก เพื่อนำมาพิจารณาองค์ประกอบความผิด จึงต้องนัดหมายมาสอบปากคำอีกครั้งในช่วงเย็นวันนี้ ขณะที่ ช่วงเช้าได้เรียกทีมสหวิชาชีพ มาหารือ เพื่อกำหนดแนวทางในการซักถาม และเมื่อสอบปากคำแล้วจะนำมาคัดกรองผู้เสียหายอีกครั้งว่าเป็นเหยื่ออย่างไร

ทั้งนี้ จากการสอบปากคำเบื้องต้น พบว่าเข้าข่ายความผิดเรื่องการทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่ร่างกายหรือจิตใจ แต่ยังต้องรอความเห็นแพทย์ ถ้าแพทย์ลงความเห็นว่า ทำร้ายร่างกายสาหัส ก็จะต้องแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม รวมถึงจะต้องพิจารณาว่า นอกจากความผิดทางอาญาแล้ว จะเข้าข่ายความผิด พ.ร.บ.การค้ามนุษย์ ด้วยหรือไม่ ส่วนการไปตรวจค้นบ้านพักนั้น จะต้องสอบปากคำผู้เสียหายเพิ่มเติมก่อน เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงทั้งหมดและพิจารณาข้อกล่าวหาก่อน

ขณะที่ กระแสข่าวที่ว่า ผู้ถูกกล่าวหา คือ ส.ต.ท.หญิง มีการติดต่อเข้ามาเพื่อพบตำรวจนั้น เบื้องต้นผู้ถูกกล่าวหา ยังไม่มีการติดต่อเข้ามาทุกช่องทาง หรือติดต่อขอเข้ามาพบ ทั้งนี้ ทราบแล้วว่าผู้ก่อเหตุทำงานที่ไหนอย่างไร แต่ต้องรอกระบวนการสอบสวนเสร็จสิ้นก่อน ยืนยันว่าเรื่องนี้ดำเนินคดีตรงไปตรงมา ไม่ได้มองว่าผู้ถูกกล่าวหาเป็นตำรวจ แต่เมื่อเป็นตำรวจก็จะมีความผิดตามวินัยตำรวจ โทษหนักขึ้นกว่าคนปกติอีกชั้น

นอกจากนี้ ตำรวจไม่ได้กังวลว่า ผู้ถูกกล่าวหาจะหลบหนี แต่รอแค่กระบวนการสอบปากคำผู้เสียหายแล้วเสร็จเท่านั้น เมื่อสอบปากคำเสร็จสิ้นแล้ว จะสามารถออกหมายเรียกได้ทันที ตนเชื่อว่าเมื่อมีหมายเรียก ผู้ถูกกล่าวหาจะเข้ามามอบตัวเพื่อต่อสู้คดีตามข้อเท็จจริง และมั่นใจเช่นกันว่าเมื่อมีหมายเรียก ตำรวจจะสามารถติดต่อประสานกับผู้ถูกกล่าวหา ได้อย่างแน่นอน เพราะผู้ถูกกล่าวหา อาศัยอยู่ในจ.ราชบุรี ก็มีความคุ้นเคยกับตำรวจบางนายอยู่บ้าง จึงเชื่อว่าผู้ถูกกล่าวหา พร้อมที่จะเข้าพบพนักงานสอบสวน โดยจะเข้ามาพบก่อนมีหมายเรียกหรือหลังมีหมายเรียกเท่านั้น ส่วนแนวทางการสอบสวนตำรวจ ยังสามารถติดต่อกับผู้ก่อเหตุได้ และเชื่อว่ายังอยู่ในจ.ราชบุรี