สอบมาราธอน งมเจอวัตถุพยาน คดี 'แตงโม' ผบ.ตร.ชี้ พยานหลักฐานยังเป็นอุบัติเหตุ

ความคืบหน้าการคลี่คลายคดี การเสียชีวิตของดาราสาว แตงโม นิดา ที่เกิดเหตุพลัดตกเรือ เมื่อวันที่ 24 ก.พ. 

วานนี้ (6 ก.พ. 65) ที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวน มีการเรียกเพื่อนในเรือมาสอบปากคำอีกครั้ง

เมื่อวานนี้ ก็มี นาย ตนุภัทร เลิศทวีวิทย์ หรือไอโซปอ //นาย ไพบูลย์ ตรีกาญจนานันท์  หรือโรเบิร์ต //นายนิทัศน์ กีรติสุทธิสาธร หรือ จ๊อบ //นางสาว อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ หรือกระติก // 4 คน ทยอยเข้าสอบปากคำ ตั้งแต่ช่วงสายจนถึงดึก ส่วน แซน วิศาพัช มโนมัยรัตน์ ขอเลื่อนให้ปากคำ

โดยทั้ง 4 คน เข้าไปให้ปากคำภายในอาคาร โดยเจ้าหน้าที่ ห้ามผู้สื่อข่าวเข้าไปในพื้นที่เด็ดขาด ต้องรอนอกรั้วข้างทาง ตลอดทั้งวันก็มีทนายความและกลุ่มเพื่อนสนิทแวะเวียนเข้าออก

นอกจากกลุ่มเพื่อนในเรือแล้ว ยังมีพยานแวดล้อมเข้าสอบปากคำ เช่น นางสาว สุรัตนาวี ภัทรานุกุล หรือ โบทีเค พร้อมสามี และ กู้ภัยที่เข้าช่วยเหลือและรับแจ้งวันเกิดเหตุ

มีรายงานว่า แนวทางการประชุมชุดสืบสวนสอบสวนคดี เป็นการประชุมเพื่อสอบถามรายละเอียดข้อมูลในคดี โดยเฉพาะข้อมูลบางอย่างที่ยังไม่ชัดเจนเกี่ยวกับเหตุการณ์บนเรือ และเหตุการณ์บางช่วงจังหวะที่ยังติดใจสงสัย

โดยมีรายงานจากแหล่งข่าวระดับสูง ระบุว่า จากการที่เจ้าหน้าที่จำลองเหตุการณ์และลงเรือ ตรวจหาข้อมูลและหลักฐานบางอย่าง เพื่อประกอบสำนวนคดีให้แน่นหนา และมีรายงานว่าข้อมูลหลักฐานที่ได้ อาจจะนำไปสู่การพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหาคนบนเรือ 1 ใน 5 คน เพิ่มเติม

ขณะเดียวกันการจำลองเหตุการณ์ในวันนี้ ยังมีการตรวจสอบความเร็วเรือขณะเกิดเหตุซ้ำอีกครั้งด้วย ซึ่งถือเป็นการจำลองเหตุการณ์ช่วงกลางวันเป็นครั้งแรก

สำหรับการสอบปากคำ ตำรวจแยกการสอบแต่ละคน โดยพบว่าช่วงเย็นซึ่งเป็นช่วงพักการสอบปากคำ พบว่า บริเวณประตูทางหนีไฟชั้น 3 น.ส.อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ หรือ กระติก หนึ่งในเพื่อนแตงโม ออกมายืนคุยโทรศัพท์ ระหว่างคุยก็ใช้มือจับหน้าผากและขมับ คล้ายกับมีอาการปวดศีรษะหรือเครียด เมื่อเห็นผู้สื่อข่าวก็เดินหลบเข้าไปข้างในอาคาร

ต่อมาเวลา 21:00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.อิจศรินทร์ ได้เดินทางลงมาจากห้องสอบสวน หลังถูกสอบปากคำนานถึง 7 ชั่วโมง ก่อนขึ้นรถยนต์ติดฟิล์มกรองแสงทึบ แล้วรีบปิดไฟภายในห้องโดยสาร ก่อนออกไปจากกองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธร ภาค 1 ทันที

หลังจากนั้น โบว์ TK ลงมาจากตึงกองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภาค 1 เวลา 23.00 น. หัลงสอบปากคำเสร็จ พร้อมแฟนและทนาย // ส่วน จ๊อบ ลงมาเวลา 23.05 น. // และตามมาด้วยโรเบิร์ตในเวลา 23.15 น. 

