อาชญากรรม

ผู้ต้องสงสัยปฏิเสธ! ไม่ได้ฆ่าปาดคอเจ้าของร้านชำ แต่รับรู้จักกัน ตร.เร่งพิสูจน์ดีเอ็นเอ

โดย paweena_c

6 ก.ค. 2565

76 views

ลูกสาวยัน จะไม่ทำพิธีฌาปนกิจแม่จนกว่าตำรวจจะจับคนร้ายได้ ขณะที่ตำรวจยังอยู่ระหว่างรอผลตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอเปรียบเทียบกับผู้ต้องสัย

จากกรณีพบศพเจ้าของร้านขายของชำเสียชีวิตบนโซฟา ภายในบ้านพักซึ่งเปิดเป็นร้านขายของ ที่ ตำบลป่งไฮ อำเภอเซกา จังหวัดบึงกาฬ โดยสภาพมีรอยของมีคมปาดที่ลำคอจนเสียชีวิต

โดยตลอดระยะเวลาการสืบสวนตำรวจได้นำตัวผู้ต้องสงสัย มาสอบปากคำพร้อมเก็บดีเอ็นเอ เพื่อมาเปรียบเทียบแล้ว 22 คน

ซึ่ง 1 ใน 22 คน คือ นายต่าย เป็นคนที่ตำรวจตามไปควบคุมตัวมาได้ หลังจากหนีไปที่เช่าห้อง ในอำเภอพรเจริญ ซึ่งตำรวจได้เก็บหลักฐานเสื้อผ้าของนายต่ายมาตรวจสอบและพบว่า นายต่าย เป็นบุคคลที่รูปร่างคล้ายกับคนในภาพวงจรปิดในคืนเกิดเหตุ (3 ก.ค.) ซึ่งเป็นช่วงเวลาประมาณตีหนึ่ง ห้าสิบหกนาที

โดยตำรวจได้นำตัว นายต่าย ผู้สอบสวนตั้งแต่เมื่อวานเป็นเวลา 6 ชั่วโมง และเช้านี้ ได้นำตัวนายต่ายมาสอบสวนเพิ่ม โดยนายต่ายปฏิเสธไม่ได้ก่อเหตุฆ่าหญิงเจ้าของร้านขายของชำ แต่รับว่า รู้จักกันจริง ส่วนภาพในวงจรปิดคือตนเองจริง

ขณะที่ตำรวจพบร่องรอยบาดแผลตามร่างกายของนายต่าย โดยตอนนี้อยู่ระหว่างผลพิสูจน์ดีเอ็นเอที่พบอยู่ในเล็บของผู้ตาย คาดว่า จะทราบผลในสัปดาห์หน้า

ขณะที่นายเบ้า ลูกน้องนายต่าย ได้เข้ามารายงานตัวต่อตำรวจ ที่สภ.ป่งไฮ หลังจากหนีไปอีกอำเภอหนึ่ง ซึ่งตำรวจได้นำตัวมาสอบสวนเพิ่มเติมด้วย

ขณะที่แม่ของนายต่าย ได้ติดต่อขอเยี่ยมลูกชาย พร้อมเปิดเผยว่า รู้สึกเป็นห่วงลูกชายเพราะไม่รู้ว่าจะถูกคุมตัวอีกนานหรือไม่ โดยลูกชายยืนยันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุฆ่าเจ้าของร้านขายของชำ ส่วนร่องรอยบาดแผลตามตัวลูกชายเป็นบาดแผลที่ทะเลาะกับภรรยา โดยคืนเกิดเหตุลูกชายออกจากบ้านพักไปช่วงสามทุ่ม แต่ไม่รู้ว่าออกไปนอนที่ทุ่งนาหรือไม่

ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าว ได้มีโอกาสพูดคุยกับ ดาบตำรวจ สภ.ป่งไฮ ซึ่งถูกระบุว่า เป็นคนสนิทของผู้ตาย ยืนยันตนผู้บริสุทธิ์ วันเกิดเหตุตนเข้าเวรที่ สภ.ป่งไฮ ทั้งคืน โดยมีหลักฐานเป็นภาพจากวงจรปิด พร้อมรับว่ามีความสัมพันธ์กับเจ้แดงจริง แต่ไม่ขอบอกว่าถึงสนิทขั้นไหน

ด้านลูกผู้ตาย ระบุว่า ทางครอบครัวจะยังไม่ตัดสินใจ ทำพิธีฌาปนกิจแม่ แต่จะรอให้จับคนร้ายที่ก่อเหตุให้ได้ก่อน และตอนนี้เชื่อว่า คนร้ายต้องเป็นคนที่รู้จักกับแม่เป็นอย่างดี เพราะแม่เป็นคนระวังตัวเอง ซึ่งตอนนี้ตนเจอทรัพย์สิน สร้อยข้อมือและแหวนแล้ว อยู่ในกระเป๋าที่แม่เก็บไว้ แต่มีเพียงกระเป๋าคาดเอว 1 อัน และโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง ของแม่ที่หายไปเท่านั้น จึงเชื่อว่าคนร้ายไม่ได้ประสงค์ต่อทรัพย์

คุณอาจสนใจ

Related News