รวบไอ้โหด เตะหน้ายายล้ม เลือดคั่งในสมอง อ้างฉุนยายชอบเอาไปนินทาว่าร้าย

วานนี้ (12 ก.ค. 65) เวลา 10.00 น. นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ พร้อมด้วยทีมงานเพจสายไหมต้องรอด ได้พาลูกสาวของคุณยายอนงค์ วัย 76 ปี ผู้เสียหายที่ถูกชายทำร้ายร่างกาย ในซอยพหลโยธิน 50 เข้าแจ้งความที่ สน.บางเขน

นางสาวธนภรณ์ อายุ 54 ปี ลูกสาวของผู้เสียหาย เล่าว่า ไม่ได้อยู่กับคุณแม่ ตอนเช้าๆ คุณแม่มักจะเดินออกไปซื้อของประจำ ซึ่งเมื่อวาน ตนก็เพิ่งคุยโทรศัพท์กับคุณแม่ตอนเช้า จนกระทั่งตอนตีสาม พี่สาวที่อยู่ต่างประเทศ โทรมาบอกว่า คุณแม่ถูกทำร้ายร่างกายอยู่ที่โรงพยาบาลภูมิพล ตนจึงรีบมาดูทันที

ซึ่งคนที่เจอคุณแม่หลังเกิดเหตุ บอกว่า คุณแม่ยังรู้สึกตัว แต่มีอาการปวดหัว บอกว่าไม่รู้ถูกอะไรตี เพราะมันเกิดขึ้นเร็วมาก และคู่กรณีก็ไม่ได้รู้จักกัน

ทั้งนี้ ล่าสุด คุณแม่ยังอาการน่าเป็นห่วง มีอาการเลือกคั่งในสมอง เนื่องจากล้มไปทั้งยืน ยังต้องรักษาในห้องไอซียู

โดยตอนที่ตนได้เห็นคลิปเหตุการณ์ เชื่อว่า ผู้ชายคนนี้น่าจะเป็นคนติดยา เพราะท่าทางการเดินก็เหมือนคนปกติ ไม่ได้เหมือนคนเสียสติ แต่งตัวปกติ โดยหลังเกิดเหตุ ตนรู้สึกว่า ที่ที่คุณแม่อยู่ แม้จะอยู่มานาน แต่ไม่ได้ปลอดภัยอย่างที่คิด เวลาที่เกิดเหตุ ก็ไม่ใช่ช่วงเช้ามืดหรือช่วงกลางคืน เป็นเวลากลางวัน

ยืนยันจะเอาเรื่องคู่กรณีให้ถึงที่สุด และอยากให้สังคมดูเรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ว่า ต้องระวังรอบตัวมากขึ้น โดยเฉพาะคนสูงวัย โอกาสที่จะหนีเอาตัวรอดได้มีน้อยมาก และถ้าเจอคนแบบนี้ ต้องมองว่า หากไม่เป็นอันตรายกับเรา จะไปเป็นอันครายกับคนอื่นไหม และต้องช่วยกันแจ้งตำรวจให้มาจับตัวไป

ด้านรอง ผกก.สน.บางเขน เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 11 ก.ค. ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า มีชายไทยเร่ร่อน ก่อเหตุทำร้ายร่างกาย และอาละวาด บริเวณซอยพหลโยธิน 50 จึงได้ให้เจ้าหน้าที่สายตรวจไปดำเนินการจับกุมตัวมาควบคุมไว้ ทราบชื่อคือ นายพงษ์สันต์ อายุ 28 ปี ภูมิลำเนาจังหวัดร้อยเอ็ด ไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่งในกรุงเทพฯ

ต่อมาทราบว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คือ นางอนงค์ อายุ 76 ปี ถูกทำร้ายได้รับบาดเจ็บกระทบกระเทือนที่ศีรษะ อาการสาหัส จึงจะมีการแจ้งข้อหาเพิ่มเติม ในข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส และจะดำเนินการส่งตัวไปฝากขังต่อศาลในวันนี้

จากการสอบสวน ผู้ต้องหายังให้การวนไปวนมา ไม่ชัดเจนถึงสาเหตุที่ก่อเหตุ ซึ่งหลังจากนี้ จะมีการสอบปากคำอีกครั้งว่า เคยกระทำผิดที่ไหนมาบ้างหรือไม่ และต้องตรวจสอบประวัติการต้องโทษย้อนหลัง เชื่อว่าน่าจะมีประวัติเกี่ยวกับยาเสพติด ซึ่งอยู่ระหว่างส่งตรวจหาสารเสพติด

ต่อมา ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาเพื่อไปสอบปากคำเพิ่มเติม โดยผู้ต้องหา บอกว่า ที่ก่อเหตุไป ทำไปเพราะมีอาการเมา โดยดื่มเหล้าขาวไป 1 กั๊ก แต่ส่วนตัวกับคุณยายอนงค์ ก็มีปัญหากันอยู่แล้ว โดยตนไม่ค่อยชอบคุณยาย เพราะรู้มาว่าคุณยายชอบเอาตนไปนินทาว่าร้าย

ทั้งนี้ ยอมรับว่า ก่อนเกิดเหตุมีการใช้สารเสพติดร่วมด้วย แต่ยืนยันว่า ไม่เคยก่อเหตุอื่นๆ มาก่อน ที่บอกว่าเคยไปลวนลามผู้หญิงก็ไม่มี และตนอยากขอโทษคุณยาย ที่เห็นนอนลงไปตอนแรกไม่ได้คิดว่าจะเป็นอะไรมาก และไม่รู้ว่าคุณยายเจ็บหนัก และฝากขอโทษครอบครัวคุณยายด้วย แต่บอกไว้ว่า เรื่องอะไรที่คุณยายเอาไปพูดเกี่ยวกับตน ไม่ใช่เรื่องจริง

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/dAXGBfopOgQ