อาชญากรรม

'แซน' ลั่นพร้อมเข้าคุก! ท้า 'ลุงอัจ' เปิดหลักฐานฆาตกรรมสักที เปิดคลิปเสียงคล้าย 'บังแจ็ค' โทรหา

โดย thichaphat_d

2 มิ.ย. 2565

16 views

จากกรณี นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ออกมาเผยถึงเรื่องพบคราบเลือด แตงโม ภัทรธิดา (นิดา) บนเสื้อคนบนเรือ หนึ่งคนบนเรือที่พูดเก่งๆ ล่าสุดเมื่อวานนี้ (1 มิ.ย. 65) แซน วิศาพัช มาออกรายการ โหนกระแส เผยถึงเรื่องดังกล่าวว่า ให้พี่กระติก (อิจศรินทร์) พูดเรื่องนี้เองดีกว่า


จากนั้น หนุ่ม กรรชัย โฟนอินสัมภาษณ์ กระติก อิจศรินทร์ ถึงเรื่องนี้ในรายการว่ามีคราบเลือดแตงโมจริงไหม โดยกระติก กล่าวว่า มีจริงๆ คราบนั้นเท่าเข็มหมุด ตรวจมาเป็นดีเอ็นเอของทั้งสองคน เราใส่เสื้อด้วยกันอยู่แล้ว ชุดนี้เป็นของแตงโม ใส่ถ่ายรายการ คลับฟรายเดย์ ส่งให้ตำรวจไปหมดแล้ว ไม่ค่อยเซอร์ไพรส์เท่าไหร่ รู้อยู่แล้ว และเป็นไปได้ว่าชุดนั้นอาจจะเปื้อนคราบเลือดของแตงโมมาก่อน พอกระติกเอามาใส่ในวันที่ลงเรือ เจ้าหน้าที่ก็ตรวจเจอ


เมื่อถามว่าตำรวจเจอดีเอ็นเอที่บอกคราบเลือดแตงโมจริง กระติกบอกว่า ไม่ได้ยืนยันว่าเป็นของใคร เพราะมีของทั้งสองคน


เมื่อถามอีกว่าตำรวจเจอดีเอ็นเอแตงโม อาจจะมาจากคราบเลือดบนเสื้อกระติกใส่ถูกไหม กระติก กล่าวว่า ถูกต้อง เพราะเขาใส่มาก่อนหน้านี้


เมื่อถามว่าเสื้อที่กระติกใส่เป็นเสื้อตัวเดียวกับที่แตงโมเคยใส่ กระติก ตอบว่า ใช่ มีแชทหลักฐานยืนยันยืม เราแลกกันใส่อยู่แล้ว แชทหนูกับโมคุยกัน ว่าชุดที่โมใส่ขายไปยัง โมก็บอกว่ายังๆ เคยส่งหลักฐานนี้ให้พี่ดูแล้ว และหลักฐานเสื้อตัวนั้นแตงโมใส่ในรายการคลับฟรายเดย์ด้วย หนูโดนสอบเรื่องนี้เหมือนกัน


นอกจากนี้ ยังบอกด้วยว่า ถ้าคนที่เคยซื้อเสื้อผ้าจากแตงโมจะรู้ว่า แตงโมขายชุดทั้งป้าย นั่นหมายถึง แตงโมใส่ชุดนั้นแล้วก็ขายทันที จะไม่ได้ซัก เพราะถ้าซักต้องแกะป้าย แต่แตงโมขายทั้งป้ายเลยไม่ซัก


ส่วนที่นายอัจฉริยะตามหามีดใช้เปิดขวดไวน์บนเรือและใช้ทำร้ายแตงโมนั้น แซน กล่าวว่า ไม่เห็นมีดที่พูดถึง ไม่รู้เรื่องมีด เพราะไม่ได้เป็นคนดูแลเรื่องเปิดขวด จ๊อบเป็นคนดูแลเรื่องนี้ โดยระหว่างออกรายการแซน บอกด้วยว่า ปอส่งข้อความเข้ามาหาแซน และบอกว่า แชมเปญที่กินกันบนเรือ ใช้มือเปิดได้


