อาชญากรรม

ลูกชายพ่อค้าแม่ค้าหมูปิ้งยัน ไม่รับการขอขมาจากคนชนพ่อแม่ตน ลั่น ขอให้ทำคดีถึงที่สุด

โดย kanyapak_w

26 ก.ค. 2565

2.8K views

ช่วงบ่ายวันนี้ (26 ก.ค.) ที่ศูนย์อำนวยการชันสูตรพลิกศพ โรงพยาบาลจุฬาฯ นายวันเฉลิม อายุ 23 ลูกชาย ของนางรำพึง อายุ 48 ปี และนายวิสูตร อายุ 50 ปี สองสามีภรรยาขายหมูปิ้ง และ นายฉลาด เสือกระจ่าง พี่ชายของผู้เสียชีวิต เดินทางมารับร่างผู้เสียชีวิต ทั้งสองราย หลังในช่วงเช้าที่ผ่านมาได้เดินทางไปทำพิธีเชิญวิญญาณ ที่จุดเกิดเหตุ



โดย นายวันเฉลิม ระบุว่า ตอนนี้ตนเองยังตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ยอมรับว่าเสียใจมากยังทำใจไม่ได้ เพราะต้องมาเสียทั้งพ่อและแม่ไปในเวลาพร้อมๆกัน ซึ่งครอบครัวตนเอง มีกัน 4 คน คือพ่อแม่ ตนเอง และน้องชายที่ตอนนี้อยู่ชั้นมัธยมต้น อาศัยอยู่ที่ต่างจังหวัดกับปู่ย่าตายาย การที่มาเสียพ่อและแม่ไปซึ่งเป็นเสาหลัก ของครอบครัว ย่อมลำบากแต่จะดูแลน้องชายให้ดีที่สุด


ส่วนผู้ต้องหาหลังจากเกิดเหตุก็ยังคงอยู่ในอาการมึนเมาและยังไม่ได้พูดคุยอะไรกัน และยังรู้สึกแย่กับพฤติการณ์ของผู้ต้องหาที่ยังเมาแล้วขับจนทำให้พ่อแม่เสียชีวิต แม้เจ้าตัวจะอ้างว่าดื่มเบียร์มาเพียงขวดเดียว ส่วนที่ผู้ต้องหาพูดว่าจะดูแลเยียวยากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ยังไม่ได้พูดคุยกับทางเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับเรื่องคดี



ส่วนที่หากว่าผู้ต้องหาต้องการมาไหว้ขอขมาหรือขอโทษ พ่อแม่ตนเอง หรือทางครอบครัว ตนเองยังไม่อยากให้มาและจะไม่ยอมรับ เพราะยังไม่มีใครทำใจได้ ส่วนเรื่องคดีให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด



นอกจากนี้ยังอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีกับหญิงที่นั่งมาด้วยเพราะมีลักษณะคล้ายคนเมา และมีพฤติการณ์ให้การช่วยเหลือผู้ต้องหา อาจเกิดขึ้นจากความตกใจกลัวแต่ทุกอย่างก็ทำให้พ่อกับแม่ของตัวเองเสียชีวิต ส่วนประเด็นที่ตนเองยังติดใจคือเหตุใดเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงดำเนินการตรวจวัดแอลกอฮอล์ผู้ก่อเหตุล่าช้า ตั้งแต่การนำเครื่องตรวจมาจากสถานี การใช้เครื่องไม่มีความชำนาญ และเครื่องเสีย ซึ่งอาจทำให้รูปคดีเสียหาย เพราะมีการปล่อยผู้ต้องหานั่งคนเดียวนานเป็นขั่วโมง และยังให้ดื่มน้ำ



ซึ่งประเด็นนี้ นายฉลาดเสือ พี่ชายของผู้เสียชีวิต มีความเห็นสอดคล้องกันว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติหน้าที่ได้ไม่เต็มที่เพราะเดินทางเข้ามาถึงจุดเกิดเหตุช้า ใช้เวลาในการตรวจวัดเป็นเวลานาน และยังปล่อยให้ผู้ต้องหาอยู่ในที่เกิดเหตุโดยไม่มีการควบคุมตัว ทำให้กลุ่มญาติต้องมาสอดส่องดูแลเอง จนเกิดเหตุการณ์ความวุ่นวายขึ้น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงอยากให้เป็นอุทาหรณ์กับผู้ที่เมาแล้วขับและเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ดำเนินการเอาผิดกับผู้ก่อเหตุให้ถึงที่สุด



มองว่าน้องสาวของตนเองไม่ควรจะเสียชีวิตเร็วขนาดนี้ซึ่งกลุ่มญาติก็ยังรับไม่ได้ไม่มีใครรับได้ โดยต่อจากนี้จะดำเนินการรับร่างผู้เสียชีวิตทั้งสองกลับไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาที่จังหวัดสุโขทัย ที่เป็นบ้านเกิดของทั้งสองคน

คุณอาจสนใจ

Related News