อาชญากรรม

แม่ค้าติดโควิดแจ้งความถูกเจ้าหนี้ข่มขู่-ยอดกาวกุญแจบ้าน

โดย paranee_s

29 ก.ค. 2565

64 views

เมื่อเวลา 14.00 น. ทีมงานสายไหมต้องรอด พาผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความที่ สน.สายไหม กรณีถูกเจ้าหนี้ข่มขู่ และนำกาวร้อนมาหยอดกุญแจบ้านจนเข้าบ้านไม่ได้ เนื่องจากผู้เสียหายติดโควิด 10 วัน ทำให้ไม่ได้ออกไปทำงานและไม่มีเงินมาจ่ายค่าดอกเบี้ย


นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด กล่าวว่า เมื่อคืนนี้ ทีมงานสายไหมต้องรอด ได้รับแจ้งจากผู้เสียหาย ซึ่งเป็นแม่ค้าอยู่ที่ตลาดนัดสายไหม โทรศัพท์เข้ามาตอนประมาณตี 3 ว่าเข้าบ้านไม่ได้ เพราะว่าถูกเจ้าหนี้เอากาวร้อนมาหยอดประตูบ้านที่อยู่ภายในซอยสายไหม 49


โดยช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ผู้เสียหายได้ไปกู้เงินจากเจ้าหนี้รายนี้จำนวน 2 หมื่นบาท คิดอัตราดอกร้อยละ 60 ต่อเดือน ต้องจ่ายทุกวัน วันละ 400 บาท ผู้เสียหายก็จ่ายมาตลอด ปรากฏว่าอาทิตย์ที่ผ่านมา ผู้เสียหายติดโควิด ทำให้ไม่ได้ขายของ ซึ่งได้พยายามเจรจากับเจ้าหนี้รายนี้ว่าหากหายจากโควิด จะจ่ายให้เหมือนเดิม แต่เจ้าหนี้ไม่ยอม บังคับให้ไปกู้เงินจากเจ้าอื่นมาชำระหนี้ จนเมื่อคืนนี้ ผู้เสียหายที่เพิ่งจะหายจากโควิดได้ 2 วัน แล้วออกไปขายของหาเงิน พอกลับบ้านมาก็เจอกุญแจบ้านถูกล็อกและหยอดกาวร้อน เข้าบ้านไม่ได้ จึงต้องร้องเรียนมาทางเพจสายไหมต้องรอด


ซึ่งตนยืนยันว่าการเป็นหนี้ต้องใช้หนี้ แต่ถ้าเจ้าหนี้ข่มขู่คุกคาม ทำผิดกฎหมาย ปล่อยเงินกู้ในอัตราดอกเบี้ยเกินที่กฎหมายกำหนด ก็ต้องถูกดำเนินคดีอยู่แล้ว และการกระทำแบบนี้เป็นการกระทำแบบบ้านป่าเมืองเถื่อน ส่วนหากคนจะมองว่า รู้ว่าดอกเบี้ยร้อยละ 60 แล้วจะไปกู้ทำไมนั้น ต้องทำความเข้าใจ คำว่าคนหาเช้ากินค่ำด้วย ผู้เสียหายเคยพยายามไปติดต่อขอกู้ธนาคารแล้ว แต่ด้วยความที่เป็นแม่ค้า ไม่มีอะไรรับรอง เลยกู้ไม่ได้


ซึ่งวันนี้เตรียมจะแจ้งความร้องทุกข์ข้อหาที่พบความผิด ทั้งปล่อยเงินกู้โดยไม่ได้รับอนุญาต, เก็บดอกเบี้ยเกินกฎหมายกำหนด และข่มขู่คุกคาม ทำให้เสียทรัพย์ ส่วนเรื่องความปลอดภัยของผู้เสียหายนั้น ผู้กำกับการ สน.สายไหม ยืนยันว่า จะส่งเจ้าหน้าที่สายตรวจ ไปดูแล หากยังพบว่ามีการคุกคามอีก ก็จะแจ้งข้อหาหนักขึ้น


ด้านผู้เสียหาย บอกว่า ตนไปรู้จักเจ้าหนี้ผ่านใบปลิวที่แจกในตลาด ซึ่งตัดสินใจกู้เงินเพราะมีความจำเป็น เพราะมีภาระค่าใช้จ่ายหลายอย่าง ต้องหาเงินมาทำทุนพยุงร้านเพื่อขายของหารายได้ โดยบางวันเจ้าหนี้ก็ตามมาที่บ้านไปด่าทอ เขย่าประตูกดกริ่งหน้าบ้านจะเอาเงินให้ได้ หรือเอาก้อนหินปาหน้าต่างบ้าง บางทีก็อยู่บ้านไม่ได้ต้องพาลูกเดินตากฝนไปอยู่ป้ายรถเมล์ นอกจากนี้ยังมีการข่มขู่ว่าจะเผาบ้านและทำร้ายร่างกายด้วย ซึ่งตนเองไม่ได้อยากเป็นหนี้เลยแต่จำเป็นต้องกู้จริง


ซึ่งตอนนี้ตนเองกู้เงินอยู่ทั้งหมด 3 เจ้า คือ เจ้านี้ กู้จำนวน 2 หมื่นบาท จ่ายดอกเบี้ยลอย ร้อยละ 60 ต่อเดือน ผ่อนจ่ายวันละ 400 บาท, เจ้าที่ 2 กู้จำนวน 1 หมื่นบาท จ่ายดอกเบี้ยลอย วันละ 200 บาท, เจ้าที่ 3 กู้จำนวน 8 พัน ให้ผ่อนชำระวันละ 400 บาท เป็นเวลา 24 วัน คิดเป็นเงินต้น และดอกเบี้ย 1,600 บาท โดยตอนที่ตนติดโควิด ทำงานไม่ได้ ก็ได้คุยเจรจากับเจ้าหนี้ทุกราย เจ้าอื่นก็เข้าใจผ่อนผันให้หมด มีแต่เจ้าแรกที่ข่มขู่บังคับจะให้จ่ายให้ได้ และมาก่อเหตุขึ้น


ขณะที่พันตำรวจเอกอำนาจ กาหลง ผู้กำกับการ สน.สายไหม กล่าวว่า จากการประสานข้อมูลเบื้องต้น ล่าสุด ฝ่ายสืบสวนพอจะทราบตัวเจ้าหนี้รายดังกล่าวที่ผู้เสียหายคาดว่าเป็นรายที่มาก่อเหตุแล้ว ซึ่งพบว่ามีประมาณ 2 คน ซึ่งจะต้องติดตามตัวมาสอบถามต่อไป ทั้งนี้ ยืนยันว่าการเป็นหนี้ต้องใช้คืน แต่การทวงหนี้ที่ผิดขั้นตอน ผิดกฎหมาย ก็ต้องดำเนินการ ซึ่งหลังจากนี้จะต้องให้พนักงานสอบสวนสอบปากคำผู้เสียหายโดยละเอียด เพราะทราบว่าไม่ได้มีเจ้าหนี้รายเดียว จะต้องตรวจสอบทั้งหมดว่าแต่ละเจ้าเป็นอย่างไร แล้วเรียกเจ้าหนี้มาสอบถาม

คุณอาจสนใจ

Related News