เดือดร้อนหนัก! ชาวนากว่า 40 คนถูกผู้รับซื้อข้าวเท สูญเงินกว่า 6 ล้านบาท

วันที่ 26 มิถุนายน 2565 เวลา 09.30 น. ที่ศาลาวัดท่าวารี บ้ต.ดอนโอง อ.โพธิ์ชัย จ.ร้อยเอ็ด ชาวบ้านที่ประกอบอาชีพทำนาเป็นหลักมากกว่า 40 คน ได้รวมตัวกันร้องเรียนกับสื่อมวลชน ส.ส.ฉลาด ขามช่วง(เขต 2 พรรรคเพื่อไทย) สจ.ตุลธร ขามช่วง นายกรกฎ บุญญามิ่ง นายอำเภอโพธิ์ชัย และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชียงใหม่ เกี่ยวกับกรณีที่เกษตรกรจาก ต.ดอนโอง และตำบลใกล้เคียงของ อ.โพธิ์ชัย

ได้นำข้าวเปลือกนาปังไปขายให้กับผู้เช่าลานซึ่งเป็นพ่อค้าและแม่ค้าจากจังหวัดสุพรรณบุรี ผ่านมาเกือบจะ 3 เดือนแต่ไม่ได้รับเงิน ทั้งขอผลัดจ่ายไม่ตรงกับวันเวลานัดหมาย และจ่ายเช็คเด้ง รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 6,611,855 บาท 


โดยวิธีการคือ มีตัวแทนหรือนายหน้าเป็นหญิงและชายคู่หนึ่งได้นำเมล็ดพันธุ์ข้าวมาขายให้กับเกษตรกร จากนั้นบอกกับชาวบ้านว่าผู้ที่ให้นำเมล็ดพันธุ์ข้าวมาขายจะรับซื้อข้าวโดยให้ราคาสูงกว่าผู้ที่รับซื้อข้าวใน อ.โพธิ์ชัย เช่น ถ้าผู้รับซื้อใน อ.โพธิ์ชัย ให้ราคาที่ 7 บาท ก็จะรับซื้อในราคาที่สูงกว่า คือ 7.50 หรือ 7.60 บาท ทำให้เกษตรกรได้ปลูกข้าวและนำมาขายให้กับนายหน้าทั้งสองที่ลานของผู้เช่าจากจังหวัดสุพรรณบุรี



ในช่วงแรกของการซื้อขายก็ยังเป็นปกติดี โดยหลังจากที่เกษตรกรนำข้าวไปขายแล้ว นายหน้าจะจ่ายเงินให้กับทางเกษตรกรภายใน 1 สัปดาห์หรืออย่างเร็วที่สุดก็ประมาณ 2-3 วัน แต่มาผิดปกติในช่วงเดือนเมษายนซึ่งช่วงต้นเดือนเมื่อเกษตรกรขายข้าวไปแล้วปรากฏว่าผ่านไป 1 สัปดาห์ก็ยังไม่ได้รับเงิน จึงมีการสอบถามไปยังนายหน้าหญิงและชายที่เป็นผู้รับผิดชอบ

จากนั้นทางผู้รับซื้อข้าวได้ออกใบสีเหลืองที่ระบุจำนวนเงินที่จะได้รับจากการขายข้าว และมีการขอผลัดวันนัดจ่ายเงิน โดยบางคนก็ได้รับเงิน บางคนก็ไม่ได้รับเงิน บางส่วนก็โอนผ่านนายหน้ามาจ่ายแต่ก็ไม่ได้รับครบทุกคน ทำให้เกิดความเสียหายกว่า 6 ล้านบาท



เมื่อเกษตรกรไม่ได้รับเงินจากการขายข้าวก็ทำให้เดือนร้อนอย่างหนัก จึงได้รวมตัวกันไปร้องที่ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอโพธิ์ชัย ซึ่งนายกรกฎ บุญญามิ่ง นายอำเภอโพธิ์ชัย ก็ได้รีบดำเนินการสอบสวนโดยเชิญเกษตรกรและกลุ่มผู้รับซื้อข้าวมาเจรจากัน ก็มีการจ่ายเงินให้กับเกษตรกร จาก ต.ดอนโอง ต.พลับพลา ต.เกาะแก้ว ต.สะอาด และของ อ.เสลภูมิ อ.เชียงขวัญ อ.โพธิ์ชัย รวมแล้ว 2 ล้านกว่าบาท ซึ่งก็ยังค้างเงินที่จะให้กับเกษตรกรอีกกว่า 4.7 ล้านบาท

ทางผู้รับซื้อข้าวจึงได้ออกเป็นเช็คสั่งจ่ายเงินวันที่ 15 มิถุนายน 2565 มาให้กับเกษตรกร แต่เมื่อถึงเวลาไปขึ้นเช็ครับเงินที่ธนาคารกลับกลายเป็นว่า เช็คเด้ง ไม่สามารถจ่ายเงินให้กับเกษตรกรได้ ยิ่งสร้างความเดือดร้อนให้กับเกษตรกรมากขึ้นเพราะ ผ่านมามากกว่า 2 เดือนจะเข้า 3 เดือนยังไม่ได้รับเงินที่ต้องนำไปจ่ายค่าใช้จ่ายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นค่าการลงทุนทำนา ค่าปุ๋ย ค่าแรง และยังมีค่าใช้จ่ายในครอบครัวต่างๆอีกมากมาย



