อาชญากรรม

อัยการสูงสุดสั่งฟ้อง "ชัยวัฒน์" ร่วมฆ่าบิลลี่

โดย taweelap_b

15 ส.ค. 2565

359 views

2 ปี นับตั้งแต่กรมสอบสวนคดีพิเศษยื่นหนังสือความเห็นแย้งไปยังอัยการสูงสุด เพื่อให้มีความเห็นสั่งฟ้อง "หัวหน้าชัยวัฒน์" พร้อมพวกรวม 4 คน ฐาน "ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน" ในคดีการเสียชีวิตของบิลลี่ นักต่อสู้สิทธิมนุษยชนชาวกะเหรี่ยง บ้านบางกลอย วันนี้อัยการสูงสุดมีคำสั่งฟ้องแล้ว


โดยเป็นเอกสารที่ถูกแชร์กันในโซเชียลฯ หัวหนังสือระบุว่า มาจากสำนักงานอัยการสูงสุด ส่งถึง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI เรื่องชี้ขาดความเห็นแย้ง เนื้อหาสรุปว่า อัยการการสูงสุด ได้ลงนามในความเห็นสั่งฟ้องนาย ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร และพวกรวม 4 คน โดยหนึ่งในนั้น เป็นข้อหา "ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน" คือ นาย พอละจี รักจงเจริญ หรือ บิลลี่ แล้ว ในวันที่ 10 ส.ค. 65 ที่ผ่านมา


ในหนังสือ ระบุว่า อัยการสูงสุดมีคำสั่งชี้ขาดให้ฟ้อง นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้ต้องหาที่ 1 นายบุญแทน บุษราคำ ผู้ต้องหาที่ 2 นายธนเสฏฐ์ แช่มเทศ ผู้ต้องหาที่ 3 และนายกฤษณพงษ์ จิตต์เทศ ผู้ต้องหาที่ 4 ฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย ร่วมกันโดยมีอาวุธข่มขืนใจผู้อื่น โดยใช้กำลังประทุษร้าย ร่วมกันโดยทุจริตหรืออำพรางคดีกระทำการใด ๆ แก่ศพหรือสภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบศพ เพื่อให้ผลทางคดีเปลี่ยนแปลง


ทีมข่าวโทรศัพท์สอบถาม พันตำรวจโท กรวัชน์ ปานประภากร อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ให้ข้อมูลว่า ในตอนแรกที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ มีความเห็นควรฟ้อง นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร กับพวกในความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นฯ เพราะมีหลักฐานว่าผู้ต้องหาพาตัวนายบิลลี่ ไป และยังพบโครงกระดูก ซึ่งจากการพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ พบว่าในเศษกระดูกมีคาร์บอนอยู่ หมายความว่า ถูกเผามา และสารพันธุกรรมในโครงกระดูกนี้ ก็ยังไปตรงกับสารพันธุกรรมของแม่นายบิลลี่ หลักฐานทั้งหมดจึงสอดคล้องกัน จึงสรุปได้ว่าเป็นการฆาตกรรม


แต่วันที่ 23 ม.ค. 63 อัยการมีคำสั่งไม่ฟ้องในข้อหาฆ่าผู้อื่นฯ ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ จึงไม่เห็นด้วย และทำหนังสือเห็นแย้งคำสั่งของอัยการไปเมื่อวันที่ 11 ส.ค. 63 แต่ไม่ได้นำส่งพยานหลักฐานใดเพิ่มเติม เพียงแต่ให้เหตุผลประกอบความเห็นแย้งว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้รวบรวมพยานหลักฐานมาอย่างชัดเจนแล้ว ซึ่งเป็นหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ที่สามารถยืนยันการกระทำความผิดในข้อหาดังกล่าวของผู้ต้องหาได้ จึงได้มีความเห็นควรฟ้องไปก่อนหน้านี้ กระทั่งล่าสุด 10 ส.ค. 65 ที่ผ่านมาอัยการสูงสุด จึงมีความเห็นชี้ขาดลงมา

คุณอาจสนใจ

Related News