อาชญากรรม

ล่าชายโหดแทงหญิงวัย 75 ดับคาบ้าน พบแผลกว่า 20 แผล คาดหวังฆ่าปล้นทรัพย์ พบพระและทรัพย์สินหายไป

โดย kanyapak_w

6 ก.ค. 2565

238 views

ล่าชายโหดแทงหญิงวัย 75 ดับคาบ้าน พบแผลกว่า 20 แผล ล่าสุดทีมข่าวเที่ยงวันทันเหตุการณ์ได้พูดคุยกับเพื่อนบ้านระแวกใกล้เคียงเพื่อตรวจสอบดูกล้องวงจรปิด พบสามารถจับภาพคนร้ายได้ได้



เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 5 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ได้รับแจ้งมีผู้มีถูกอาวุธมีดเสียชีวิต ที่บ้านแห่งหนึ่งใน อ.ชะอำ จึงเดินทางไปยังที่เกิดเหตุ ตรงประตูหน้าบ้าน พบศพนางสุธาสินี (สงวนนามสกุล) อายุ 75 ปี นอนหงายจมกองเลือดเสียชีวิตอยู่กับพื้นในชุดคลุมอยู่กับบ้าน ตรวจตามร่างกายพบถูกแทงด้วยอาวุธมีดเข้าที่บริเวณต้นคอ หน้าอก หน้าท้อง แผ่นหลัง แขนซ้าย-ขวา รวม 20 แผล คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วราว 1 ชม. ตรวจดูที่บริเวณระเบียงข้างบ้านพบคราบเลือดกระจัดกระจายทั่ว และพบกระเป๋าสีขาวเปื้อนเลือดของผู้ตายตกอยู่จึงเก็บลายนิ้วมือแฝงคนร้ายไว้ ก่อนนำศพส่ง รพ.ชะอำ ให้แพทย์ตรวจอีกครั้ง



ทีมข่าวเที่ยงวันทันเหตุการณ์คุณสิทธิกร ปรักกัมนนท์ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ ลักษณะบ้านเป็นบ้านปูนชั้นเดียวรอบบ้านเป็นหญ้ารก โดยภายในบ้านมีกล้องวงจรปิดติดตั้งอยู่ จากการตรวจสอบพบคนร้ายเป็นชาย 1 คน อายุประมาณ 30-35 ปี สวมหมวกลายพรางปิดบังใบหน้า ใส่เสื้อยืดแขนยาวสีขาว-น้ำเงิน สวมกางเกงขายาวสีดำ เห็นปลอดคนเดินเข้าไปรื้อค้นทรัพย์สินภายในบ้าน จังหวะสุนัขที่นางสุธาสินีเลี้ยงไว้เห่าเสียงดัง นางสุธาสินีจึงเดินออกมาดูและพบเห็นคนร้ายจึงเข้าขัดขวางก่อนถูกคนร้ายกระหน่ำแทงจนเสียชีวิต และเอาทรัพย์สินส่วนหนึ่งหลบหนีไป กระทั่งลูกสาวนางสุธาสินีมาพบว่าแม่นอนจมกองเลือดรีบโทรขอความช่วยเหลือ



เช้าวันนี้ (ุ6 ก.ค.) ได้มีพระมาประกอบพิธีทางศาสนาจำนวน 3 รูป เพื่อที่จะส่งดวงวิญญานของผู้เสียชีวิตให้ไปสู่สุขติ โดยมีลูกสาวผู้เสียชีวิต พี่สาวและพี่ชาย ร่วมประกอบพิธีส่งดวงวิญญานคุณแม่ผู้เสียชีวิต



หลังจากนั้นทีมข่าวเที่ยงวันได้พูดคุยกับ คุณหยก(นามสมมติ) ลูกสาวผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่าตนเองป๋วยเป็นโรคซึมเศร้ามา 11 ปีแล้ว จำเป็นต้องทานยานอนหลับโดยก่อนเกิดเหตุ ตอนเที่ยงคืนครึ่งตนเองได้ทานยานอนหลับ 11 เม็ด และนอนอยู่ในห้องกับคุณพ่อที่เป็นผู้ป๋วยติดเตียง จึงทำให้ตนเองหลับลึกจนตื่นมาอีกทีเวลาเที่ยงนิดๆ มองดูที่กระเป๋าเงินของตัวเองพบว่ากระเป๋าถูกเปิดอยู่ ตนเองไม่ได้คิดอะไร คิดว่าคุณแม่น่าจะมาเปิดดู หลังจากออกมาหน้าห้องตนเองคุณแม่นอนจมกองเลือดอยู่บริเวณหน้าประตูบ้าน ตนเองตกใจช็อกจนทำอะไรไม่ถูก ตอนแรกตนเองนึกว่าคุณแม่ล้มด้วยอาการโรคหัวใจ กำเริบ ตนจึงรีบโทรเรียกรถพยาบาล 1669 โทรหาพี่ชายและพี่สาว และพยายามช่วยปั๊มหัวใจให้คุณแม่ แต่ก่อนจะช่วยปั๊มหัวใจ ตนเองได้เอามือไปอังบริเวณจมูกกลับไม่รู้สึกถึงลมหายใจของคุณแม่แล้ว และตนเองเห็นรอยบาดแผลบริเวณหน้าอก ตนเองคิดว่าหรือจะเป็นสุนัขที่เลี้ยงไว้กัดคุณแม่



หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจและรถพยาบาลมา ตนเองทราบภายหลังว่าคุณแม่ถูกฆาตกรรม เนื่องจากตำรวจพบรอยบาดแผลบริเวณหน้าอกคล้ายถูกมีดแทง พบรอยเท้าบริเวณข้างบ้านคาดว่าเป็นรอยเท้าของคนร้าย ที่ปีนเข้ามาภายในบ้าน




จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดของพี่ชายพบว่าคนร้ายได้แอบปีนเข้ามาภายในบ้านช่วงเวลาเวลา 11.15 น.พี่ชายบอกว่า คุณแม่ร้องขอชีวิต โดยคุณแม่พูดว่า “อย่าทำอะไรฉันเลย ฉันแก่แล้ว” แต่คนร้ายก็ยังทำการฆาตกรรมคุณแม่



ในขณะนี้ตนเองก็ยังรู้สึกช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หากตนเองไม่ทานยานอนหลับ ตนเองคงอยู่ช่วยเหลือคุณแม่ได้ คุณแม่ไม่เคยคิดร้ายกับใครเลย คุณแม่ชอบทำบุญ เมื่อวานคุณแม่ยังซื้อของที่ตนเองชอบมาให้อยู่เลย อยากให้คนร้ายถูกจับตัวโดยไวและให้ได้รับบทลงโทษด้วยการประหารชีวิต ไม่อยากให้ได้รับโทษแค่การติดตุกตลอดชีวิต



โดยเบื้องต้นตนเองคาดว่าคนร้ายอาจเป็นพวกเมายา หรือเป็นคนงานก่อสร้างที่มาทำทางบริเวณแถวนี้ หรืออาจเป็นคนเลี้ยงวัวที่คุณแม่เคยจ้างวานมาตัดหญ้า โดยพี่ชายเห็นจากภาพที่เจ้าหน้าที่ตำรวจให้ดู พบรถจักรยานยนต์สีชมพู พี่ชายบอกว่าคุ้น คิดว่าเคยมาดูลาดเลาหลายครั้งแล้ว โดยเจตนาของคนร้ายประสงค์ต่อทรัพย์เนื่องจากตรวจสอบเงินจำนวน 4,000 บาท พระเครื่องของคุณแม่หายไป



ทางด้านของเจ้าหน้าที่ตำรวจวันนี้ลงพื้นที่มามากกว่า 20 นาย เพื่อตรวจสอบกล้องวงจรปิด ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อเนื่องจากผู้ตายถูกแทงหลายสิบแผล ซึ่งอาจเป็นบุคคลที่ผู้เสียชีวิตรู้จักหรือไม่ซึ่งจะเร่งติดตามจับตัวคนร้ายมาดำเนินคดีอย่างเร่งด่วน



ต่อมาทีมข่าวเที่ยงวันทันเหตุการณ์ได้พูดคุยกับเพื่อนบ้านระแวกใกล้เคียงเพื่อตรวจสอบดูกล้องวงจรปิดจับภาพได้ วันที่ 5 ก.ค.2565 เวลา 10.20 นาที พบคนร้ายชาย 1 คน อายุประมาณ 30-35 ปี ขับขี่รถจักรยานยนต์ สีชมพู สวมหมวกลายพรางปิดบังใบหน้า ใส่เสื้อยืดแขนยาวสีขาว-น้ำเงิน สวมกางเกงขายาวสีดำ ขับขี่รถจักรยานยนต์ผ่านบริเวณหน้าบ้านของเพื่อนบ้านมุ่งหน้าไปทางบ้านผู้เสียชีวิต หลังจากเวลาผ่านไป เพียง 2 นาที เวลา 10.22 น. คนร้ายได้ขี่รถจักรยานยนต์กลับมา คาดว่าเป็นการมาดูลาดเลาก่อนเกิดเหตุ



ทีมข่าวเที่ยงวันได้สัมภาษณ์ ร.ต.อ.ศักดิ์ศิริ อายุ 62 ปี ค่าราชการวัยเกษียณ(เพื่อนบ้าน) เปิดเผยให้ทีมข่าวฟังว่า ตนเองพักอาศัยที่นี้มาตั้งแต่ปี 2555 (11ปี) ตนเองยังไม่เคยเจอเหตุการณ์ฆาตกรรมร้ายแรงขนาดนี้ ในช่วงเวลากลางวันค้อนข้างเงียบ ต่างคนต่างอยู่ มีพื้นที่รกร้าง ที่ดินว่างเปล่า เว้นระยะกันไป ในช่วงเวลาที่เกิดเหตุตนเองกำลังออกไปทานข้าวหน้าปากซอย ภรรยาโทรมาบอกว่ามีรถเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเต็มบริเวณหน้าบ้าน ตนจึงรีบกลับมา



หลังจากที่ทีมข่าวมาดูกล้องวงจรปิดตนเองก็เพิ่งรู้ว่าคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์ผ่านหน้าตนไป แต่ตนไม่รู้ว่าเป็นคนร้าย หลังจากเกิดเหตุสลดแบบนี้ขึ้นตนเองก็ยังรู้สึกกลัว เนื่องจากตนเองอยู่กับภรรยาและลูกสาว ขนาดภายในหมู่บ้านมีกล้องวงจรปิดคนร้ายยังกล้าที่จะก่อเหตุ ตนเองคาดว่าคนร้ายเป็นคนในพื้นที่ เนื่องจากรู้ทางเข้าทางออกเป็นอย่างดี อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามคนร้ายให้เร็ววัน

คุณอาจสนใจ

Related News