ส่วนกรณีนายอัจฉริยะ ฟ้องแซนในข้อหาให้การความเท็จนั้น นายพรศักดิ์ วิภาสอาภานนท์ ทนายความของแซน กล่าวว่า วันใดที่อัยการสั่งฟ้อง 5 คนบนเรือคดีแตงโม ฐานประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย วันนั้นจะยื่นฟ้องกลับในหลายๆ ข้อหาที่แจ้งความไว้


แซน กล่าวเสริมว่า ถ้านายอัจฉริยะ มีหลักฐานว่าฆ่าคน ก็เปิดออกมาเลย ตนพร้อมเดินเข้าคุก จะได้จบๆ สักที ตนค่อนข้างรำคาญ พาคนไทยออกทะเลแล้วทิ้งไว้กลางทาง ไม่พากลับเข้ามา พร้อมท้านายอัจฉริยะ กล้าสาบานพร้อม 5 คนบนเรือที่ศาลหลักเมือง ว่าทำด้วยความสุจริตใจ เรียกร้องความยุติธรรมให้แตงโม พร้อมโอกาสจากประชาชนคนไทย ให้คิดดูว่า 5 คน แค่ไปกินข้าว ไม่มีเหตุผลจะทำร้ายกัน

----------
วานนี้ (1 มิ.ย. 65) นายพรศักดิ์ วิภาสอาภานนท์ ทนายความของแซน นำคลิปเสียงสนทนากับชายคนหนึ่ง มาเปิดเผยในรายการโหนกระแส โดยชายดังกล่าวบอกว่าโทรศัพท์มาจากอเมริกา และบอกว่าเขาคือ บังแจ็ค


มีคลิปบางส่วน ที่ส.ส.เต้ ทนายกฤษณะ และคุณอัจฉริยะคุยกัน ว่าร่วมกันวางแผนให้แซนติดต่อไปหาอัจฉริยะเพื่อเคลียร์เรื่องเงิน และถามทางทนายด้วยว่าตัวบังแจ็คเองจะช่วยเหลืออะไรได้ไหม แต่ทนายปฏิเสธไป พร้อมบอกว่าขอให้เป็นไปตามขั้นตอนทางกฎหมาย


ทีมข่าวพูดคุยกับทนายนายพรศักดิ์ เปิดเผยหลังจากนำคลิปเสียง ที่บังแจ็คติดต่อมาหาตนว่า บังแจ็ค ได้ติดต่อมาหาตนตั้งแต่ประมาณวันที่ 7 พฤษภาคม หลังจากพยายามติดต่อไปที่คุณแซนแต่คุณแซนไม่รับ


สาเหตุที่ตนคุยกับบังแจ็ค เพราะต้องการรู้จุดประสงค์ของการติดต่อมาว่าคืออะไร ซึ่งการสนทนา ก็เป็นอย่างที่ปรากฏในคลิปเสียงว่า บังแจ็คอ้างกับตนเองว่าต้องการเปิดโปงคุณอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ รวมถึง ส.ส.เต้ เหมือนประมาณว่าอยากจะเอาข้อมูลให้ตน เพื่อเป็นการช่วยเหลือแซน ซึ่งส่วนตัวมองว่า ถ้าบังแจ็คทำได้ถึงขนาดนี้ คนที่กำลังจะร่วมงานกับเขา ก็ควรต้องระมัดระวัง


ส่วนสาเหตุที่เขาต้องการมาเปิดโปงนั้น ก็ไม่เข้าใจ และตนก็ไม่ได้ถามว่าทำไมจึงต้องติดต่อมาหา ซึ่งช่วงเวลาที่บังแจ็คติดต่อมา เป็นช่วงก่อนที่บังแจ็คจะได้โทรศัพท์มือถือของคุณแตงโมไป


ขณะที่แซน กล่าวเพิ่มเติมว่า บังแจ็ค พยายามติดต่อเธอและส่งข้อความมาหาเธอเช่นกัน บอกว่า "มีข้อมูลของลุงอัจ เล่นมันได้หนักเลย" แต่เธอปฏิเสธที่จะคุย “ในความคิดแซน เขาแค่ต้องการได้รับการฉายแสงมาที่เขา เพราะว่าช่วงนั้น เค้าอาจจะแผ่วๆ ไป แล้วเค้าก็เลยไม่รู้จะเกาะใคร ไม่ต้องไปสนใจเค้าหรอกค่ะ”


