สาวบุรีรัมย์สุดช้ำ! น้องชายฆ่าพ่อ ตบตาเป็นอุบัติเหตุ ซ้ำโดน จนท.รพ.หลอกเงิน ค่าชันสูตรศพเฉียดหมื่น

กรณีนายเขมา อายุ 75 ปี ถูกนายชัชวาล (ปู)  อาย 28 ปี ลูกชายแท้ๆ ของตัวเอง ใช้มีดแทงและฟัน จนเสียชีวิต แล้วนำศพใส่รถเข็นพ่วงรถจักรยานยนต์ไปทิ้งข้างทาง บนถนนสาย 24 โชคชัย-เดชอุดม ตั้งแต่กลางดึกที่ผ่านมา จนกระทั่งเจ้าหน้าที่จับกุมได้ที่บ้านพักที่เกิดเหตุ

ล่าสุดวานนี้ (29 มิ.ย. 65) พบภาพจากกล้องวงจรปิดของชาวบ้านในหมู่บ้าน พบว่าเมื่อเวลาประมาณ 02.14 น. นายชัชวาล ขี่รถจักรยานยนต์พ่วงรถเข็น โดยมีสิ่งของอยู่ภายในรถเข็นคือร่างของพ่อตัวเองที่เสียชีวิตแล้ว เวลาประมาณ 02.25 เห็นภาพนายชัชวาลเดินทางกลับเข้าหมู่บ้าน ซึ่งห่างกันระหว่างจุดทิ้งศพกับบ้านที่เกิดเหตุประมาณ 4 กม.

นายสุรกานต์ ชื่นชมยิ่ง อายุ 42 ปี ผู้ใหญ่ หมู่ 16 บ้านหนองสระ บอกว่า ผู้ก่อเหตุเป็นคนไม่ค่อยพูด มักจะทะเลาะกับพ่อเป็นประจำ เพราะนายชัชวาล ไม่ทำงาน ครั้งล่าสุดคือนายชัชวาลไปขอโทรศัพท์ของพ่อ เลยมีปากเสียงกัน เท่าที่ทราบนายชัชวาล เคยติดยาเสพติด

ด้านนางสมาน อายุ 65 ปี ภรรยาผู้ตาย เล่าว่า เป็นภรรยาใหม่ของผู้ตาย อยู่กินกันมาร่วม 30 ปี ฝ่ายสามีจะมาอยู่ด้วยกันที่บ้านของตน โดยจะไปแวะไปเยี่ยมบ้านเป็นครั้งคราว

แต่ในช่วงที่ผ่านมา นายชัชวาล เหมือนมีอาการทางประสาท สามีจะไปแวะหาบ่อยขึ้นด้วยความเป็นห่วง ก่อนหน้านี้ลูกสาวของสามีได้โทรศัพท์มาหาคุยกันแล้วได้ยินว่า พี่สาวนายชัชวาล เอ่ยปากว่าอยากจะฆ่าน้องชายทิ้ง เพราะเกรงว่าจะทำร้ายพ่อ สามีได้บอกผ่านทางโทรศัพท์ว่า “ทำไม่ได้หรอก” เพราะเป็นลูกในไส้

และเมื่อวันที่ 27 มิ.ย.ที่ผ่านมา สามีจะไปหานายชัชวาล ตนบอกว่าจะไปด้วยแต่สามีห้ามไม่ให้ไป บอกคำสั้นๆ ว่า “อันตราย” สุดท้ายสามีถูกลูกชายตัวเองฆ่าตายเหมือนที่เคยระแวงไว้ไม่มีผิด

-------

จากเหตุดังกล่าวนี้ สร้างความเศร้าสลดให้กับญาติผู้ตายและชาวบ้านในหมู่บ้านเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะนางศิริกัญญา อายุ 48 ปี ลูกสาวของผู้เสียชีวิต ยังทำใจไม่ได้ เพราะผู้ก่อเหตุเป็นน้องชายและเป็นลูกชายแท้ๆ ของพ่อ

บรรยากาศทั่วไปชาวบ้านกำลังช่วยกันเตรียมสถานที่ แต่เกิดปัญหาเนื่องจากญาติยังหาเงินอีกจำนวน 10,000 บาทที่จะต้องจ่ายให้เป็นค่ารับศพออกจากโรงพยาบาลบุรีรัมย์ไม่ได้ จึงได้จับกลุ่มหาแนวทางที่จะโอนเงินจำนวนดังกล่าวให้โรงพยาบาลบุรีรัมย์

เพื่อรอรับศพของนายเขมา ซึ่งได้ส่งไปชันสูตรต่อที่โรงพยาบาลบุรีรัมย์ หลังจากก่อนหน้านี้โรงพยาบาลประโคนชัยได้ชันสูตรไปแล้วเบื้องต้น

จากนั้นผู้สื่อข่าวได้สอบถามนางศิริกัญญา ลูกสาวผู้เสียชีวิต บอกว่า ก่อนหน้านี้ได้มีผู้หญิงโทรศัพท์เข้ามาบอกว่าจะต้องจ่ายค่าชันสูตรศพให้กับโรงพยาบาลประโคนชัยจำนวน 3,500 บาท จึงโอนไปทันที ไม่กี่นาทีต่อมาผู้หญิงคนเดิมโทรศัพท์มาอีก บอกว่าต้องจ่ายค่าชันสูตรศพให้กับโรงพยาบาลบุรีรัมย์อีก 4,500 บาท ตนก็โอนไปอีก ทั้งสองครั้งโอนเข้าบัญชีชื่อ น.ส.นิรุบล เกศประทุม อีกไม่ถึง 10 นาที หญิงคนเดิม โทรมาอีกครั้ง คราวนี้จะต้องจ่ายค่าเอาศพออกจากโรงพยาบาลอีก 10,000 บาท ถึงตอนนี้ตนไม่มีเงิน จึงมาปรึกษากับครอบครัวว่าจะหาเงินจากไหน จนกระทั่งนักข่าวทราบ

จากนั้นผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ติดต่อหญิงสาวคนดังกล่าว ถามถึงที่มาที่ไป ว่าเงินที่โอนไป 2 ครั้งรวมเป็นเงิน 8,000 บาท โรงพยาบาลเป็นคนเรียกรับเงินหรือไม่ ตอนแรกพูดคุยบ่ายเบี่ยงประเด็น และจะไม่พยายามคุยด้วย สุดท้ายยอมรับว่าเป็นคนเรียกเงินเอง และขอร้องไม่ให้เอาเรื่องนี้ไปแจ้งโรงพยาบาล เพราะกลัวจะตกงาน โดยจะโอนเงินทั้งหมดคืนให้ทันที ก่อนจะติดต่อไม่ได้อีก

เบื้องต้นทราบว่า หญิงสาวคนดังกล่าว ทำงานอยู่ที่โรงพยาบาลประโคนชัย แผนกเวศกิจฉุกเฉิน ได้รับรายงานว่าวันพรุ่งนี้ โรงพยาบาลจะมีการประชุมด่วนเกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น เพราะคาดว่าไม่ใช่เป็นครั้งแรก

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/E7b1eSNist4