อาชญากรรม

พ่อชายถูกฆ่ายัด BMW ทำใจไม่ได้ วอนสถานทูตติดต่อไต้หวันเรื่องคดีความ

โดย taweelap_b

12 มิ.ย. 2565

4.2K views

กรณี 2 คนไทยถูกฆาตกรรมยัดท้ายรถยนต์ BMW จอดทิ้งหน้าสถานีรถไฟความเร็วสูง ในประเทศไต้หวัน ตามที่เป็นข่าวนำเสนอไปแล้วนั้น


ล่าสุดวันที่ 12 มิ.ย. 65 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านหลังหนึ่ง ต.ท่าลาด อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ซึ่งเป็นบ้านของนายธีรศักดิ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 58 ปี บิดาของนายประเสริฐ หรือ มาส อายุ 32 ปี 1 ในผู้เสียชีวิตที่อยู่ในท้ายรถคู่กับน.ส.มี่ ภรรยาสาวชาวไทย สัญชาติไต้หวันท้องแฝด 5 เดือน


นายธีรศักดิ์ เปิดเผยว่า ตนทราบเรื่องวันที่ 10 มิ.ย. 65 เวลาประมาณ 19.00 น. โดยพี่สาวของน.ส.มี่ภรรยาของนายประเสริฐ โทรศัพท์มาแจ้งว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจพบศพนายประเสริฐ กับภรรยา อยู่ท้ายรถ BMW ในลานจอดรถหน้าสถานีรถไฟความเร็วสูงเถาหยวน เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 2 วัน คาดว่าทั้ง 2 คนถูกทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต ก่อนจะนำศพยัดใส่ท้ายรถมาจอดทิ้งไว้ ส่วนผู้ก่อเหตุคาดว่าน่าจะเป็นเพื่อนสนิทชาวไทยที่ทำงานด้วยกัน ซึ่งหลังเกิดเหตุทราบว่าได้บินกลับมายังประเทศไทย แต่ยังไม่ทราบว่าไปอยู่ที่ใด


สำหรับนายประเสริฐ เป็นคนดี พูดเพราะ เป็นเสาหลักของครอบครัว ได้ภรรยาเป็นสาวชาวไทยสัญชาติไต้หวันและจดทะเบียนอยู่ด้วยกันจนได้สัญชาติไต้หวัน โดยทั้งคู่ได้ทำธุรกิจข้าวกล่องส่งให้แรงงานไทยในโรงงาน ขายผลไม้ ลอตเตอรี ส่งเงินมาให้เดือนละ 3,000 บาท ก่อนจะพบศพเมื่อวันที่ 8 มิ.ย. 65 ตนยังได้พูดคุยกับนายประเสริฐ โดยนายประเสริฐบอกว่าจะกลับมาพักที่เมืองไทยวันที่ 15 มิ.ย.65 จะกลับมาเมืองไทยพร้อมภรรยา ที่กำลังตั้งครรภ์แฝด 5 เดือน เพื่อพักผ่อนและพาครอบครัวไปเที่ยวทะเล หลังจากนั้นก็ไม่ได้คุยกันอีก จนพี่สาวของภรรยานายประเสริฐ โทรศัพท์มาบอกว่านายประเสริฐเสียแล้ว


ส่วนผู้ก่อเหตุเบื้องต้นคาดว่าน่าจะเป็นเพื่อนชาวไทยที่ทำงานด้วยกันในประเทศไต้หวัน เป็นเพื่อนของภรรยานายประเสริฐ หลังเกิดเหตุได้หายตัวไป และทราบว่าบินกลับมาประเทศไทยแล้ว ส่วนตัวและครอบครัวไม่รู้จักกับเพื่อนคนนี้มาก่อน


นอกจากนี้ สาเหตุนั้นตนก็ยังไม่ทราบแน่ชัด อาจจะเป็นเรื่องการแบ่งผลประโยชน์ไม่ลงตัว ทั้งนี้ก็ต้องรอดูทางไต้หวันว่าจะเป็นอย่างไร เพราะอยู่ในช่วงระหว่างการดำเนินการสอบสวนและชันสูตรศพในวันที่ 16 มิ.ย. 65 หลังจากชันสูตรเสร็จก็จะให้ญาติทางภรรยานายประเสริฐ ดำเนินการฌาปนกิจ ที่ประเทศไต้หวัน แล้วแบ่งกระดูกมาบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด จริง ๆ ตนก็อยากนำศพลูกกลับบ้าน แต่ด้วยมาตรการโควิด-19 ที่ไต้หวัน จะต้องกักตัวทำให้ไม่สะดวก จึงได้ส่งเอกสารมอบอำนาจให้ทางฝ่ายภรรยาทำการแทน


"เรื่องความกังวลใจในตอนนี้ ก็เป็นห่วงเรื่องของทางคดี อยากให้ทางการไทยช่วยจับคนร้ายให้ได้ หากเป็นเพื่อนที่บินกลับมาไทยจริง เพราะพฤติกรรมมันโหดร้ายเกินไป ตอนนี้ครอบครัวก็ยังทำใจไม่ได้แม้แต่เด็กในท้อง ชาย – หญิงฝาแฝด อายุ ครรภ์เพียง 5 เดือน ก็ยังไม่เว้น และอยากให้ทางสถานทูตเข้ามาให้คำแนะนำดูแลเรื่องของทางคดีให้ด้วย" นายธีรศักดิ์ กล่าวทิ้งท้าย  


ขอบคุณภาพเพจ : หนีห่าวไต้หวัน ฉันมาแล้ว Taiwantopics.com 

คุณอาจสนใจ

Related News