'หมอพรทิพย์' ยันไม่ได้พูด หยดเลือดพลิกคดี 'แตงโม' ชี้ไม่แฟร์กับคนตาย คนบนเรือไม่ถูกตรวจทันที

วันที่ 20 มีนาคม 2565 แพทย์หญิง คุณหญิง พรทิพย์ โรจนสุนันท์ อดีตผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และสมาชิกวุฒิสภา ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการชันสูตรศพ ซึ่งร่วมสังเกตการณ์การผ่าชันสูตรศพครั้งที่ 2 ของแตงโม-นิดา พัชรวีระพงษ์

โพสต์เฟซบุ๊กยืนยันว่า “ไม่ได้พูด” ตามที่รายการทนายคู่ใจ ของทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ทางยูทูบที่ได้นำเสนอเรื่อง หยดเลือดพลิก “คดีแตงโม” เป็นการฆาตกรรม ?

ทั้งนี้ในรายการดังกล่าว ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ได้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับบุคคลหนึ่งที่เรียกว่า “พี่หมู” ซึ่งได้กล่าวอ้างถึงคำให้สัมภาษณ์ของหมอพรทิพย์ ที่บอกว่า มีก้อนเลือดที่บริเวณขาข้างขวา ทำให้สรุปว่าเป็นการฆาตกรรม

ผู้สื่อข่าวสอบถามไปยัง แพทย์หญิงคุณหญิง พรทิพย์ โรจนสุนันท์  เผยว่า ทนายคนดังกล่าวและคุณหมอที่คุยด้วยตามคลิป ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ แต่เป็นการฟังต่อ ๆ กันมา ตนเองไม่โกรธแต่อยากจะเตือนว่า ถ้าตนพูดเช่นนั้นจริง ป่านนี้ทุกสื่อคงลงข่าวหมดแล้ว แต่นี่เป็นการคุยกันและอารมณ์คู่สนทนามีอารมณ์เป็นห่วงคดี กลายเป็นเอาอารมณ์นั้นมาใส่ว่าหมอพูด ยืนยันตนเองไม่เคยพูดว่าเป็นการฆาตกรรมหรือไม่ฆาตกรรม

แต่ตอนที่แถลงที่สถาบันนิติวิทยาศาสต์ รพ.ธรรรมศาสตร์ฯ นั้น ตนทำหน้าที่เพื่อจะสื่อว่า สิ่งที่คุณแม่สงสัย 11 ประเด็น ตนเห็นอะไรบ้าง ความจริงคือความจริง หมอจากสถาบันนิติเวชฯ ได้ตรวจชันสูตรอย่างดีทั้งร่องรอยบาดแผล รวมทั้งการที่จะบอกว่ามีรอยช้ำบริเวณต้นขาด้านซ้าย รวมทั้งได้ตรวจหายูเรียในแผ่นผ้าอนามัย เพื่อพิสูจน์ว่ามีปัสสาวะหรือไม่  แต่หมอยังไม่ได้สรุป ทุกคนพยายามจะทำให้ความจริงปรากฎ บางคนฟังการนำไปแปลต่อ

หมอพรทิพย์ ระบุว่า สาเหตุการเสียชีวิตของแตงโม ชัดเจน แต่บาดแผลบนตัวยังอธิบายไม่ได้ ซึ่งไม่อาจสรุปได้ว่าเป็นใบพัดเรือ จึงจำเป็นต้องสืบสวนสอบสวนตรวจสอบต่อ และก็ยังสรุปว่าเป็นอุบัติเหตุล้วน ๆ ไม่ได้ หรือสรุปว่าถูกกระทำก็ยังไม่ได้ เพราะแตงโม มีปริมาณแอลกอฮอร์ที่ตรวจพบในลูกตา 93  มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์

