โจรฆ่าปาดคอวิน อ้างโมโหถูกด่าเรื่องเส้นทาง เมียเหยื่อวอนประหาร ทำลายชีวิตครอบครัว

ฝากขังฆาตกรฆ่าปาดคอวินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ชิงรถไปขาย อ้างโมโห ถูกด่า หลังทะเลาะกันเรื่องเส้นทาง เมียคนตายขอโทษประหาร พฤติกรรมสุดเหี้ยม ทำลายชีวิตครอบครัว


กรณีตำรวจ สภ.คลองหลวง พบศพนายสัณฐิติ อายุ 28 ปี สวมเสื้อวินมอเตอร์ไซค์รับจ้างเบอร์ 93 ถูกฆ่าปาดคอ ถนนเลียบคลองเชียงราก ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี ก่อนเสียชีวิต มีพลเมืองดีเห็นผู้ตายเดินมาขอความช่วยเหลือ สภาพมือกุมคอที่มีเลือดออกจากจำนวนมาก ก่อนจะล้มลงขาดใจตาย เมื่อตรวจสอบใกล้ ๆ จุดเกิดเหตุพบหมวกกันน็อค และแมสก์เปื้อนเลือดตกอยู่ แต่มอเตอร์ไซค์ของผู้ตายหายไป จึงเชื่อว่าถูกฆ่าชิงทรัพย์


ต่อมาตำรวจแกะรอยคนร้ายจากกล้องวงจรปิด บริเวณรอบที่เกิดเหตุ จนพบว่า คนที่ซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ผู้ตายเป็นคนสุดท้าย คือ นายยุทธนา อายุ 36 ปี จึงขออนุมัติหมายจับ จากนั้นได้ตามไปจับคนร้ายได้ ขณะเดินอยู่ในห้างแห่งหนึ่งที่อยุธยา


ผู้ต้องหาให้การว่า ช่วง 6 โมงเช้าวันเกิดเหตุ ได้ว่าผู้ตายจากวินประตูน้ำพระอินทร์ราชา ระหว่างทางบอกให้ผู้ตายขับเข้าไปด้านหลังวัดพืชนิมิต แต่ผู้ตายบอกว่าเปลี่ยว ขอไปอีกทางที่ไม่เปลี่ยว ก่อนจะโต้เถียง แล้วถูกผู้ตายด่า จึงโมโหพร้อมชักมีดทำครัวเล็ก ๆ ที่พกมา จี้บังคับให้จอดรถ ก่อนปาดคอจนเลือดพุ่ง


หลังจากนั้นก็ตกใจ ทำอะไรไม่ถูก จึงขี่รถของผู้ตายหนี จากนั้นไปตั้งหลัก เปิดหาที่รับซื้อรถในเว็บไซต์ แล้วนำไปขายที่วัดแห่งหนึ่งในจังหวัดราชบุรี ได้เงินมา 7,000 บาท


จากนั้นได้นั่งรถตู้มาที่หมอชิต กทม. นำเงินไปฝากส่วนหนึ่ง แล้วนั่งรถตู้มาที่ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต เพื่อไปซื้อเสื้อใหม่ใส่ โดยนำเสื้อเก่าไปทิ้งที่ถังขยะในห้องน้ำ แล้วนั่งรถตู้ไปที่โลตัสอยุธยา เพราะไม่รู้จะไปไหน แต่ก่อนเคยทำงานที่นวนคร จึงคุ้นเคยห้างละแวกนี้ กระทั่งถูกตำรวจมาตามจับได้


เบื้องต้น ตำรวจไม่ปักใจเชื่อคำให้การ โดยได้นำตัวไปชี้จุดเกิดเหตุ ก่อนนำกลับมาขังที่ สภ.คลองหลวง โดยแจ้ง 2 ข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยกระทำทารุณโหดร้าย ชิงทรัพย์โดยมีอาวุธเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และพกพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ล่าสุดเมื่อช่วงสาย ตำรวจนำตัวนายยุทธนาส่งฝากขังที่ศาลแล้ว


ด้านพันตำรวจเอก เกียรติศักดิ์ มิตรปราสาท ผู้กำกับการ สภ.คลองหลวง เผยว่า ชุดสืบสวนได้ขยายผลไปตามจับกุมแก๊งโจรกรรมรถยนต์ ที่นายยุทธนานำรถของผู้ตายไปขายที่ราชบุรี โดยจับผู้ต้องหาได้ 3 คน คือ นางสาวแอนนา อายุ 51 ปี นายจี อายุ 46 ปี สัญชาติเมียนมา และ นายซอ อายุ 31 ปี สัญชาติเมียนมา พร้อมแจ้งข้อหารับซื้อของโจร


ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวไปที่วัดธรรมนาวา อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา สถานที่จัดงานศพนายสัณฐิติ บรรยากาศเป็นไปอย่างเงียบเหงา


นางอำไพพร ภรรยาผู้นาย เผยว่า อยู่กินกับนายสัณฐิติ มา 5 ปี ไม่มีลูกด้วยกัน แต่ตนมีลูกติด 2 คน ตนเปิดร้านขายกาแฟ และข้าวเหนียวหมู แถวตลาดประตูน้ำพระอินทร์ ส่วนสามีเป็นพนักงานบริษัทแว่นตาชื่อดัง และจะขับวินเป็นอาชีพเสริม ซึ่งเป็นเสาหลักของครอบครัว


สามีเพิ่งผ่อนมอเตอร์ไซค์หมด เพิ่งดาวน์กระบะมาผ่อนเพื่อใช้ทำมาหากิน และยังมีความฝันว่า จะเก็นเงินสร้างบ้านบนที่ดินของตัวเอง ที่เพิ่งซื้อไว้ได้ไม่นาน แต่กลับมาถูกฆ่า ทำให้ความฝันของครอบครัวพังทลาย


ส่วนเรื่องคดีอยากขอให้ศาลตัดสินลงโทษคนร้ายอย่างหนัก จนถึงประหารชีวิต เพราะลงมือก่อเหตุอย่างโหดเหี้ยมทารุณ และขอให้เอาจริงกับขบวนการค้ารถเถื่อนออนไลน์ ที่เป็นช่องทางส่งเสริมให้คนร้ายขโมยของมาขาย