'ปอ' รับกินยา 'อัลปราโซแลม' คืนแตงโมตกเรือ - แพทย์ชี้ช่วยนอนหลับ ไม่กระตุ้นอารมณ์ทางเพศ

เมื่อวานนี้ (10 พ.ค.) พ.ต.ท.กีรป กฤตธีรานนท์  เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เปิดเผยกับทีมข่าวการเมือง ช่อง 3 ถึงการตรวจพบยาเสียสาวในร่างการของบุคคลบนเรือ ในคดีของ คุณแตงโม นิดา ว่า เรื่องนี้ สืบเนื่องจากเมื่อเดือนมีนาคม ทนายรณรงค์ แก้วเพชร ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ได้ยื่นเรื่องร้องเรียนขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดิน ตรวจสอบการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการทำคดีว่า เป็นการเลือกปฏิบัติหรือไม่ เนื่องจากขั้นตอน ในการตรวจหาสารเสพติดและแอลกอฮอล์ในร่างกายของ คนบนเรือทั้ง 5 คน มีการตรวจเพียง 3 คน และอีก 2 คนไม่ได้รับการตรวจ

พ.ต.ท.กีรป กล่าวว่าหลังรับเรื่องร้องเรียน ผู้ตรวจการแผ่นดิน ได้ประสานไปยังหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องให้ชี้แจงข้อเท็จจริง ได้แก่ ตำรวจภูธรภาค1 และ สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ โดย ในส่วนของ ตำรวจภูธรภาค1 ได้ข้อเลื่อนการให้ข้อมูลออกไปอีก 30 วัน ขณะนี้มีเพียง สถาบันนิติเวชวิทยา ที่ให้ข้อมูลมาแล้ว

ทั้งนี้ จากข้อมูลของ สถาบันนิติเวชวิทยา พบว่า การตรวจเลือด และ ร่างกายคนบนเรือนั้น มีการตรวจ 2 ครั้ง หลังเกิดเหตุการณ์ ครั้งแรก ยินยอมให้ตรวจ 3 คน ครั้งที่สอง ยินยอมให้ตรวจ 4 คน และจากการตรวจ พบว่า มี 1 คน ที่ได้รับการตรวจ มีสารเสพติดอยู่ในร่างกาย เป็นสารที่มีฤทธิ์ต่อจิตประสาท คล้ายกับยาเสียสาว แต่อาจจะไม่ได้เป็นยาเสียสาวโดยตรง เพราะมีข้อมูลการใช้ยานี้ในทางการแพทย์ สำหรับผู้ป่วยด้วย

ย่างไรก็ตามเรื่องนี้ เป็นเรื่องที่ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องไปพิจารณาว่า การพบสารเสพติดหรือยาประเภทนี้ จะมีความผิดตามกฎหมายใดหรือไม่และเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างไร แต่ในส่วนของ ผู้ตรวจการแผ่นดินมีหน้าที่ ตรวจสอบในส่วนการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐ เพื่อดำเนินการทั้งทางปกครองและทางวินัย หากพบว่า มีการเลือกปฏิบัติ หรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สารที่พบในร่างกายของบุคคล บนเรือ 1 คน นั้น เป็นสาร อัลปราโซแลม ซึ่งเป็นวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 ตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุข อยู่ภายใต้การควบคุมของประมวลกฎหมายยาเสพติด เป็นสารในกลุ่มเบนโซไดอาซีปีน (Benzodiazepine) ใช้รักษาอาการในกลุ่มโรควิตกกังวล และตื่นตระหนก รวมไปถึงภาวะนอนไม่หลับ และหากใช้ติดต่อกันเป็นเวลานานอาจทำให้เกิดการเสพติดได้

