ลุงหัวร้อนยิงแม่เพื่อนมอบตัว อ้างหลานไม่รัก

ความคืบหน้ากรณีชายวัย 50 ปี ใช้ปืนจ่อยิงสาววัย 35 ปี ที่เป็นแม่ของเพื่อนหลานสาวเสียชีวิตภายในซอยสมเด็จพระเจ้าตากสิน 18 ถูกจับแล้ว

ต่อมาเวลา 14.14น. พลตำรวจตรีมานพ สุคนธ์ธนพัฒน์ ผบก.น.8  เข้าจับกุมนายเสมา ขจรพันธ์ อายุ 50 ปี  ผู้ก่อเหตุยิงน.ส.สุจิตรา เทพศิรินทร์รัตน์ สาวรับเหมาก่อสร้าง ภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งตรงข้าม สน.บุคคโล ภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวผู้ต้องหาทั้งสองคนเข้าไปสอบปากคำภายในห้องสอบสวนนานเกือบ 1 ชั่วโมง ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 8 ให้ข้อมูลว่าผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุยิงผู้เสียชีวิตจริง โดยอาวุธปืนที่ใช้เป็นอาวุธปืนที่ไม่มีทะเบียน และนำมาเก็บรักษาไว้ที่บ้านที่เกิดเหตุ

โดยผู้ต้องหาและผู้เสียชีวิตมีการท้าทายและนัดหมายจากนำเด็กหญิงลำดวน (นามสมมติ) มาส่งให้ที่บ้านในวันเกิดเหตุ เมื่อฝั่งผู้เสียชีวิตมาถึงก็มีปากเสียงทะเลาะวิวาทกันจนเกิดการชุลมุนกันขึ้นแต่ก็แยกย้ายกันกระทั่งผู้เสียชีวิตออกจากหน้าบ้านไป ผู้ต้องหาพบว่าตัวเองถูกแทงเข้าที่ท้องด้านซ้าย จึงให้ผู้ต้องหาอีก 1 คนซึ่งเป็นคนขี่รถจักรยานยนต์พาไปส่งโรงพยาบาล

และอ้างว่าเกรงจะถูกฝั่งของผู้เสียชีวิตรุมทำร้ายจึงพบอาวุธปืนไปด้วย เมื่อพบผู้เสียชีวิตยืนอยู่ที่หน้าปากซอยจึงเกิดความรู้สึกเครียดแค้นที่โดนทำร้ายจึงใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียชีวิตก่อนจะหลบหนีไป ก่อนจะนำอาวุธปืนไปโยนทิ้งที่คลองห่างจากจุดเกิดเหตุ และไปหาที่ตั้งหลักเพื่อต่อสู้คดี

ทั้งนี้เมื่อชุดสอบสวนถามถึงประเด็นเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ในครอบครัวและเด็กหญิงลำดวน ผู้ต้องหาก็ปล่อยโฮร้องไห้ฟูมฟายด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจเพราะเด็กหญิงลำดวนไม่รักและเชื่อฟังกลับติดเพื่อนและหนีออกจากบ้านไปอยู่กับบ้านคนอื่น ยอมรับว่าที่ผ่านมาได้มีการลงโทษเด็กหญิงลำดวนแต่เป็นด้วยความรักและเป็นห่วงไม่ใช่การทำร้ายร่างกายอย่างที่คู่กรณีกล่าวอ้าง

เบื้องต้นตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ส่วนข้อหาที่เกี่ยวข้องกับอาวุธปืนที่ไม่มีทะเบียนชุดสืบสวนสอบสวนจะรอให้เจ้าหน้าที่งมปืนกระบอกดังกล่าวขึ้นมาได้เสียก่อนและเมื่อตรวจสอบว่าเป็นจริงตามคำให้การก็จะแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มอีกหนึ่งข้อหา

ทั้งนี้คดีดังกล่าวมีผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับ 2 คนคือตัวผู้ลงมือและผู้ขี่รถจักรยานยนต์อีก 1 คน ซึ่งในชั้นการสืบสวนสอบสวนในชั้นนี้ยังไม่พบว่ามีบุคคลอื่นเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้อง