ด้าน พลตำรวจโทจิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 เปิดเผยว่า ขณะนี้คดีมีความคืบหน้าไปมากแล้ว โดยจะมีการกระชับวงการสืบสวนสอบสวนให้แคบลงในบางประเด็น เพื่อให้ได้คำตอบชัดเจน อธิบายข้อสงสัยได้ครบถ้วน  

ส่วนประเด็นสอบสวนมีประเด็นใหม่ กรณีที่มีพยานให้ปากคำอ้างว่า นายโรเบิร์ตโยนแก้วไวน์ หรือแก้วแชมเปญลงแม่น้ำเจ้าพระยา แต่ยังไม่ชัดเจนว่า โยนก่อนหรือหลังเวลาเกิดเหตุที่แตงโมตกเรือ และโยนลงไปด้วยสาเหตุใด ซึ่งในประเด็นนี้ นอกจากการสอบปากคำ ตำรวจยังได้จัดส่งนักประดาน้ำ ดำน้ำค้นหาวัตถุพยานในแม่น้ำเจ้าพระยา เมื่อช่วงเช้า ซึ่งพบแก้วต้องสงสัยในบริเวณใกล้เคียงกับจุดที่พบร่างของแตงโม

นอกจากนี้ ยังพบถุงบรรจุวัตถุสิ่งของไม่ทราบชนิดอยู่ใกล้กับแก้วต้องสงสัย จึงเก็บไว้เป็นวัตถุพยานและจะส่งตรวจหาตัวอย่างดีเอ็นเอเพื่อเทียบเคียงกับดีเอ็นเอของผู้ที่อยู่บนเรือ ก่อนจะพิจารณาว่า เกี่ยวข้องกับคดีการเสียชีวิตของแตงโมหรือไม่

ส่วนงานสืบสวน ทราบว่า ชุดสืบสวนสอบสวนกำลังมุ่งเน้นไปที่ประเด็น ลำดับช่วงเวลาการเกิดเหตุภายในเรือ ตั้งแต่ช่วงที่เรือเริ่มแล่นเข้ามาใกล้กับจุดเกิดเหตุ การขับเรือครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2

โดยมีการเปรียบเทียบกับพยานหลักฐานที่สามารถหาได้เพิ่มเติม เป็นภาพวงจรปิดจากสถานประกอบการแห่งหนึ่งที่อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งสามารถระบุ ระยะห่างของการขับเรือแต่ละครั้งได้ค่อนข้างชัดเจน ซึ่งพยานหลักฐานดังกล่าว จะมีผลต่อการคำสำนวนคดีของเจ้าหน้าที่ในคดีนี้ด้วย

ด้านทางแม่น้ำเจ้าพระยา เมื่อเวลา 11.30 น. วานนี้ (6 มี.ค. 65) พล.ต.ต.หญิง ชุติมา ชัยมุสิก ผบก.ศพฐ.1 (เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน) พร้อมทีมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนภาค 1 และเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญบริษัท Garmin (การ์มิน) เกี่ยวกับอุปกรณ์ดาวเทียมแผน GPS ทางเรือ

ได้นำเรือสปีดโบ๊ทลงพื้นที่ เพื่อสแกนค้นหาจำลองการทิ้งอุปกรณ์ต่างๆ ลงแม่น้ำ เพื่อค้นหาสิ่งของที่คาดว่าอาจจะเกี่ยวข้องกับคดีดาราสาวแตงโม ในแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณท่าเรือพิบูลย์สงคราม 1 ถึง สะพานพระราม 7

พร้อมตรวจสอบการระบุระยะเวลา ความลึก ความตื้นของพื้นผิวใต้น้ำ ในรูปแบบสามมิติ คล้ายกับการสแกนภาพเด็กในครรภ์ พร้อมตรวจสอบความเร็วการเดินเรือ ตามสัญญาณ GPS และบันทึกสแกนภาพใต้น้ำที่เก็บข้อมูลด้วยอุปกรณ์พิเศษ เครื่องไลฟ์สโคป โซนาร์สแกน (Garmin GPSmap รุ่น xsv) ที่มีความแม่นยำ เที่ยงตรงสูงจากสัญญาณดาวเทียมในการเชื่อมต่อของดาวเทียมกว่า 18 ดวง

