อาชญากรรม

"ไอ้มอส" รับสารภาพ ยิงถล่มบ้านเพื่อนปมชู้สาว ลั่น ไม่ได้เป็นคนเริ่มก่อน อ้างเคยถูกคนเจ็บใช้ปืนจ่อหัว

โดย kanyapak_w

15 ส.ค. 2565

222 views

พลตำรวจตรีโชคชัย งามวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ระบุภายหลังการสอบปากคำตัวนายมอสมือปืนที่ก่อเหตุยิงรัวใส่บ้านคู่อริย่านซอยเพชรเกษม 106 จนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสหนึ่งราย ว่า จากการสอบปากคำตัว ผู้ต้องหายังคงให้การรับสารภาพว่าสาเหตุของการก่อเหตุในครั้งนี้มาจากเรื่องชู้สาว ที่อดีตแฟนสาวของผู้บาดเจ็บมีความเกี่ยวพันกับผู้ก่อเหตุทำให้เป็นเรื่องบาดหมางกันมานาน และประเด็นเกี่ยวกับเรื่องวงแชร์ที่มีปัญหากันมาและผู้ต้องหาคิดว่าตัวเองเป็นผู้ถูกกระทำ



รวมถึงผู้ต้องหายังอ้างว่าเคยถูกผู้เสียหายใช้อาวุธปืนจ่อที่หัวในบ้านพักเมื่อช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา จึงเกิดการนัดหมายให้กลุ่มวงแชร์รวมถึงตัวผู้ได้รับบาดเจ็บมาทำการเจรจาเคลียร์ปัญหากันในวันเกิดเหตุ โดยเมื่อมาถึง จุดเกิดเหตุเมื่อเห็นว่าผู้เสียหายเดินออกจากบ้านพักมาจึงตัดสินใจใช้อาวุธปืนยิงใส่ทันที



โดยภายหลังก่อเหตุได้หลบหนีไปอยู่ตามบ้านพักของเครือญาตต่างๆ ประมาณ 4-5 ที่ก่อนจะถูกฝ่ายสืบสวนของทั้ง สน. หนองค้างพลู และของกองบังคับการตำรวจนครบาล 9 ไล่ล่าจนสามารถเข้าควบคุมตัวผู้ต้องหา พร้อมเพื่อนอีกสามคน ซึ่งเบื้องต้นมีการแจ้งข้อหาร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น และความผิดเกี่ยวกับเพราะระบออาวุธปืนให้กลับตัวนายมอสและนายฟลุ๊ค



ขณะที่สำหรับเพื่อนอีกสองคนคือนายตัสและนายโอ๊ต อยู่ระหว่างการสอบปากคำว่ามีส่วนรู้เห็นเกี่ยวข้องหรือร่วมกันก่อเหตุหรือไม่ สำหรับของกลางที่เป็นอาวุธปืนเบื้องต้น ผู้ก่อเหตุยืนยันว่าใช้อาวุธปืนเพียงกระบอกเดียวในการก่อเหตุ ซึ่งอาวุธปืนมีการจัดหาซื้อมาจากทางอินเตอร์เน็ตเมื่อสองปีที่แล้วในราคา 35,000 บาท



ขณะที่ในส่วนของอาชีพผู้ก่อเหตุจากการตรวจสอบพบว่าไม่ได้ทำงานใดเป็นหลักแหล่งและตัวผู้ต้องหาก็ยืนยันว่าประกอบอาชีพสุดท้ายเป็นพนักงานส่งอาหาร แต่ ได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนดำเนินการรวบรวมสืบหาข้อเท็จจริงขยายผลในประเด็นดังกล่าวเพิ่มเติมว่าตัวผู้ก่อเหตุมีความเกี่ยวข้องกับธุรกิจผิดกฎหมายได้หรือไม่


