อาชญากรรม

"ลุงนิต" แจ้งความเอาผิด "ส.ส.เต้" ฐานหมิ่นประมาท ทำให้เสื่อมเสีย

โดย kanyapak_w

23 มี.ค. 2565

169 views

ลุงพายเรือ เผชิญหน้า ส.ส.เต้ มงคลกิตติ์ ก่อนลั่น ไม่ใช่ลุงนิต คนที่เห็นคือคนตกปลา ไม่ใช่คนพายเรือ ระบุต้องไปดูคลิปดีๆ ขณะที่ลุงนิต ดำเนินคดี ส.ส.เต้ ฐานหมิ่นประมาท ทำให้เสื่อมเสีย



เมื่อช่วงเช้า ลุงนิต หรือ นายวินิต ตรีปัญญา คนพายเรือหาปลา ที่ปรากฎอยู่ในภาพกล้องวงจรปิด ที่ นายมงคลกิตต์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ นำมาเปิดแถลงข่าวเมื่อวานนี้ ได้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี ในฐานะพยานแวดล้อมแล้ว นายมานิต ยืนยันว่าเจอแต่ขอนไม้ ไม่ได้เจอคน




หลังจากการให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวนเสร็จ ลุงนิต ก็ได้มาให้สัมภาษณ์กับทีมข่าว โดยเปิดเผยว่า ได้แจ้งความดำเนินคดี กับ ส.ส.คนดัง ในข้อหา หมิ่นประมาทแล้ว เนื่องจากสร้างความเสียหายให้กับตนเอง และครอบครัว โดนคนรอบข้างมองไม่ดี และบอกว่าเป็นคนใจดำ ส่วนคนในครอบครัวก็รู้สึกเครียด และไม่คิดว่าเรื่องราวจะเป็นแบบนี้




ระหว่างที่ให้สัมภาษณ์ทีมข่าวอยู่นั้น ส.ส.เต้ ที่เพิ่งเสร็จจากให้เข้าให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวน ก็เดินออกจากห้อง มาเผชิญหน้ากับ ลุงนิดพอดี ทีมข่าวเลยถามลุงนิดว่ามีอะไรอยากสอบถาม ส.ส.เต้หรือไม่ และ ส.ส.เต้ จะคุยกับลุงนิดหรือไม่ ส.ส.เต้ ตอบว่า เดี๋ยวพี่รีบไปดูชุดประดาน้ำ ก่อนจะหันมาคุยกับผู้สื่อข่าวและทีมงานว่า “คนนี้ไม่ใช่ไม่ใช่หรอ คนที่เห็นคือคนตกปลา ไม่ใช่คนพายเรือ ต้องไปดูคลิปดีๆ




จากนั้น ส.ส.เต้ได้ลงไปแถลงกับสื่อมวลชน หลังเข้าให้ข้อมูลนานกว่า 3 ชั่วโมง เปิดเผยว่า ได้ให้ปากคำไปทั้งหมด 21-22 ประเด็น รวมทั้งได้สอบถามไปยังพนักงานสอบสวนว่า ยังต้องการข้อมูลในประเด็นไหนเพิ่มเติม ซึ่งตนเองจะช่วยหา ส่วนประเด็นเรื่องเรือลำที่2 และกระโปรงสีขาว ตนก็จะช่วยหาให้





สำหรับการงมหากระโปรงสีขาวในวันนี้นั้น เป็นการร่วมมือระหว่างตน กับทางมูลนิธิที่จะช่วยกันหาผ้าคลุมสีขาวผืนนี้ เนื่องจากตนเชื่อว่า จะมีความเกี่ยวข้องกับบาดแผลที่เกิดขึ้นบนร่างของแตงโม ซึ่งตนก็อยากให้เจอภายในวันนี้



โดยผู้สื่อข่าวสอบถามว่า ได้พบลุงคนพายเรือหรือไม่ นายมงคลกิตติ์ เผยว่า ได้พบแล้ว แต่รู้สึกว่า ไม่น่าจะใช่คนเดียวกันกับคนที่อยู่ในคลิป โดยดูจากอัตลักษณ์ภายนอก ตนมีความรู้สึกว่าไม่น่าจะใช่คนเดียวกัน