(โดยทีมงานทางเรือของแลมโกดังเรือดังกล่าวเป็นผู้ลงล่องเรือกับทางเจ้าหน้าที่ในแม่น้ำ เปิดเผยว่า อุปกรณ์ที่ทางเจ้าหน้าที่ใช้ค้นหาทางน้ำในครั้งนี้ คล้ายกับเครื่องอัตราซาวด์มองดูภาพในครรภ์หญิงตั้งท้อง)

ซึ่งจะเป็นการทำแผนที่ใต้น้ำ โดยใช้โซนาร์ความถี่สูงยิงลงในน้ำเพื่อสะท้อนพื้นผิวทุกอย่างด้านล่างที่อยู่ใต้น้ำให้กลายเป็นภาพสามมิติ ที่สามารถจะมองดูว่าอะไรเป็นอะไรมีอยู่ใต้น้ำได้อย่างชัดเจน อาทิ สันเนิน ช่วงความลึก ขวด แก้ว ขอนไม้ ทุกสิ่งอย่าง สามารถเห็นเป็นรูปร่างได้ชัดเจน มันจะโชว์ภาพสามมิติ บอกพิกัด ทิศทางแผนที่การวิ่ง ระยะ ช้าเร็ว ความตื้น ความลึก เท่าไร โดยการใช้ระบบออโต้วิ่งตามเส้นทางของเรือสปีดโบ๊ทลำเกิดเหตุ

เริ่มจากจุดท่าเรือโกดัง NBC นี้ไปถึงท่าเรือพิบูลย์สงคราม 1 สะพานพระราม 7 พระราม 8 ตลอดเส้นทาง ซึ่งมีการจำลองการทิ้งสิ่งของลงในแม่น้ำดูด้วย ว่าเครื่องโซนาร์สามารถสแกนตรวจพบวัตถุจริงหรือไม่ รายละเอียดข้อมูลต่างๆ ทางเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานและตำรวจภาค 1ได้เก็บรวบรวมข้อมูลไว้หมดแล้ว

จากนั้นเวลา 15.40 น. ที่ท่าเรือพิบูลสงคราม 1 นายเอกพัน บรรลือฤทธิ์ หรือ “ไทด์” เดินทางมาร่วมทำบุญให้กับ แตงโม // นายเอกพัน กล่าวว่า ได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังจากเมื่อเช้าได้นำเรือไปสแกนหาวัตถุใต้น้ำบริเวณแม่น้ำเจ้าพระยา ให้มาร่วมงมหาวัตถุใต้น้ำ โดยได้พบวัตถุลักษณะคล้ายกระเป๋าที่มีสิ่งของอยู่ภายใน ตนจึงประสานเจ้าหน้าที่นักประดาน้ำมาร่วมภารกิจ โดยนัดหมายที่ท่าเรือพิบูลสงคราม 1 แต่เมื่อมาถึงแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจขอยกเลิกภารกิจ โดยให้เหตุผลว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำอีกชุด ยังไม่เสร็จสิ้นภารกิจที่ท่าเรือเทเวศร์

ต่อมาภารกิจของเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำเริ่มขึ้นเมื่อเวลา 16.10 น. โดยทางทีมชุดคลี่คลายคดีการเสียชีวิตของคุณแตงโม พร้อมทีมผู้เชี่ยวชาญทางเรือ ได้นำเรือ bass boat มาที่ท่าเรือพิบูลสงคราม 1 อีกครั้ง ในช่วงบ่ายเพื่อใช้เครื่อง life scope ซึ่งเป็นระบบโซน่าร์ ในการสแกนวัตถุใต้น้ำ ซึ่งคาดว่าเป็นการค้นหาวัตถุพยานบางอย่าง ท่ามกลางกระแสข่าวว่าบุคคลบนเรือ ให้ข้อมูลว่าได้ทิ้งวัตถุบางอย่างลงในแม่น้ำ

จากนั้น นักประดาน้ำ ได้ดำงมค้นหาอีกครั้ง ใกล้เคียงกับจุดเดิม และพบวัตถุขนาดกลางๆ ประมาณเท่าฝ่ามือ แต่ไม่ชัดเจนว่าคืออะไร ก่อนที่นักประดาน้ำ จะนำส่งมอบให้กับเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ที่อยู่บนเรืออีกลำ

