โจรใจอ่อน บุกทำร้าย-ชิงทรัพย์ ดันเห็นรูปพ่อของเหยื่อ ซาบซึ้งขี่รถมาคืน โดนรวบทันควัน

ถูกจับเพราะซาบซึ้ง! โจรร่างท้วมขี่ จยย.ตามถีบรถเหยื่อสาว หวังถอดเสื้อผ้าเหยื่อแล้วชิงทรัพย์ หลังหลบหนีไปค้นกระเป๋าดู เห็นรูปพ่อผู้เสียหายพร้อมข้อความ "หนูรักพ่อจ๋าคนเดียว" ทำใจอ่อนยวบ ขี่รถจะมาคืนของให้ผู้เสียหาย สุดท้ายถูกตำรวจรวบทันควัน

เหตุเกิดเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ ที่ถนนคันคลองทิ้งน้ำ หมู่ที่ 4 ตำบลศาลาแดง อำเภอเมือง จังหวัดอ่างทอง นางจันทร์เพ็ญ อายุ 34 ปี ผู้เสียหายเล่าให้ฟังว่า ก่อนเกิดเหตุแฟนโทรศัพท์มาหา บอกให้นำแถบแม่เหล็กที่เป็นเครื่องมือช่างไปให้ที่ไซต์งานก่อสร้าง ตนก็ขี่มอเตอร์ไซค์เอาไปให้ ระหว่างทางพบคนร้ายเป็นชายรูปร่างท้วม สวมเสื้อสีดำแถบเหลือง สวมไอ้โม่งคลุมหน้า ขี่มอเตอร์ไซค์ฮอนด้าเวฟ สีแดง สวนกับตนเอง ผ่านไปสักพักคนร้ายขี่รถย้อนตามกลับมา เมื่อถึงที่เปลี่ยวก็ใช้เท้าถีบมอเตอร์ไซค์ของตนจนล้มคว่ำ ตนล้มไปกองที่ป่าหญ้าริมถนน

จากนั้นคนร้ายก็มาจับตนเองถอดเสื้อผ้าออกหมด แต่ไม่ได้ทำอะไร แล้วก็ชิงทรัพย์ไป เป็นโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง กระเป๋าสตางค์ที่มีเงินสดอยู่ 260 บาท และสมุดบัญชีธนาคารที่มีเงินอยู่ในบัญชี 1,000 บาท แล้วขี่มอเตอร์ไซค์หลบหนี เมื่อตนตั้งสติได้ก็รีบสวมเสื้อผ้า แล้วขี่มอเตอร์ไซค์นำร่างที่ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ไปหาสามีที่ไซต์งานก่อสร้าง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 500 เมตร ให้พาไปทำแผล และพาไปแจ้งความที่ สภ.เมืองอ่างทอง

ล่าสุดเช้าวันนี้ ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองอ่างทอง จับกุมผู้ก่อเหตุได้แล้ว ชื่อนายณัฐวุฒิ สังใจสม หรือ โอม อายุ 23 ปี สารภาพว่า ถีบรถผู้เสียหายจริง เพราะเห็นกระเป๋าผู้เสียหายขณะขี่รถสวนกัน คิดว่าจะมีเงินเยอะ จึงตัดสินใจลงมือ พร้อมกับพยายามถอดกางเกงผู้เสียหาย เพื่อไม่ให้เขาไล่ตามมาทัน ไม่มีเจตนาอย่างอื่น หลังจากหนีได้สำเร็จ ก็เปิดกระเป๋าผู้เสียหายดู พบรูปถ่ายพ่อผู้เสียหายมีข้อความเขียนด้วยปากกา บรรยายถึงความรักที่มีต่อพ่อ ว่า "พ่อจ๋าหนูรักพ่อจ๋าคนเดียว" ก็รู้สึกซาบซึ้ง นึกถึงตัวเองที่มีลูกเมีย ตอนแรกจะทิ้งกระเป๋าไว้ในพงหญ้าใกล้กับที่เกิดเหตุ จึงเปลี่ยนขี่รถนำของมาคืนผู้เสียหายแต่ถูกตำรวจจับได้เสียก่อน

เบื้องต้นถูกแจ้งข้อหาชิงทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำความผิด หรือการพาทรัพย์นั้นไปเพื่อให้พ้าการจับกุม และเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายและจิตใจ

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวไปที่บ้านผู้เสียหายอีกครั้ง ทั้งสามีและภรรยาบอกว่า ไม่ให้อภัยคนร้าย แม้จะมาขอโทษ ส่วนรูปพ่อที่ถูกคนร้ายเอาไป ตอนนี้ยังไม่ได้คืน ซึ่งรูปใบนี้เป็นรูปถ่ายใบสุดท้ายของพ่อที่เหลืออยู่ หลังพ่อเสียชีวิตไปเมื่อปี 2560 ตอนนี้อยากได้ของคืน ซึ่งในโทรศัพท์ก็มีรูปพ่ออยู่ด้วย