นอกจากนี้ นางสาวนันทวัน พี่สาวของนาย มอสผู้ต้องหา ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนพร้อมเปิดหลักฐานเป็นแชตที่ตัวนายบุ๊ค ผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์นี้เป็นผู้คุกคาม น้องชายตนเองมาตลอดซึ่งทางครอบครัวทราบเรื่องตั้งแต่ช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาโดยน้องชายมักจะมาระบายให้ฟังว่าถูกนายบุกบุกไปถึงบ้านพักและถ่ายรูปที่บริเวณบ้านพักและส่งแชทมาเพื่อเรียกให้น้องชายลงไปเจรจาเกี่ยวกับเรื่องชู้สาวที่อดีตแฟนของนายบุ๊คมาติดพันตัวน้องชาย



รวมถึงน้องชายยังเคยถูกผู้บาดเจ็บใช้อาวุธปืนบุกมาถึงบ้านพักและจ่อที่ศีรษะ ซึ่งผู้บาดเจ็บ ยังคงคุกคามเรื่อยมาทุกวันจึงเชื่อว่าเป็นสาเหตุทำให้น้องชายขาดสติและตัดสินใจลงมือก่อเหตุ โดยปกติน้องชายเป็นคนไม่ใจร้อนเพราะหากน้องชายเป็นคนใจร้อนคงก่อเหตุกลับผู้บาดเจ็บตั้งแต่ตอนที่โดนในช่วงแรกๆ ไม่จำเป็นต้องทนมานานกว่าสามเดือน



ส่วนความขัดแย้งเกี่ยวกับเรื่องวงแชร์ตนเองไม่ทราบในรายละเอียดมากนักทราบแต่ว่าน้องชายต้องการเปียแชร์รอบนี้ในจำนวนเงิน 20,000 บาทเพื่อนำเงินดังกล่าวมาจ่ายค่ารถแจ๊สสีเหลืองที่ซื้อต่อมาจากนายโย่งที่เป็นเพื่อนในกลุ่มเดียวกันกับผู้เสียหายซึ่งก่อนหน้ามีการตกลงกันซื้อขายรถแจ๊สคันดังกล่าวในวงเงิน 300,000 บาทและทางน้องชายได้มีการจ่ายเงินไปจำนวน 280,000 บาท แล้วและขาดเงินก้อนสุดท้ายอีก 20,000 บาท จึงมีความต้องการเปียแชร์ก้อนดังกล่าวป่าเพื่อเคลียร์เรื่องรถ



แต่ทราบมาเพียงเล็กน้อยว่าท้าวแชร์มีการให้เปียใหม่ซ้ำทำให้น้องชายตนเองไม่ได้ ส่วนรายละเอียดตนเองไม่ทราบ ส่วนอาชีพของน้องชายทราบเพียงว่าหลังพ้นโทษในคดีวิ่งราวทรัพย์มาก็ยึดอาชีพส่งอาหารมาโดยตลอด สำหรับอาวุธปืนดังกล่าวก่อนหน้านี้น้องชายไม่เคยมีเพราะไม่มีความจำเป็นต้องใช้อาวุธปืน แต่หลังจากถูกนายบุ๊คผู้ได้รับบาดเจ็บบุกมาใช้ปืนจ่อที่ศีรษะในบ้านพักจึงเริ่มหาอาวุธปืนมาใช้แต่ไม่ทราบว่าน้องชายพกติดตัวไปทุกวันหรือไม่



ขณะที่ในส่วนของรถยนต์แจ๊สคันสีเหลืองที่ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่าน้องชายใช้ขับหลบหนีไปตนเองขอยืนยันว่ารถดังกล่าวถูกนำไปจอดทิ้งไว้ที่หลังบ้านพักของตนเองซึ่งเป็นคนละหลังกับที่น้องชายพักอาศัยอยู่เป็นประจำ ที่ขณะนี้ยังไม่สามารถหาคุณแจรถได้เนื่องจากน้องชายอ้างว่ามีการโยนเข้าบ้านไว้แต่ตนเองและคนในบ้านไม่พบตัวกุญแจ จึงต้องมีการยกรถมาทิ้งไว้ที่ สน. หลังเจ้าหน้าที่ยึดไว้เป็นของกลางในคดี



คุณอาจสนใจ

Related News