'อัจฉริยะ' เปิดหลักฐาน 'แตงโม' ตกหัวเรือไม่ใช่ท้ายเรือ ยันเป็นคดีฆาตกรรม มั่นใจ 'แซน' ให้การเท็จ

อัจฉริยะ พร้อมคณะ เปิดหลักฐานฟันธงคดีแตงโม เป็น “ฆาตกรรม” ยกคลิปชี้เงาแตงโมตกจาก “หัวเรือ” มีคนทำให้ตก แฉมีกระบวนการสร้างหลักฐานเป็นเท็จ มีเจ้าหน้าที่รัฐขายข้อสอบให้ เพื่อทำหลักฐานใหม่ให้สอดรับกับคนบนเรือ และมั่นใจว่าแซน เป็นคนให้การเท็จ ลั่นหลักฐานสมบูรณ์พร้อมเปิด 26 เมษายน ลุยแจ้งความเอาผิดตำรวจชุดทำคดีวันนี้


บ่ายวานนี้ (วันที่ 20 เม.ย.65) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ จัดแถลงข่าวเปิดหลักฐานใหม่คดีการเสียชีวิตของแตงโม นิดา ที่ โดยระบุว่าเชื่อว่าหลักฐานที่นำมาแถลงข่าววันนี้ เป็นหลักฐานที่ไม่มีใครเคยเห็นมาก่อน และในวันนี้จะเป็นการแถลงข่าวบางส่วนก่อน และจะมีการแถลงข่าวครั้งต่อไปในวันที่ 26 เม.ย. โดยละเอียดทั้งหมด

เพราะตอนนี้ยังต้องรอความสมบูรณ์ของหลักฐานบางชิ้น ซึ่งหลักฐานทั้งหมดจะชี้ให้เห็นว่า แตงโม ไม่ได้ตกท้ายเรือตามคำให้การของแซน แต่ตกที่หัวเรือ โดยที่มีคนทำให้ตก และยังมีขบวนการสร้างหลักฐานเท็จ เพื่อประกอบคำให้การเท็จของแซนด้วย

นายอัจฉริยะ ได้เปิดคลิปวงจรปิดที่เป็นหลักฐานเด็ดที่เห็นว่า แตงโมไปนั่งที่ท้ายเรือจริง ในเวลา 22.34.10 น. ซึ่งเป็นเวลาที่ตำรวจบอกว่าแตงโมพลัดตกเรือ แต่ภาพที่ตนมี ชี้ให้เห็นว่า แตงโมไม่ได้ตกเรือ แต่ลุกขึ้นยืนแล้วเดินกลับขึ้นเรือไป โดยภาพนี้เป็นภาพจากกล้องวงจรปิดของ กฟผ. แม้ตำรวจจะมีคลิปนี้แล้ว แต่ตำรวจดูไม่เหมือนที่ตนดู ซึ่งพี่ชายของแตงโมก็ได้เห็นหลักฐานแล้ว ก็เชื่อว่าน้องสาวไม่ได้ตกท้ายเรือ

ด้านนายวัชรไกรศร เกตุจรัส ผู้เชี่ยวชาญด้านแสง อธิบายว่า จากภาพจะเห็นแสงท้ายเรือ และมีเงาคนพาดผ่าน จากนั้นผ่านไปประมาณ 10 วินาที เงานั้นได้หายไป แต่ไม่ได้หายไปทางซ้ายตามคำให้การของแซนว่าแตงโมตกเรือไปทางซ้าย สังเกตจากไฟสีฟ้าที่เสาเรือ หากมีคนเดินผ่าน ไฟนี้จะดับลง

ส่วนเรื่องขบวนการสร้างหลักฐานเท็จตั้งข้อสังเกตถึงเรื่องการตรวจเส้นผมบนเรือของตำรวจ ซึ่งนายอัจฉริยะ ได้เปิดเผยภาพจากกล้องวงจรปิดตอนเรือไปเติมน้ำมัน ว่าทั้งกระติกและแตงโม มีการหวีผมบนเรือ ดังนั้น เส้นผมควรจะร่วงอยู่บนเรือ

