'คุณแม่-ทนายเดชา' ฟังผลนิติเวช ชี้ 'แตงโม' ไม่มีร่องรอยถูกทำร้าย-ฟันไม่หัก ยันรู้แล้วเกิดอะไรบนเรือ

ภายหลังที่นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่ของแตงโม นิดา พร้อมทนายความเข้ารับฟังการชี้แจงผลชันสูตรศพ ของทีมแพทย์นิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ และความคืบหน้าทางคดีของแตงโม นิดา จะตำรวจชุดคลี่คลายคดีโดยใช้เวลานานกว่า 3 ชั่วโมง จากนั้น 18.30 น.คุณแม่ภนิดาและทนายความ เดินออกมาจากอาคารสัจธรรม ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน

โดยนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความที่ปรึกษา เปิดเผยว่า ส่วนของนิติเวช แพทย์ได้ตอบทุกคำถามแล้ว โดยเฉพาะประเด็นฟันหัก การถูกตีที่ศีรษะ บาดแผลต่าง ๆ ไม่พบร่องรอยฟันหัก ไม่มีร่องรอยการทำร้ายร่างกาย

โดยบาดแผลที่ขาไม่มีลึกไปถึงกระดูก เป็นเพียงเส้นเอ็น และเกิดจากของมีคม แต่ไม่สามารถระบุได้ว่ามาจากสิ่งใด เป็นบาดแผลที่เกิดขึ้นก่อนเสียชีวิต แต่ไม่สามารถระบุได้ว่าเกิดบนเรือ หรือหลังตกเรือ ส่วนการเน่าเปื่อย ตาถลน ลิ้นจุกปากเป็นไปตามปกติ

ส่วนภาพศพที่หลุดรอดออกไปก่อนหน้านี้ และเกิดการตั้งข้องสงสัย เป็นภาพที่ยังไม่ทำความสะอาดศพ ทำให้เหมือนมีรอยฟกช้ำ เหมือนถูกทำร้ายร่างกาย ซึ่งตามขั้นตอนทางนิติวิทยาศาสตร์ จะมีการถ่ายภาพ ก่อนและหลังชันสูตร ซึ่งก่อนชันสูตรจะต้องทำความสะอาดร่างก่อน

ทั้งนี้เพื่อพิสูจน์ว่า ร่างกายทั้งหมดถูกทำร้ายร่างกายหรือไม่ และแพทย์มีการลอกหนังออกมาทั้งหมด พบว่า ไม่มีรอยช้ำเลย ซึ่งถือว่าวันนี้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญหลายคนได้มีการอธิบายผลการชันสูตรโดยละเอียด ส่วนสาเหตุที่ทำให้เสียชีวิตมาจากการขาดอากาศหายใจ แต่บาดแผลไม่ได้ทำให้เสียชีวิต

ทั้งนี้จากได้หารือคุณแม่คุณแตงโม ยังจะเดินหน้ายื่นเรื่องให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรมชันสูตรศพรอบ 2 เพื่อความโปร่งใส และไขข้อข้องใจของสังคม ซึ่งทางนิติเวชตำรวจก็ยินดีเพื่อให้เกิดความโปร่งใสในสังคม เพราะหลายคนยังแคลงใจในการทำงานของตำรวจ หากผลตรงกันก็ไม่มีผลต่อรูปคดี แต่หากไม่ตรงกัน ก็ขึ้นอยู่กับว่าศาลจะพิจารณาผลตรวจของที่ใด แต่ถ้าผลขัดกันก็ขึ้นกับพนักงานสอบสวนว่าจะเลือกผลการชันสูตรใด

ทนายเดชา ยังพูดถึง ความคืบหน้าทางคดีในการสืบสวน ที่มีทั้ง ผบช.ภ.1 และชุดสืบสวน เข้าร่วมชี้แจงด้วย โดยได้ทำการสอบปากคำไปแล้วเกือบ 100 ปาก  ตรวจสอบกล้องวงจรปิด มีจำนวนมากจัดเป็นกลุ่ม และมีการแบ่งชุดตรวจสอบคลิปกว่า 200 คลิปจากโซเชียลนำไปวิเคราะห์ข้อมูล และปัจจุบันทำการสืบสวนอยู่

