1 ใน 7 เจ้าหนี้ดอกโหดมอบตัวตำรวจ ปัดข่มขู่-บุกรุก เป็นเหตุให้ครอบครัวคิดจบชีวิต

1 ใน 7 ผู้ต้องหาคดีเงินกู้ดอกเบี้ยโหด จนทำให้ 4 ชีวิตครอบครัวช่างเย็บผ้าย่านมีนบุรีคิดสั้นจะกระโดดน้ำฆ่าตัวตายเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน สน.มีนบุรีแล้ว


ขณะผู้เสียหายเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมพร้อมกับชี้ภาพถ่าย และนำพยานหลักฐานมอบให้พนักงานสอบสวนเพื่อใช้ประกอบการดำเนินกับแก๊งเงินกู้ดังกล่าว


ผู้เสียหาย ยืนยันว่ายังคงจะชดใช้หนี้ให้กับเจ้าหนี้ทั้งหมดรวม 65,000บาท รวมดอกเบี้ย แต่อยากให้เจ้าหนี้ขยายเวลาในการผ่อนชำระหนี้ให้ เนื่องจากตนเองได้กลับไปอยู่บ้านเช่า เหมือนเดิม และเถ้าแก่ได้นำจักรเย็บผ้ากลับมาให้ประกอบอาชีพเพื่อชดใช้หนี้ ส่วนสามีจะกลับไปวิ่งรถสองแถวเหมือนเดิม ทำให้ตัวเองรู้สึกมีกำลังใจขึ้นในการกลับมาใช้ชีวิตและหารายได้ส่งเสียลูกเรียนหนังสือ


แต่ยังยอมรับว่าที่ผ่านมายังคงผวาและกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ก็อุ่นใจเพราะมีตำรวจไปคอยดูแลความปลอดภัยให้ที่บ้าน ต้องขอบคุณตำรวจที่ช่วยเหลือ รวมถึงออกค่าเช่าบ้านที่คงค้างให้ครอบครัว ให้ได้กลับไปพักที่บ้านเหมือนเดิม ยืนยันว่าหลังจากนี้จะไม่ทำร้ายตัวเองอีก เพราะที่ผ่านมาครอบครัวได้พูดคุยกันว่าจะใช้ชีวิตและต่อสู้ไปด้วยกัน และจะอยู่บ้านเช่าหลังเดิมเพราะทำให้มีรายได้


ด้าน พ.ต.อ. รัฐศักดิ์ รักสลาม รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 3 กล่าวว่าเบื้องต้นวันนี้ผู้ต้องหาเดินทางเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน 1 ราย ส่วนที่เหลืออีก 6 รายอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลออกหมายจับ ซึ่งแต่ละคนจะมีความผิดแตกต่างกัน


โดยบางรายมีพฤติกรรมบุกรุก ทำลายทรัพย์สิน อาจจะถูกดำเนินคดีถึง 6 ข้อหา ในฐานความผิด พ.ร.บ.ห้ามเรียกรับดอกเบี้ยเกินกฎหมายฯ ประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต ผิดพ.ร.บ.ทวงถามหนี้ ข่มขืนใจผู้อื่น บุกรุกเคหสถาน และทำลายทรัพย์สิน ซึ่งพบว่ามีหลักฐานชัดเจนสอดคล้องกับคำให้การของผู้เสียหาย


เบื้องต้น พนักงานสอบสวนจะคัดค้านการประกันตัว นอกจากนี้ได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนเร่งติดตามขยายผลหาแก๊งเงินกู้ดอกเบี้ยโหดว่ายังมีการปล่อยเงินกู้ให้ผู้เสียหายรายอื่นอีกหรือไม่


ส่วนทางด้านเจ้าหนี้มอบตัววันนี้ เผยไม่ได้มีการข่มขู่ทำร้ายร่างกายหรือบุกรุก ตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด แต่ยอมรับว่ามีการคิดดอกเบี้ยร้อยละ 60 บาทต่อเดือน ซึ่งเมื่อเห็นข่าวรู้สึกสงสารจึงยินดีที่จะลดเงินต้นให้จากเดิม 10,000 บาท เหลือ 5,000 บาท ให้ใช้เดือนละ 1,000 โดยไม่เรียกเก็บดอกเบี้ย และยืนยันไม่รู้จักกับเจ้าหนี้รายอื่น ส่วนเงินที่นำมาปล่อยกู้ ได้มาจากนายทุนอีกทอด