รวบแม่ยาย ร่วมมือลูกสาว วางยาพ่อแม่ลูกเขยจนหลอน หวังฮุบสมบัติ-ประกันชีวิต

จากกรณี นายพงษ์ศา อายุ 41 ปี ลูกชายคนโตของบ้าน ในตำบลปันแต อ.ควนขนุน จังหวัดพัทลุง เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.ควนขนุน เมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา เพื่อเอาผิดกับนางสาวเปมิกา (แป้ง) อายุ 34 ปี และนางน้อย อายุ 62 ปี หลังแอบเอายาเสพติดผสมในอาหาร ให้ ร.ต.อ.สุชีพ อายุ 63 ปี อดีตข้าราชการตำรวจ สภ.ควนขนุน ผู้เป็นพ่อ กับนางวรรณี อายุ 64 ปี อดีตข้าราชการครูโรงเรียนแหลมโตนด ผู้เป็นแม่กิน จนเกิดอาการหลอน เหมือนผู้ป่วยจิตเวช

สำหรับครอบครัวนี้ อยู่ด้วยกัน 4 คน คือ ร.ต.อ.สุชีพ (พ่อ) / นางวรรณี (แม่) / นายพงษ์ศา พี่ชายคนโต และนายอิรยะ (เบส) อายุ 31 ปี น้องชายคนเล็ก

นายพงษ์ศา ผู้เป็นพี่ชายคนโตเล่าว่า นายอิรยะ น้องชายของตนรู้จักกับนางสาวเปมิกา ผ่านทางเฟซบุ๊ก เมื่อ มกราคม 2563 ทั้งสองมีการพูดคุยสร้างความสนิทสนม จนถึงขั้นคบหากันเป็นแฟน กระทั่งช่วงมิถุนายน 2564 นางสาวเปมิกา ได้อ้างว่า ครอบครัวเดือดร้อนและมีปัญหา จึงอยากขอมาอาศัยอยู่ด้วยที่บ้านด้วย

อยู่ไปสักพัก นางสาวเปมิกา ได้ขอให้นางน้อยซึ่งเป็นแม่ มาอยู่ด้วย ก่อนที่จะย้ายข้าวของมาอยู่ในบ้านด้วยกัน

ต่อมาหลังจากที่ นางสาวแป้ง และนางน้อย เข้ามาอยู่ในบ้าน นายพงษ์ศา ผู้เป็นพี่ชาย สังเกตเห็นว่า พ่อและแม่ของตน มีอาการผิดปกติ / หวาดระแวง / เซื่องซึม / ชอบเก็บตัว ไม่ค่อยพูดค่อยจา นอนไม่หลับ โดยเฉพาะผู้เป็นพ่อ นอกจากเพ้อแล้ว ยังถึงขั้นพยายามจะฆ่าตัวตาย บางครั้งก็ตัดพ้อคิดสั้น

จากนั้น พี่ชายจึงได้เริ่มสังเกตจากอาการผิดปกติของพ่อและแม่ ปรากฏว่า ไปเห็นว่ามีการวางยา และทราบต่อมาว่าคือยาเสพติด Methamphetamine (เมทแอมเฟตามีน) ผสมลงไปในอาหาร โดยผู้วางยาร่วมกันทั้งสองคนคือ นางน้อย ผู้เป็นแม่ กับนางสาวเปมิกา ผู้เป็นลูกสาว โดยพฤติการณ์คือการค่อยๆ วางยาลงไปทีละนิดๆ ในอาหาร จนพ่อและแม่ค่อยๆ ปรากฏอาการ

ต่อมา พฤติกรรมของ 2 แม่ลูก นางน้อยและนางสาวเปมิกา มาเกลี่ยกล่อมให้ และพยายามหลอกล่อให้ทั้งพ่อและแม่ทำธุรกรรมทางการเงิน ทำประกันชีวิต และร้องขอให้นายอริยะ น้องชายแต่งงานและจดทะเบียนสมรสด้วย ก่อนที่สองแม่ลูกจะหนีออกจากบ้านไปพร้อมเอกสารของพ่อแม่และเอกสารของนายอริยะ แล้วก็หายไป ตั้งแต่วันที่ 3 ส.ค.64

ขณะเดียวกัน ผู้เป็นพ่อเคยพบยาเสพติดในบ้าน นายพงษ์ศา พี่ชายคนโต จึงพาผู้เป็นพ่อและแม่ เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.ควนขนุน ให้ตรวจสอบเรื่องนี้

จากนั้นตำรวจสืบไปสืบมาพบว่ามีมูล จนมีการออกหมายจับ และสามารถจับนางสาวเปมิกาได้ก่อนเป็นคนแรก ขณะกำลังจะเดินทางออกนอกประเทศ เมื่อวันที่ 12 ก.ค.65 ที่ผ่านมา เหลือนางเพียงนางน้อย

ในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า นางน้อยได้หลบหนีไปอยู่ในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี  จนวันที่ 25 ก.ค. 65 ตำรวจเข้าจับกุมนางน้อย ลักศมีกานต์ ในฐานกระทำความผิดฐาน พยายามฆ่าผู้อื่น ตามหมายจับศาลจังหวัดพัทลุง โดยสามารถจับกุมได้ ที่ตำบลบ้านใหม่ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี

ขณะตำรวจเข้าจับกุม ได้แสดงหมายค้น เพื่อขอทำการตรวจค้น ผลการตรวจค้นพบนางลักศมีกานต์ อยู่ในบ้านหลังดังกล่าว เจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุม จึงได้ทำการจับกุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ควนขนุน จ.พัทลุง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

จากการสอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ในชั้นจับกุม เจ้าตัวให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า ขณะที่ไปอาศัยอยู่ที่บ้านหลังเกิดเหตุ ที่จังหวัดพัทลุงนั้น ไม่ได้มีการกระทำความผิดตามที่ถูกกล่าวหา มีเพียงแต่ช่วยเหลือกลุ่มบุคคลดังกล่าวเท่านั้น และในวันเดียวกันนั้น พนักงานสอบสวน สภ.ควนขนุนได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ไปฝากขังต่อศาล จังหวัดพัทลุง

ด้านนายพงษ์ศา พร้อมพ่อและแม่ ได้ไปยื่นคัดการการประกันตัว พร้อมฝากเตือนผู้ที่เล่นโซเซียลและเพิ่งคบหาเพื่อนใหม่ด้วยว่า ขอให้ระวังไว้บ้างเพราะ การคบหาแล้วนำมาที่บ้าน ถ้าดีก็ดีไป แต่ถ้าเจอแบบนี้ก็ไม่ไหว

ขณะที่ผู้เป็นพ่อและแม่ บอกถึงอาการว่า จนถึงขณะนี้อาการก็ยังไม่ดีขึ้น ยังมีอาการเบลอๆ และหลงลืมๆ อยู่

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/J1Uios_SKHE