ทั้งนี้ ต่อมา 'ปอ ตนุภัทร' ได้ยืนยันกับทีมข่าวช่อง 3 ว่า ตนไม่ได้ยอมรับว่าใช้ 'ยาเสียสาว' และไม่เคยใช้ยาเสียสาว แต่ยาที่กินคือ 'ยาคลายเครียด' ที่มีชื่อว่า Alprazolam (อัลปราโซแลม) โดยคืนที่เกิดเหตุแตงโมตกเรือนั้น พอกลับบ้านมา ตนยังอยู่ในอาการช็อก ตกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น ส่งผลให้นอนไม่หลับ

จึงบอกลูกน้องว่าให้ไปหาซื้อยาคลายเครียดมาให้หน่อย ซึ่งก็ได้กินยาตัวนี้เข้าไป 1 เม็ด ขนาด 0.5 มิลลิกรัม ซึ่งข้อมูลจากกูเกิ้ลก็บอกชัดเจนว่าเป็นยาที่ทำให้นอนหลับ ผ่อนคลาย เท่านั้น พอวันรุ่งขึ้นที่ตนไปตรวจร่างกาย จึงพบสาร Alprazolam

ทั้งนี้ มีหลายคนมองว่า ยาตัวนี้เป้นยาควบคุม หาซื้อไม่ได้ในร้านขายยา คุณปอบอกว่า ลูกน้องเอายามาให้ ลูกน้องบอกว่าไปฉีดสเต็มเซลล์ที่คลินิกแห่งหนึ่ง คุณหมอให้มา แต่ตนเองไม่ได้กิน จึงเอามาให้คุณปอกิน

ด้าน พลตำรวจตรีสุพิไชย ลิ่มศิวะวงศ์ ผู้บังคับการสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ได้กล่าวว่า กรณีพบสารอัลปราโซแลม หนึ่งในพยานเพศชาย ที่อยู่บนเรือกับแตงโม ยืนยันว่า ยากลุ่มดังกล่าว มีฤทธิ์ต่อจิตประสาท โดยมีฤทธิ์คลายกังวล หรือคลายเครียด ใช้ในการรักษา โรคเครียด ลมชัก นอนไม่หลับ ไม่มีคุณสมบัติกระตุ้นทางเพศ แต่หากใช้ในปริมาณมาก อาจทำให้ผู้ใช้ง่วงนอน ส่วนที่เรียกว่า ยาเสียสาว เชื่อว่า เป็นการสื่อสารที่ผิดพลาด หวังผลให้เข้าใจผิด

ด้าน นายแพทย์ อิราวัต อารีกิจ (หมออั้ม) ได้ออกมาโพสต์อธิบายในเรื่องของยา Alprazolam หรือ "ยาเสียสาว" เผยว่ายาชนิดดังกล่าวเป็นยารักษาอาการวิตกกังวล ไม่ได้มีฤทธิ์กระตุ้นอารมณ์ทางเพศผู้ใช้ แต่อาจมีอาการง่วงซึม เบลอ หรือตื่นมาพร้อมกับความทรงจำระยะสั้นที่หายไป

จากกรณี พ.ต.ท.กีรป กฤตธีรานนท์ เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ได้เปิดเผยผลการตรวจเลือดพยานบุคคลในเรือ ในคดี น.ส.ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีระพงษ์ หรือ แตงโม ดาราสาวที่เสียชีวิต โดยว่าพบสารกลุ่มเบนโซไดอาซิปินส์ ชนิด Alprazolam หรือยาเสียสาว จำนวน 1 ราย

โดย เฟซบุ๊ก "อั้ม อิราวัต" หรือ นายแพทย์ อิราวัต อารีกิจ ได้ออกมาโพสต์อธิบายในเรื่องของยา Alprazolam หรือ "ยาเสียสาว" โดยระบุว่า "อ่านข่าวแล้วงงๆ เรื่องยา Alprazolam ซึ่งชื่อทางการค้า ยี่ห้อที่คุ้นหูสุด คือ Xanax ประเด็นอยู่ที่สื่อเล่นคำ ว่าเป็น ยาเสียสาว หรือยาเสียตัว จนกลายเป็นความเชื่อผิดๆ จริงๆ แล้ว มันเป็นยารักษาอาการวิตกกังวล อาการแพนิก (ตื่นตระหนก) รวมไปถึงโรคซึมเศร้า บางครั้งใช้เป็นยานอนหลับในกรณีที่จำเป็น