ส่วนงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐาน ทั้งพยานบุคคล พยานเอกสาร พยานผู้เชี่ยวชาญ และยังรอผลพิสูจน์หลักฐาน อีก 19 รายการ เพื่อนำมาประกอบสำนวนคดี โดยตำรวจจะยังไม่สรุปสำนวนคดี และตอนนี้ยังมีการแจ้งข้อหาเพียงแค่ข้อหาประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย แต่ยังรอผลของพิสูจน์หลักฐาน และรอคำให้การเพิ่มเติมต่าง ๆ ซึ่งถ้ามีพยานหลักฐานไปถึงใคร ก็จะแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม

การสืบสวนสอบสวนมีคณะตำรวจชั้นผู้ใหญ่ชี้แจงว่าได้สอบปากคำพยานไปเกือบ 100 ปาก กล้องวงจรปิดอีกจำนวนมาก และคลิปต่าง ๆ ในโซเชียล ตำรวจก็ตรวจสอบทั้งหมด ยกตัวอย่างเช่นคลิปวงจรปิดที่บอกว่ามีการดึงผมหรือตีศีรษะกันบนเรือ ก็เป็นวงจรปิดหลังจากแตงโมตกเรือไปแล้ว จึงไม่ใช่ความจริง ซึ่งคลิปทั้งหมดตำรวจเตรียมนำไปใช้เทคนิคเพิ่มความคมชัด เพื่อให้หลักฐานมีความชัดเจนมากขึ้น

ทนายเดชา ยืนยันว่า จากการที่ได้พูดคุยสอบถามในรายละเอียดที่สงสัย ทำให้ตอนนี้ทราบแล้วว่าเกิดอะไรขึ้นบนเรือ และพยานหลักฐาน จนถึง ณ ปัจจุบัน ยังไม่มีการทำร้ายร่างกายกันเกิดขึ้น ซึ่งก็ยังรอพยานหลักฐานอีก 19 รายการอยู่ว่า จะมีพยานหลักฐานที่ทำให้แจ้งข้อกล่าวหาได้หรือไม่ รวมถึงการแจ้งข้อกล่าวหาให้การอันเป็นเท็จ

จากการสอบถามชุดคลี่คลายคดี จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่ได้เชื่อว่าคำให้การของทั้ง 5 คน บนเรือว่าจะพูดความจริงทั้งหมด ซึ่งตำรวจก็ไม่ได้ให้ความสำคัญกับคำให้การของทั้ง 5 คนบนเรือด้วย ส่วนกรณีประเด็นการปัสสาวะท้ายเรือ ตำรวจก็ไม่ได้ให้ความสำคัญ ที่นำมาเป็นประเด็นในกาาแจ้งข้อกล่าวหา โดยจะเป็นการสืบพยานในชั้นศาลอีกครั้ง ซึ่งส่วนตัวพอทราบรายละเอียดแล้วแต่ไม่สามารถให้รายละเอียด

ส่วนเรื่องของการตรวจสารเสพติดที่ตรวจไป 3 คน ส่วนอีก 2 ไม่ยอมตรวจนั้น ตำรวจอธิบายว่าหากไม่ยินยอม ตามกฎหมายบังคับเขาไม่ได้ แต่ได้คุยกับชุดคลี่คลายคดีในการหาพยานหลักฐานอื่นมาทดแทน กรณีการเข้าเครื่องจับเท็จ ทนายเดชา บอกว่า มีการใช้แน่นอน แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้ จะต้องรอรวบรวมหลักฐานให้ครบก่อน แล้วจะมีการใช้เครื่องจับเท็จ อยากฝากสังคมด้วยว่า ถ้ารักแตงโมจริง อย่าปล่อยข่าวไม่รู้ที่มาที่ไป อย่างคลิปเหมือนดึงผม เป็นคลิปที่ถ่ายหลังจากแตงโมตกน้ำไปแล้ว เป็นเฟคนิวส์  

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/gg6kdWVWyLA