‘ไอ้เจมส์’ เครียด ตร.คุมตัวย่องเงียบชี้จุดทิ้งของกลาง ฆ่าโหดชิงทรัพย์ยายวัย 75 ด้านแฟนสาวร่ำไห้

ตำรวจคุม “ไอ้เจมส์” มือฆ่าโหดชิงทรัพย์ยาย 75 ปี ย่องเงียบชี้จุดทิ้งของกลาง ก่อนส่งฝากขังพรุ่งนี้ โดยไม่ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เจ้าหน้าที่เผย ผู้ต้องหามีอาการเครียด ไร้ญาติมาเยี่ยม มีเพียงแฟนสาวมาร้องห่มร้องไห้

กรณีนายนนทพัทธ์ หรือ เจมส์ อายุ 24 ปี สวมหมวกอำพรางใบหน้า ขี่มอเตอร์ไซค์มาดูลาดเลา ก่อนปีนกำแพงบุกเข้าไปในบ้านของนางสุธาสินี อายุ 75 ปี ที่อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี แล้วฆ่าชิงทรัพย์นางสุธาสินี เสียชีวิตในบ้านช่วงกลางวันแสก ๆ ในสภาพถูกแทงด้วยของมีคมถึง 32 แผล เหตุเกิดเมื่อเวลา 11.30 ของวันที่ 5 กรกฎาคมที่ผ่านมา

ต่อมาชุดสืบสวน สภ.ชะอำ ตามไปจับตัวนายเจมส์ไว้ได้ ขณะหลบหนีไปซ่อนตัวอยู่ในเพิงพักสวนยาง ในตำบลร่อนทอง อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จึงคุมตัวมาสอบสวนที่ สภ.ชะอำ พร้อมของกลางมอเตอร์ไซค์ฮอนด้า สกู๊ปปี้ สีชมพู เสื้อยืดแขนยาวสีฟ้า เสื้อยึดแขนยาวสีขาว หมวก และรองเท้าแตะที่ใช้ในวันก่อเหตุ

เบื้องต้นนายเจมส์ รับสารภาพว่า เป็นผู้ก่อเหตุแทงนางสุธาสินี 32 แผล จนเสียชีวิต ที่ผ่านมาถูกจับติดคุกมาหลายครั้ง ล่าสุดได้รับอิสรภาพเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2563 ก็ออกมาทำงานรับจ้างหลายที่ และเคยเป็นลูกน้องของช่างแอร์ โดยทำหน้าที่ยกล้างเครื่องปรับอากาศ เคยไปที่บ้านหลังเกิดเหตุ 1 ครั้งในช่วง 3 - 4 เดือนที่ผ่านมา แล้วไปทำงานก่อสร้างที่ อำเภอบางสะพาน ประจวบคีรีขันธ์

ก่อนเกิดเหตุ 4 วัน เพิ่งเสพยาบ้า จากนั้นยืมมอเตอร์ไซค์หัวหน้างาน อ้างว่ายืมไปธุระ แต่เอาไปลักทรัพย์ เมื่อถึงบ้านหลังเกิดเหตุ เปิดประตูเจอนางสุธาสินีร้องเอะอะโวยวาย จึงยกมือข้างซ้ายห้ามไม่ให้ร้อง พยายามเอามือปิดปาก แต่ถูกกัดที่นิ้วก้อยข้างซ้าย จึงใช้มีดแทงนางสุธาสินี ก่อนชิงทรัพย์เงินสดได้ไปประมาณ 2,000 กว่าบาท แล้วหลบหนีนำเงินไปใช้จ่ายส่วนตัว

ส่วนพฤติการณ์ในการก่อเหตุ นายเจมส์ให้การว่า สวมเสื้อ 2 ชั้น เพื่อไว้ถอดอำพรางหลังก่อเหตุ และได้เงินสดไปเพียง 1,900 กว่าบาท แต่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ ขณะเดียวกันจะตรวจสอบไปยังผู้ให้ที่พักพิงหลังก่อเหตุด้วย ว่ามีรู้เห็นช่วยเหลือหรือไม่ ส่วนไซต์งานของบริษัทที่ผู้ต้องหาทำงาน มี 2 ไซต์งาน คือ ที่บางสะพาน และที่หัวหิน โดยที่หัวหินขาดคน เพิ่งรับนายเจมส์มาทำงานได้ 2 วัน พอก่อเหตุก็หนีกลับไปที่บางสะพาน