โดยวานนี้ (26 มิถุนายน 2565) ในระหว่างที่ ส.ส.ฉลาด ขามช่วง กำลังรับเรื่องร้องเรียนและพูดคุยกับเกษตรกรอยู่นั้น ได้มีโทรศัพท์เข้ามา ทราบจากการเปิด Speaker phone ว่าคือ เจ๊ผู้รับซื้อข้าวจากสุพรรณบุรี โทรเข้ามาพูดคุยกับทาง ส.ส.ฉลาด ขามช่วง (ในช่วงนี้ปล่อยคลิปเสียงที่สนทนากัน) ซึ่งจับใจความสำคัญได้ว่า จะขอผลัดจ่ายเงินเป็นวันที่ 12 กรกฎาคม 2565 และจะโอนเงินผ่านให้กับนายหน้าชายและหญิงทั้งสองคน ไปชำระเงินให้กับเกษตรกรครบทุกคน โดยให้สัญญากับทาง ส.ส.ฉลาด สื่อมวลชน และเกษตรกรที่มารวมตัวกันร้องเรียนในวันนี้ ส.ส.ฉลาด จึงได้ถามกลับไปว่า หากเมื่อถึงวันนัดหมายในวันที่ 12 กรกฎาคม แล้วยังไม่จ่ายเงินจะให้ทำอย่างไร

ทางเจ๊ผู้รับซื้อข้าวก็ตอบยืนยันกลับมาว่า ให้ดำเนินคดีความกับตนได้เลย เพราะตนไม่ได้หนีไปไหน ยังรับโทรศัพท์และขายข้าวอยู่ที่ จ.สุพรรณบุรี อีกทั้งไม่อยากเสียชื่อเสียงด้วย



นางสาวอรวรรณ อายุ 44 ปี ซึ่งได้รับเช็คที่ขึ้นเงินไม่ได้จำนวน 308,238 บาท ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ตนเองได้รับความเสียหาย ตอนแรกทำการขายข้าว โดยคนรับซื้อแจ้งว่าอีก 1 สัปดาห์ค่อยมารับเงิน พร้อมออกบิลสีเหลืองที่ระบุจำนวนข้าวและจำนวนเงินที่จะได้รับมาให้ หลังจากผ่านไป 1 สัปดาห์ก็ได้โทรหานายหน้าว่า ทำไมถึงยังไม่ได้เงิน จึงได้โทรติดต่อเจ๊ที่รับซื้อข้าว โดยทางเจ๊บอกว่าจะโอนให้ แล้วก็ไม่เห็นโอนเงินเข้ามา

จากนั้นก็ผลัดวันโอนเงินมาเรื่อยๆ ตนจึงไปร้องที่ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอโพธิ์ชัย เขียนเรื่องร้องเรียนถึงนายอำเภอ นายอำเภอจึงได้เรียกเข้าไปและได้เชิญตัวผู้ที่รับซื้อข้าวมา ผู้รับซื้อข้าวจึงบอกว่าจะจ่ายเป็นเช็คมาไว้ให้ก่อน วันที่ 26 พฤษภาคม 2565 เขาก็จ่ายเช็คมาให้ โดยในเช็คเขียนสั่งจ่ายเงืนวันที่ 15 มิถุนายน 2565

หลังจากนั้นวันที่ 14 มิถุนายน 2565 เจ๊ที่รับซื้อข้าวโทรมาบอกว่า อย่าพึ่งเอาเช็คไปขึ้นเงิน เขาบอกว่าจะโอนเงินให้อยู่ตนจึงได้รอ แต่ก็ไม่เห็นโอนมา ล่วงเลยผ่านวันที่ 15 มิถุนายน ตนจึงนำเช็คไปหาเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมทั้งขอคำแนะนำว่า เขาไม่ให้เอาเช็คขึ้นเงินจะต้องทำอย่างไร เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงโทรไปหาเจ๊ที่รับซื้อข้าว เขาบอกตำรวจว่าจะโอนเงินให้ในวันที่ 21 มิถุนายน 2565 ทั้งหมด

จนถึงวันนี้ (วันที่ 26 มิถุนายน 2565) ก็ยังไม่โอนอีก ตนรู้สึกไม่พอใจเพราะเขาเลื่อนมาโดยตลอด โดยส่วนตัวตนก็ยังไม่เชื่อว่าจะโอน ซึ่งเมื่อสักครู่เจ๊ที่รับซื้อข่าวได้โทรมาพูดคุยกับ ส.ส.ฉลาด ขามช่วง ก็รับปากว่า วันที่ 12 กรกฎาคม 2565 จะโอนเข้ามาจ่ายผ่านนายหน้าทั้งสองคนเหมือนเดิม โดยจะจ่ายให้พร้อมกันทั้งหมด