โดยตัวยาจะไม่มีสี ไม่มีกลิ่น และแน่นอนครับ ว่ายาในกลุ่มนี้ไม่ได้มีฤทธิ์กระตุ้นอารมณ์ทางเพศผู้ใช้ หากรับประทานเองก็จะมีอาการง่วงซึมและเป็นยาอันตราย หากรับประทานร่วมกับยาอื่นๆ โดยเฉพาะหากใช้ร่วมกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือแม้แต่การใช้ร่วมกับยาเสพติดชนิดอื่นๆ การใช้ในทางอาชญากรรม กับบุคคลอื่น ใช้เพื่อหวังผลให้ผู้อื่น ง่วง หลับ ซึม เบลอ หรือตื่นมาพร้อมกับความทรงจำระยะสั้นที่หายไป เพื่อก่ออาชญากรรมในทรัพย์สินและร่างกาย

กรณีที่เป็นข่าวดังในขณะนี้หากเป็นการตรวจ ณ วันเกิดเหตุหากร่างผู้เสียชีวิตไม่มี Alprazolam ในร่างกาย โอกาสจะเป็นอาชญากรรม ในประเด็นเรื่องยาก็จะน้อยลง ในมุมของการมอมยา เพราะแค่ตรวจพบในร่างกายผู้ต้องหามันบอกอะไรไม่ได้มาก บอกได้แค่ว่ามีการใช้ยา และแน่นอนว่าใช้กับตัวเขาเอง ด้วยเหตุผลอื่นๆ แต่หากเป็นกรณีตรวจพบยาในร่างผู้เสียชีวิต จะเป็นอีกประเด็นหนึ่งที่พลิกคดีได้ และแน่นอนว่าผลจะคลาดเคลื่อนสูง หากไม่ได้รับการตรวจแบบทันท่วงที"

ด้าน เพจ Ramathibodi Poison Center ได้โพสต์ว่า

"Alprazolam เป็นยากลุ่ม​ benzodiazepine​ ซึ่งยากลุ่มนี้ใช้เพื่อ

- เป็นยานอนหลับ

- รักษาอาการวิตกกังวล

- ควบคุมอาการของโรคลมชัก

- บรรเทาอาการถอนสุรา

ยากลุ่มนี้มีหลายชนิดเช่น​ diazepam, lorazepam, clonazepam, chlordiazepoxide

ยากลุ่มนี้มีฤทธิ์​ทำให้ง่วงซึม​ การใช้ในระยะยาวสามารถดื้อยาต้องใช้ขนาดสูงขึ้นและติดได้​

เป็นยาควบคุมต้องมีใบสั่งยาจากแพทย์เท่านั้น​ ไม่ควรมีขายออนไลน์​นะครับ... ใครเจอแจ้ง​ อย.เลยนะครับ

.

พวกที่ใช้ในทางไม่ดีเช่น​ มีการใช้เพื่อเสพให้มึนเมา​ นำไปใช้เพื่อวางยาผู้อื่น

.

ฉะนั้นกลับไปดูยาของ​ พี่ๆน้องๆ​ คุณ​ลุงคุณป้า​ อากงอาม่าที่บ้าน... ท่านอาจกินยากลุ่มนี้เพื่อช่วยนอนหลับหรือควบคุมอาการโรคต่างๆได้โดยไม่ได้จงใจกินไปให้ตัวเองเสียสาวนะครับ

.

แนะนำพาดหัวข่าวว่าตรวจพบยา​ alprazolam​ นะครับ​ แล้วค่อยมีคำอธิบายยานี้สักนิดจะดีมาก... อากง​ อาม่าที่กินเพื่อบรรเทาอาการนอนไม่หลับจะได้ไม่กังวลว่ากำลังกินยาเสียสาว... เดี๋ยว​นอนไม่หลับความดันขึ้นอีก -​___-"


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/wIw0LmuFhpI