ส่วนแนวทางการต่อสู้คดี นายพรศักดิ์ กล่าวว่า ถ้าพนักงานอัยการมีคำสั่งฟ้องในข้อหานี้ ก็ต้องต่อสู้เกี่ยวกับพฤติการณ์ที่ถูกกล่าวหา ว่าเป็นการประมาทหรือไม่ แต่ถ้าเป็นในแนวทางคดีที่เค้าบอกว่าจะฟ้องเรื่องข้อหา ฆาตกรรม ถ้าเขาฟ้องเขาใช้สิทธิ์ได้ แต่การฟ้องนั้นเป็นการกลั่นแกล้งให้ได้รับโทษหนักขึ้น หรือการทำพยานหลักฐานขึ้นมา และพยานหลักฐานนั้นไม่ได้มีความน่าเชื่อถือสอดคล้องกับสำนวนของนิติเวช หรือพนักงานสอบสวน ที่ทำในสำนวนหลัก ก็จำเป็นที่จะต้องดำเนินการฟ้องกลับ รวมทั้งการเบิกความในชั้นศาลด้วย


ส่วนการทำงานของคุณอัจฉริยะ และ ส.ส.เต้ ตนเองเห็นว่าทำงานกันอย่างหนัก เพื่อที่จะพิสูจน์หาความจริง มองว่าเป็นเรื่องดี พวกเขามีเจตนาดีกับคุณแม่ แต่ส่วนที่จะใช้สิทธิ์ ก็ขอย้ำให้ระมัดระวัง ต้องสุจริต และต้องไม่เป็นการกระทบกับทุกคนบนเรือ เนื่องจากว่าตอนนี้คดีแทบจะยุติแล้ว เพียงรอคำสั่งพนักงานอัยการในวันที่ 23 มิถุนายนนี้เท่านั้น


ทางด้าน แซน วิศาพัช ยังยืนยันคำเดิมว่า แตงโมตกท้ายเรือ ส่วนบาดแผล ถ้าบอกว่าตกจากหัวเรือหรืออะไรนั้น เป็นหน้าที่ของนิติเวช


ส่วนที่บอกว่ามีหลักฐานนั้น ตนเองรออยู่ และประชาชนทั้งประเทศก็รออยู่ “ที่ไปปากอ่าวเจ้าพระยา ก็ช่วยรีบพากลับมาได้แล้วนะคะ ถ้ามีหลักฐานให้รีบเปิดเลย พวกเราพร้อมเข้าคุกค่ะ ถ้ามีจริงๆ”


ส่วนตัวยอมรับว่าเหนื่อยมาก ไม่มีใครชอบกับการที่ถูกเรียกว่า “ผู้ต้องหา” ไม่โอเคมากกับเรื่องนี้ // ส่วนเรื่องคราบเลือดนั้น ขอให้รอถามคุณกระติก เพราะตนไม่ทราบเรื่องนี้ และให้กระติกเป็นคนตอบดีกว่า ตนเองไม่ควรจะเป็นคนที่พูด


ส่วนตัว แซนระบุว่าตนเองกังวล กลัวว่าจะช้าจะดึงเรื่องไปเรื่อยๆ และสุดท้าย ก็จะเหมือนกับทุกคดีที่ทำมา หลักฐานไม่มี และพาประชาชนคนไทยไปทิ้งไว้ที่ไหนก็ไม่รู้

------------

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากที่แซน วิศาพัช พร้อม นายพรศักดิ์ วิภาสอาภานนท์ หรือ ทนายตุ๋ย ซึ่งเป็นทนายความของ แซน ได้ออกรายการ โหนกระแส โดยมีช่วงหนึ่ง ทนายตุ๋ย ได้เปิดคลิปเสียง ซึ่งระบุว่า เป็นเสียงของ บังแจ็ค และในนั้นมีการพาดพิงไปถึงบุคคลอื่นด้วย มีทั้ง ทนายกฤษณะ ศรีบุญพิมพ์สวย นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ และ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์


จากนั้น นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ โพสต์เฟซบุ๊กระบุข้อความว่า “ผมมอบอำนาจให้นายบุญถาวร ปัญญาสิทธิ์ ที่ปรึกษาคดีแตงโม ไปดำเนินคดี กับ ทนายตุ๋ยกับพวก ซึ่งเป็นทนายของแซนที่เอาคลิปเสียงมาเปิดในรายการโหนกระแสและใส่ความผมผ่านสื่อให้ได้รับความเสียหาย”
------------