แต่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ไปเก็บหลักฐาน 3 ครั้งแรก กลับไม่พบเส้นผมเลย แต่เพิ่งมาพบในครั้งที่ 4 อีกทั้งดีเอ็นเอของเส้นผมยังตรงกับของแตงโมเพียงคนเดียวทั้งหมด ไม่มีของคนอื่นบนเรือ ซึ่งหากตำรวจยังตอบคำถามตนไม่ได้ จะปิดคดีในวันที่ 26 เม.ย. ได้อย่างไร

สำหรับประเด็นเรื่อง แซน ไม่ได้นั่งท้ายเรือ นายอัจฉริยะ ยืนยันอีกว่า มีหลักฐานการตรวจสอบดีเอ็นเอว่า แซนนั่งอยู่ตรงเบาะด้านหลังคนขับและมีภาพวงจรปิดที่ชี้ให้เห็นด้วยว่าพบแซนนั่งอยู่ท้ายเรือจนถึงแค่เวลา 22.06 น. ซึ่งขัดแย้งกับทางตำรวจ

ส่วนเรื่องบาดแผลที่ต้นขาด้านขวา ตนเชื่อว่าไม่ได้เกิดจากใบพัดเรือหรือฟินเรือแน่นอน โดยอ้างอิงจากบทวิเคราะห์จากอดีตศัลยแพทย์โรงพยาบาลพระมงกุฏ ที่ระบุข้อสังเกตลักษณะบาดแผลของแตงโมว่ามีลักษณะขอบของบาดแผลเป็นรอยตัดที่คมมากจึงน่าจะต้องเกิดจากของมีคมกรีดหรือบาดเพียง 1 ที โดยตนมีหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ที่ชี้ชัดด้วยว่าบาดแผลที่ต้นขาขวาของแตงโมเกิดจากสิ่งอื่น แต่จะขอเปิดเผยหลักฐานชิ้นนี้ในการแถลงข่าวครั้งต่อไป เพราะยังไม่สมบูรณ์

นายอัจฉริยะ บอกด้วยว่า จากหลักฐานทั้งหมดที่มี ทำให้ตนสรุปได้ว่า คดีนี้เป็นการฆาตกรรม โดยเกิดจากการมึนเมา และมีอารมณ์ทางเพศ ซึ่งนายอัจฉริยะและเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น ที่มีขบวนการสร้างหลักฐานเท็จ เชื่อว่ามีคนมีสีอยู่เบื้องหลัง ที่ทำการขายข้อสอบให้กับขบวนการนี้ ในการจะทำหลักฐานขึ้นมาใหม่ให้สอดคล้องกับคำให้การคนบนเรือ ซึ่งตนมั่นใจว่าแซนให้การเท็จ

ส่วนในวันพรุ่งนี้ (21 เม.ย.) เวลา 10.00 น. นายอัจฉริยะ จะเดินทางไปที่ บก.ปปป. เพื่อแจ้งความให้ดำเนินคดีกับคณะพนักงานสอบสวนของตำรวจภูธรภาค 1 ในข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ปล่อยให้มีบุคคลสร้างพยานหลักฐานเท็จขึ้นมา

ส่วนผู้เชี่ยวชาญด้านแสง จะไปให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนที่ สภ.เมืองนนทบุรี ในวันที่ 30 เม.ย. เวลา 10.00 น. โดยได้พูดคุยกับรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 แล้ว ว่ากรณีของตนสามารถแยกออกจากสำนวนคดีหลักได้ หากคำให้การมีประโยชน์ก็จะส่งให้อัยการเพิ่มเติมแยกคนละคดี

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/Y30i2lGhM_4