โดนหลอกมานาน 18 ปี! ชาวบ้านสุดทนรวมตัวร้อง หลังถูกนิติเถื่อนเก็บเงิน เสียหายเกือบ 40 ล้าน

เมื่อเวลา 11.00 น. ที่บริเวณปากทางเข้าหมู่บ้านแห่งหนึ่งใน ตำบลนาป่า อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้าน ตั้งแต่ เฟส 1 ถึงเฟส 4 จำนวนกว่า 1 พันหลังคาเรือน ได้ออกมารวมตัวประท้วง เรียกร้องขอความเป็นธรรม ในกรณีที่ ทางชาวบ้านถูกหลอกลวงเรียกเก็บเงินจากกลุ่มคน ที่อ้างตัวว่าเป็นคณะกรรมการบ้าง นิติบุคคลบ้าง แล้วมาเรียกเก็บเงินค่าส่วนกลางของหมู่บ้านเพื่อคอยอำนวยความสะดวก ซ่อมแซม เครื่องอุปโภค บริโภค ภายในหมู่บ้านหากมีการชำรุด

สอบถามผู้อยู่อาศัยรายหนึ่ง อายุ 43 ปี หนึ่งในชาวบ้านที่ออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรม โดยเธอเล่าว่า ชาวบ้านตั้งแต่เฟส 1 ถึงเฟส 4 เป็นหมู่บ้านที่สร้างมาตั้งแต่ปี 2536 ซึ่งในยุคนั้นไม่มีนิบุคคล แล้วต่อมาเมื่อปี 2547 ก็จะมีกลุ่มที่ตั้งตนเองขึ้นมาว่าเป็นนิติบุคคล เข้ามาบริหารจัดการเรียกเก็บค่าส่วนกลางจากชาวบ้าน โดยที่ชาวบ้านก็ได้หลงเชื่อว่าเป็นกรรมการหมู่บ้านและนิติบุคคล จริงๆ จึงยินยอมจ่ายค่าขยะ ค่าส่วนกลาง ในแต่ละหลังคาเรือน เป็นเงินเดือนละ 150 บาท ถึง 200 บาท ตลอดระยะเวลายาว นานถึง18 ปี

จนเรื่องมาแตกเมื่อปลายปีที่ผ่านมา หลังทางเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลนาป่า เข้ามาตรวจสอบเรียกเก็บภาษี ถึงได้ทราบว่าหมุ่บ้านแห่งนี้ (เฟส1-4 ) ไม่มีนิติบุคคล แล้วมีการเรียกเก็บรับเงิน ทางเทศบาล จึงได้แนะนำให้ชาวบ้านรวบรวมหลักฐานไปแจ้งความเอาผิดกับกลุ่มคนดังกล่าว นอกจากนี้ยังพบว่ามีตำรวจหนึ่งนาย เป็นหนึ่งในกลุ่มที่อ้างเป็นนิติบุคคล เรียกเก็บเงินในครั้งนี้ด้วย

นอกจากนี้ทางชาวบ้านอยากให้ทางเจ้าของหมู่บ้าน ทางถนนผ่านเช่นซอยต่างๆ ให้เป็นทางสาธารณะ เพราะปัจจุบันซอยต่างๆ ไฟก็ไม่ติดมืดตลอดทั้งซอย เนื่องจากไม่มีการปรับปรุงแก้ไขซ่อมแซมจากการชำรุดของเสาไฟฟ้า นอกจากนี้ทางสนามเด็กเล่น สโมสรสระว่ายน้ำ ของหมู่บ้าน นั้นได้ชำรุดทรุดโทรม สนามเด็กเล่นปล่อยให้หญ้าขึ้นเท่าหัวเข่า จนเด็กๆไม่สามารถจะเข้าไปวิ่งเล่นได้เพราะกลัวจะถูกงูกัด

ส่วนสระว่ายน้ำนั้นก็ปล่อยให้ตะไคร่ ขึ้นจนเขียว แถมที่พื้นก็มีแต่ขี้สุนัขเกลื่อนสกปรกไปหมด พวกตนจึงต้องออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรมให้เจ้าของหมุ่บ้านส่วนส่วนต่างๆให้เป็นที่สาธารณะ เพื่อที่จะได้ให้ทางเทศบาลเข้ามาพัฒนาดูเเลให้ดีกว่าเดิมอย่าปล่อยให้ทรุดโทรมเหมือนแบบนี้ ส่วนนิติบุคคลเถื่อน ให้ออกมารับผิดชอบและคืนเงินให้กับชาวบ้านที่จ่ายไปเป็นเวลานานกว่า18 ปี เป็นเงินเกือบ 40 ล้านบาท