คืนวานนี้ แซน วิศาพัช มโนมัยรัตน์ ได้โพสต์ขอความผ่านอินสตาแกรม ระบุว่า “อยากให้ทุกคนมาย้อนฟังสิ่งที่คุณลุงเคยพูดไว้ในงานแถลงเมื่อวันที่ 10 เมษา แล้วลองไตร่ตรองจากเรื่องราวทั้งหมดดูค่ะ (จากงานแถลงตัวเต็มช่วงนาทีที่ 47.50 เป็นต้นไป)


ช่วงนาทีที่ 47.50 ของคลิปเป็นการพูดโดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญแสงและเงาของคุณลุง ที่อธิบายเงาคนๆนึงซึ่งอยู่บริเวณท้ายเรือในช่วงเวลา 22:34 โดยมีการพูดว่าเงานี้ขยับตามท้ายเรือไปก่อนที่เงาจะหายไป ซึ่งทีมงานคุณลุงก็ได้อธิบายเพิ่มอีกว่ามีเป็นเงาคนยืนขึ้น และเดินกลับเข้าไปในเรือ


อีกช่วงคือ นาทีที่ 55:51 เป็นช่วงท้ายคุณลุงเปิดโอกาสให้นักข่าวถาม เมื่อนักข่าวถามย้ำอีกทีถึงคลิปเงาช่วง 22:34 ว่า “เงาผู้หญิงเมื่อกี้น่าจะเป็นเงาของใครครับ ?” ซึ่งคุณลุงก็ตอบว่าเป็น เงาของแตงโมที่มีการนั่งยองๆ ลงไป


คำถามคือ

1) ในเมื่อคุณลุงพูดอย่างชัดเจนว่าช่วงเวลา 22:34 โมมีการเดินไปนั่งยองๆท้ายเรือ แต่ทำไมวันนี้ถึงพูดว่าแตงโมตกเรือไม่เกิน 22:10 ?

ซึ่งคุณลุงบอกว่าเป็นเงาโมไปนั่งยองๆท้ายเรือช่วง 22:34 แล้วโมจะตกเรือตอน 22:10 ตามที่คุณลุงได้พูดในครั้งหลังๆได้อย่างไรคะ ??

 2) คุณลุงและทีมงานพูดเองว่าโมมีการนั่งยองๆ ลงไปที่ท้ายเรือแล้วก็ลุกขึ้นมาอีกทั้งคุณลุงก็ยังพูดเองว่ามีสิทธิ์ปัสสาวะได้อีกต่างหาก ทำไมคุณลุงถึงเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาคะ?

อยากทราบประเด็นที่คุณลุงพูดไว้เมื่อวันที่ 10 เมษายน ว่าจะสรุปได้ว่าอย่างไรกันแน่คะ? เพราะหลังจากวันนั้นก็ไม่เห็นพูดถึงเรื่องนี้อีกเลยทั้งที่จัดงานแถลงใหญ่โต มีทั้งทีมแสงและเงาช่วยวิเคราะห์ภาพทั้งหมดอย่าง ละเอียดและถี่ถ้วน

รบกวนคุณลุงช่วยตอบคำถามด้วยนะคะ

แล้วไหนจะประเด็นเก่าที่คุณลุงทิ้งไว้ ผ่านมาจนวันนี้ยังไม่ได้คำตอบสักข้อประชาชนคนไทยโดนเอาไปลอยแพอยู่ที่ทะเล ไม่มีใครพากลับมาเจ้าพระยา แล้วคุณลุงยังกล้ามาพร้อมประเด็นใหม่อีกมากมาย ทิ้งข้อสงสัยที่ไม่เคยจบปัญหาที่ไม่เคยแก้ เพราะแค่ไม่มีใครทวงถาม แบบนี้มันถูกหรอคะ


คุณลุงโชคดีนะคะที่มีแฟนคลับที่รอและพร้อมจะรับฟังนิทานเรื่องใหม่ๆ ของคุณลุงเสมอโดยไม่คิด ถามถึงเรื่องเก่าที่ยังไม่ได้คำตอบ จนกลายเป็นว่าตอนนี้เค้าสับสนและงงกันไปหมดหรือเปล่าคะจากการกระทำของลุง ว่าอันไหนควรเชื่อได้บ้าง

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/sah0e76v_fw

คุณอาจสนใจ

Related News