ขณะที่เพื่อน 5 คน บนเรือไม่ยอมตรวจแอลกอฮอล์ แล้วมาตรวจภายหลัง ตนมองว่าไม่แฟร์กับคนตาย ทำไมไม่ตรวจทันที อีกทั้งมีการให้ข่าวว่าไม่พบปริมาณแอลกอฮอล์ ไม่เจอแก้วและขวดไวน์ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าพยานหลักฐานถูกทำลาย

คุณหมอ พบบาดแผลที่ขาด้านหลังมีลักษณะเฉพาะเกือบ 20 รอย  (ไม่ใช่บาดแผลลึก/หมอพรทิพย์ไม่ขอระบุว่าขาข้างไหน ) ที่อยากจะจำลองว่าตรงกับวัตถุอะไร ไม่ขออธิบายลงรายละเอียด หมอรู้ว่ามันมีอะไรบางอย่างไม่ยอมไปด้วยกัน หลักสากลต้องบูรณาการร่วมกัน

สัญญาณครั้งที่ 1 เหมือนมีการแทรกแซง โดยการที่คนบนเรือหายไปแล้วไปรวมตัวกันกลับมาให้ข้อมูล  

สัญญาณครั้งที่ 2 เรือไม่เป็นวัตถุพยาน คนก็ไม่เป็นหลักฐานโดยอ้างว่าเขายังไม่เป็นผู้ต้องหา มันแปลก

สัญญาณครั้งที่ 3 สั่งย้ายศพ เดิมจะส่งไปชันสูตรที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม แต่กลับเปลี่ยนสถานที่ไปชันสูตรที่นิติเวช รพ.ตำรวจ  ทำให้สังคมไม่วางใจว่าแตงโม จะได้รับความยุติธรรมหรือไม่

“คดีนี้เรื่องศพไม่น่าใช่ปัญหา ปัญหาใหญ่อยู่ที่การรวบรวมพยานหลักฐาน ตัวคดีไม่ยากเพราะที่เกิดเหตุมันบังคับ มันคือเรือและคนทั้ง 5 บวกผู้ตาย ศพไม่สามารถตอบได้หมด คดีนี้มีการปล่อยให้เรือหลุดออกจากห่วงโซ่วัตถุพยาน ทำให้ไม่ได้เก็บพยานหลักฐานคนบนเรือโดยทันที มาเก็บภายหลังแล้วมาใช้ในคดีไม่ได้ มันมีอะไรไม่ตรงตั้งแต่เริ่มต้น”  

ทั้งนี้หมอพรทิพย์ ยังระบุอีกว่า การผ่าชันสูตรศพแตงโม รอบสอง ตนเข้าไปสังเกตการณ์เป็นที่ปรึกษา มีข้อมูลครบแต่ขอไม่บอก เป็นหน้าที่ที่เราจะทำงานต่อ คนที่จะตอบได้คือหมอที่ทำการชันสูตรครั้งแรกกับครั้งที่สอง เรามีกระบวนการไม่อยากให้สังคมสับสน “ไม่มีอะไรฝืนความจริง เชื่อว่าความจริงจะปรากฎทั้งหมด”

“คดีแตงโม เป็นเหมือนยอดเขาน้ำแข็ง ของหุบเขาของปัญหากระบวนการยุติธรรม หลายคนกำลังสนใจเพียงแค่ว่าความจริงคืออะไร ช่วยกันสืบ ขนาดคดีแตงโม ยังเป็นแบบนี้ ถ้าเป็นประชาชนที่ไม่มีที่มาที่ไปคงยากมากที่จะทำให้เกิดความยุติธรรมขึ้น เพราะฉะนั้นภาพที่เห็นคือภาพใหญ่ของกระบวนการยุติธรรม ที่ว่าด้วยเรื่องการพิสูจน์ศพ การเก็บพยานหลักฐาน ที่สำคัญที่สุดคือสิทธิที่จะรับรู้ และเรื่องกระบวนการสอบสวน”

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/pgEr0n8Swk4