จากนั้น นายมงคลกิตติ์ ได้ขึ้นรถเพื่อเดินทางไปยังท่าเรือพิบูลสงคราม 1 ซึ่งเป็นจุดที่จะมีการงมผ้าคลุมสีขาว




ขณะที่นายสิระ เจนจาคะ อดีต ส.ส. กทม. พรรคพลังประชารัฐ เดินทางมาที่ สภ.เมืองนนทบุรี เพื่อมาเป็นที่ปรึกษาให้กับลุงนิต และดำเนินคดีกับ ส.ส.เต้ ซึ่งได้มีการพูดคุยทางโทรศัพท์ กับลุงนิต และได้รับการประสานให้มาช่วยเหลือด้านกฎหมาย เพราะสังคมลงความเห็นว่าลุงนิตเป็นคนไม่ดี นอกจากนี้ยังจะมีการจะมีการรวบรวมหลักฐานร่างหนังสือ เพื่อยื่นฟ้อง ป.ป.ช. เพื่อให้สอบจริยธรรมต่อในสัปดาห์หน้า






ส่วนที่นายนายมงคลกิตติ์ ระบุว่าไม่ขอเจอตนนั้น วันนี้ตนจะมาแจ้งความอยู่แล้ว เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบว่าที่ผ่านมา การเคลื่อนไหวของนายมงคลกิตติ์ มีการนำข้อมูลเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์หรือไม่ และหากสอบสวนแล้วพบว่าผิดก็ให้ดำเนินคดี เพราะทำประชาชนสับสน ทำให้ไม่เชื่อมั่นในการทำงานของตำรวจ ดังนั้นการจะพูดอะไรต้อง หลักฐานควรได้รับการพิสูจน์ก่อน



ทั้งนี้การกระทำของนายมงคลกิตติ์นั้น ต้องดูว่าผลประโยชน์ต่อใคร ตำรวจ หรือแตงโม หรือนายมงคลกิตติ์ เพราะการแถลงข่าวแต่ละครั้งก็ใส่เสื้อพรรค และตอนนี้ใกล้ยุบสภาฯ มองว่าเป็นผลทางการเมืองหรือไม่ ดังนั้นประโยชน์อาจจะตกอยู่ที่นายมงคลกิตติ์



ขณะที่ก่อนหน้านี้ ส.ส.เต้ บอกให้นายสิระ ว่าก่อนจะแจ้งความ ให้ไปจ่ายเงินที่ค้างชำระหลังจากพ้นสภาพการเป็น ส.ส. ก่อน นายสิระ ตอบกลับโดยระบุว่า หนังสือยังไม่ถึงตน ทั้งนี้ตนมีเงิน 5-6 ร้อยล้าน



ทั้งนี้ยืนยันว่า ตนได้ถูกขอร้องให้มาช่วย ตอนแรกจะมาดำเนินคดีเงียบๆ แต่ชัดเจนว่านายมงคลกิตติ์ ทำให้เจ้าหน้าที่เสียเวลา และเมื่อไม่ทำตาม ก็ทำให้ประชาชนว่ากล่าวตำรวจ วันนี้บุคคลเสียหายคือแตงโม และตำรวจก็สรุปสำนวนคดีไม่ได้



ขณะที่ 5 คนบนเรือก็ใช้ชีวิตไม่ได้ เพราะถูกกล่าวหาว่าเป็นฆาตรกร ทั้งที่ยังไม่ได้สรุปสำนวน อย่างไรก็ตามการที่จะเป็นพลเมืองดี เมื่อมีหลักฐานก็ควรให้พนักงานสอบสวน แค่สิ่งที่ทำวันนี้สร้างความเสียหายให้หลายคน ดังนั้นตนจึงต้องดำเนินการแจ้งตำรวจให้ตรวจสอบทุกคำพูดของนายมงคลกิตติ์ หากเรื่องไหนเท็จต้องดำเนินคดี เพื่อหลังจากนี้จะต้องมีการระมัดระวังในการพูด รวมถึงการเสนอพยานหลักฐาน เพื่อความเป็นธรรมของบุคคลที่ถูกกล่าวหา

คุณอาจสนใจ