ต่อมาในเวลา 17.20 น. ประดาน้ำยังคงงมค้นหารอบที่ 3 ใกล้เคียงกับจุดเดิม โดนใช้เวลาไม่ถึง 10 นาที ก็ขึ้นมา พร้อมกับพบถุงพลาสติกขนาดใหญ่ จากการสังเกต แต่ถุงดังกล่าวน้ำหนักเบามากกว่าถุงแรก ของภายในมีลักษณะคล้ายขยะ กับขวดน้ำพลาสติกอีก 1 ชิ้น

หลังจากนั้น ชุดทำงาน ได้เคลื่อนเรือ bass boat และเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำ ไปงมค้นหา จุดสุดท้าย บริเวณใกล้กับสะพานพระราม7 ซึ่งเป็นจุดสุดท้าย โดยคาดว่า จุดดังกล่าวได้วัตถุบางอย่าง แต่ไม่ทราบแน่ชัดว่าเป็นอะไร ก่อนที่จะยุติภารกิจการค้นหาในเวลา 17.50 น.

นอกจากนี้ยังให้ชุดปะดาน้ำดำลงไปเก็บดินก้นแม่น้ำเพื่อนำไปเปรียบเทียบกับที่พบในปอดของแตงโม นิดา ว่าเป็นชนิดเดียวกันหรือไม่

โดยภารกิจในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมง ในการค้นหาวัตถุพยาน ก่อนส่งมอบของทั้งหมดซึ่งให้พิสูจน์หลักฐานไปตรวจสอบ โดยยังไม่ยืนยันว่าสิ่งของที่งมขึ้นมา มีความเกี่ยวข้อง หรือ เชื่อมโยงกับคดีหรือไม่ // ซึ่งภายหลังเสร็จสิ้นภารกิจ ก็แล่นเรือกลับไปยังอู่เรือ NBC BOAT CLUB โดยไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดใดๆ ทั้งสิ้น  

ด้านเรือสปีดโบ๊ทของปอ เมื่อวานนี้ (6 มี.ค. 65) เวลา 20.00 น. ที่ สภ.เมืองนนทบุรี ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้มีการเคลื่อนย้าย เรือสปีดโบ๊ท ของนายปอ จากที่นำไปจอดไว้ที่แขวงทางหลวงชนบทนนทบุรี หมู่ 2 ต.สวนใหญ่ อ.เมือง จ.นนทบุรี ที่จอดเรือของกลางเอาไว้

ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำเรือสปีดโบ๊ท ของนายปอ ที่เป็นของกลางในคดีนี้ ไปจอดที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี เนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่าคดีนี้ยังไม่จบง่ายๆ และเพื่อเป็นการป้องกันทรัพย์สินในคดี ที่มีราคาสูง ให้ทางตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี รับผิดชอบของกลางชิ้นนี้

ด้าน พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ วานนี้ (6 มี.ค. 65) ได้กล่าวถึงความคืบหน้าการคลี่คลายคดีดาราสาว แตงโม นิดา ว่า ได้สั่งให้ตรวจสอบทุกประเด็น ซึ่งตอนนี้ยังรอผลจากกองพิสูจน์หลักฐาน ทั้งเรื่องวัตถุพยาน การผ่าพิสูจน์ศพ ผลตรวจบาดแผลที่เกิดขึ้นมาจากไหน เกิดขึ้นเมื่อไหร่ ซึ่งเหล่านี้จะนำมาประกอบกับข้อมูลด้านอื่นๆ ทั้งคำให้การ โทรศัพท์มือถือ จีพีเอสเรือ ข้อมูลพยานแวดล้อม ทั้งนี้ทุกอย่างจะมีความชัดเจนขึ้นมากกว่าเดิมภายใน 2-3 วัน

เมื่อถามว่าตอนนี้ตำรวจสันนิษฐานสาเหตุการเสียชีวิตมาจากอะไร พล.ต.อ.สุวัฒน์ เปิดเผยว่า พยานหลักฐานยังไม่มีอะไรมากกว่าอุบัติเหตุ

 รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/-MUOhDIxrBA