ล่าสุด เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา ตำรวจ สภ.ชะอำ ได้นำตัวนายเจมส์ไปชี้จุดทิ้งมีด ทิ้งเสื้อที่ใช้ก่อเหตุ ก่อนพากลับมาคุมขังไว้ตามเดิม ก่อนคุมตัวไปฝากขังที่ศาลอาญา จังหวัดเพชรบุรี ในช่วงเที่ยงของวันพรุ่งนี้ โดยจะไม่นำไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ทั้งนี้นายเจมส์ มีอาการเครียด ไม่ค่อยพูดคุยกับใคร เจ้าหน้าที่ต้องเฝ้าดูอย่างใกล้ชิด

ขณะเดียวกันมีรายงานว่า ตั้งแต่ถูกจับกุม ยังไม่มีญาติของนายเจมส์มาเยี่ยมแม้แต่คนเดียว มีแต่แฟนสาว ที่ย่องเข้ามาเยี่ยมเมื่อ 5 ทุ่มที่ผ่านมา เมื่อเห็นแฟนหนุ่มก็ร้องไห้ฟูมฟาย พยายามขอให้ตำรวจพาตัวออกจากห้องขังไปที่ห้องเยี่ยม แต่ตำรวจปฏิเสธ

ด้านพันตำรวจโทชูเกียรติ เพชรแท้ รองผู้กำกับการสอบสวน สภ.ชะอำ เผยว่า พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาเพิ่มอีก 1 ข้อหา คือ ชิงทรัพย์ผู้อื่น เป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย รวมกับอีก 2 ข้อหา ที่แจ้งไปแล้วก่อนหน้านี้คือ ฆ่าผู้อื่นโดยกระทำทารุณโหดร้าย และบุกรุกเข้าไปในเคหสถานโดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยมีอาวุธ รวมทั้งสิ้น 3 ข้อหา

ย้อนไปเมื่อวานนี้ ช่วงที่มีการแถลงข่าว ลูกสาวของผู้เสียชีวิต ได้มาที่ สภ.ชะอำ พร้อมนำดอกไม้ให้กำลังใจตำรวจ ที่สามารถตามจับคนร้ายได้อย่างรวดเร็ว จากนั้นได้เปิดเผยว่า อยากให้คนร้ายได้รับโทษประหารชีวิต ไม่อยากให้แค่รับสารภาพก็ลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต ตนทำใจให้อภัยไม่ได้ ตอนนี้ยังรู้สึกผิดที่กินยานอนหลับจนหลับลึก จนไม่รู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับแม่

ยืนยันแม่เป็นคนจิตใจดี เอ็นดู เอื้อเฟื้อกับช่างที่มาทำงานทุกคน ไม่คาดคิดเลยว่า ช่างที่เคยมาบ้านจะมาก่อเหตุแบบนี้ หลังจากนี้จะย้ายออกจากบ้านนี้ เพราะไม่สามารถลบภาพจำที่คุณแม่เสียชีวิตไปได้ ส่วนเรื่องที่คนร้ายอ้างว่า ต้องฆ่าเพราะถูกกัดก่อน ถือเป็นเรื่องไร้เหตุผลมาก เอาเข้าจริงคุณแม่ต้องสู้ไหมคะ คุณแม่ควรทำมากกว่านั้นด้วยซ้ำ แค่กัดนิ้วต้องทำแม่ถึง 30 แผลเลยหรือ เขาควรโดนโทษประหารชีวิต เราไม่อยากให้เขาอยู่บนโลกใบนี้

ตอนนี้เป็นห่วงสภาพจิตใจพ่อ ตอนที่บอกเรื่องแม่กับพ่อ ลูกทั้ง 3 คน ไปหาพ่อที่เตียง จับมือพ่อไว้ ให้พ่ออบอุ่นที่สุด พร้อมบอกว่าแม่จากไปแล้ว ด้วยอาการของโรคหัวใจ ไม่สามารถบอกความจริงได้ กลัวพ่อจะอาการทรุดไปอีก

ขณะที่ ลูกชายของผู้ตาย เปิดใจทั้งน้ำตาว่า ยังทำใจไม่ได้ มันแย่ที่สุดในชีวิตแล้ว ส่วนตัวไม่รู้จะบอกกับพ่อว่ายังไง กลัวพ่อจะรู้ว่าคู่ชีวิตได้จากไปแล้วจะเสียใจมาก ซึ่งตนเองได้บอกกับดวงวิญญาณของแม่ว่า ให้มาอยู่ที่นี่ รอส่งวิญญาณขึ้นสวรรค์ ส่วนคนร้ายเป็นคนที่เคยเข้ามาในบ้านนั้น ตนเองไม่อยากเห็นหน้า เพราะยังทำใจไม่ได้