อาชญากรรม

ไล่ล่าอีก 3 'แก๊งอาสาฯ' ลอบขนยาบ้าล็อตยักษ์ คนดูแลที่ดินสงสัย ทำไม ตร.รู้จุดซ่อนยา

โดย paweena_c

7 มิ.ย. 2565

1.7K views

ตำรวจภูธรภาค 1 แถลงข่าว จับผู้ร่วมขบวนการ 'ทีมอาสาสมัครกู้ภัยลักลอบขนยาเสพติด' แล้ว 2 คน ส่วนอีก 3 คน คือ "โด้" คนขับรถตู้ "ทิพย์" แฟนสาว และ "ไอซ์" คนขับรถกระบะที่พาหนี ตำรวจอยู่ระหว่างไล่ล่า

พลตำรวจโท จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 เปิดเผยว่า ตำรวจอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับ นาย จิรายุทธ คงดี หรือ โด้ คนขับรถกู้ภัย นางสาว ทิพวรรณ ชัยเสนา หรือ ทิพย์ แฟนสาวที่นั่งมาด้วย และนาย ชาญณรงค์ พุฒเจริญ หรือไอซ์ คนขับกระบะกู้ภัยที่พาหลบหนี ในความผิดฐานร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) ไว้ครอบครองโดยผิดกฎหมาย

ซึ่งวันเกิดเหตุ ตำรวจสามารถจับผู้ร่วมขบวนการได้ 2 คน คือ นาย สมพงษ์ สุรินทร์คำ อายุ 23 ปี และ นาย พิทวัส ไชยสลี อายุ 23 ปี ที่ทำหน้าที่ขับรถกระบะตู้ทึบนำทางได้ ส่วนรถกระบะกู้ภัยของ นายไอซ์ ที่พา นายโด้ หลบหนี ตำรวจเจอรถแล้ว ถูกนำไปจอดทิ้งในพื้นที่ สน.จรเข้น้อย กรุงเทพ

จากการสอบสวนทราบว่า กลุ่มนี้ก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง โดยจะทำหน้าที่เป็นชุดรับจ้างลำเลียงยาเสพติด จากชายแดนภาคอีสาน เข้ามาส่งและจำหน่ายในพื้นที่ภาคกลาง โดยเฉพาะกรุงเทพ และปริมณฑล ได้ค่าจ้างครั้งละ 1 แสน 5 หมื่นบาท ถึง 3 แสนบาท ซึ่งล่าสุด เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน นายโด้และทิพ แฟนสาว ไปรับยามาส่ง แต่มาถูกตำรวจสกัดจับได้ก่อน หลังจากนี้ตำรวจจะขยายผลไปยังนายทุน หรือผู้บงการ

ขณะที่ทีมข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบจุดที่ทิ้งยาเสพติดอีกครั้ง ภายในซอยหทัยราษฎร์ 39 พบว่า ปากซอยนี้เป็นโรงเรียน หลังโรงเรียนเป็นวัด แต่พอเลยจากวัดไปราว 1-2 กิโลเมตร จะเป็นทางเข้าไปในที่ดินเปล่า เป็นพื้นที่รกร้าง ไม่มีบ้านเรือนประชาชน และเป็นซอยตัน เจ้าของที่ดินได้ล้อมรั้วลวดหนามไว้ และจ้างคนดูแล

ทีมข่าวพบกับผู้ดูแลพื้นที่ เล่าว่า ช่วงบ่ายวานนี้ เจอชาย 4 คน มาเดินด้อม ๆ มอง ๆ อยู่ในบริเวณจุดที่มียาเสพติดทิ้งอยู่ จึงเข้าไปสอบถาม ถึงรู้ว่าทั้ง 4 คน เป็นตำรวจนอกเครื่องแบบ และด้านหน้าเป็นยาเสพติดที่ถูกซุกซ่อนไว้บริเวณหลังรั้วลวดหนามข้างทาง พอถามว่ารู้ได้ไงตรงนี้มียาเสพติด แต่ก็ไม่มีใครตอบ ก่อนจะขอยืมมีดของเขา เพื่อนำมาตรวจสอบยาเสพติดที่พบ และพบว่าเป็นยาบ้า

พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า ตำรวจรู้ได้อย่างไรว่ายาเสพติดถูกซุกซ่อนอยู่บริเวณดังกล่าว เพราะซอยนี้เป็นซอยตันเข้าออกทางเดียว ไม่มีกล้องวงจรปิด หากรถตู้คนร้ายกำลังถูกตำรวจไล่ล่าจะใจเย็นนำยาเสพติดมาทิ้งหรือ และกระสอบยาเสพติดมีน้ำหนักหลาย 10 กิโลกรัม และต้องโยนข้ามรั้วลวดหนามที่มีความสูงระดับเอว ยกคนเดียว หรือยกกับผู้หญิงไม่น่าจะไหว ที่สำคัญยาเสพติดถูกซ่อนไว้ลับตาคน หากยังจับคนร้ายไม่ได้แล้วรู้ได้อย่างไรว่ายาเสพติดอยู่ที่นี่ แต่ยอมรับว่าจุดนี้เป็นพื้นที่เปลี่ยวไม่มีบ้านคนหรือกล้องวงจรปิด ทำให้มักจะมีกลุ่มค้ายาเสพติดมาใช้เป็นจุดนัดพบเพื่อแลกเปลี่ยนยาเสพติดกัน

และหลังจากทิ้งยาเสพติดที่จุดนี้แล้ว คนร้ายขับรถไปตามถนนและกล้องจับภาพได้อีกครั้งบนถนนราษฎร์อุทิศ ตอนประมาณบ่าย 3 โมง ครั้งนี้จะเห็นว่ามีรถมูลนิธิที่เป็นรถปิกอัพขับนำรถตู้ย้อนศรเข้าไปในซอยราษฎร์อุทิศ 40/0

หลังจากนั้นก็เข้าไปในซอยเพื่อจอดรถตู้ทิ้งไว้ แต่รถตู้ติดหล่มทำให้คนขับต้องลงมาขึ้นรถกระบะแทน ซึ่งในจุดนี้ไม่มีใครยืนยันว่า ในรถตู้มีคนลงมากี่คน จากนั้นไม่ถึง 5 นาทีรถปิกอัพออกมาจากซอยมุ่งหน้าไปทางถนนสุวิทวงศ์แล้วหายไป

และในวันนี้ตำรวจได้เชิญตัวแทนกระทรวงสาธารณสุข ตัวแทนสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) ผู้บังคับการ 9 จังหวัดในกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 และมูลนิธิกู้ภัย 9 จังหวัด มาวางแนวทางจัดระเบียบรถพยาบาลฉุกเฉิน และรถกู้ภัย เนื่องจากมีบางส่วนที่ยังไม่เข้าสู่ระบบการขึ้นทะเบียนกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อย่าง สพฉ. ด้วย

คุณอาจสนใจ

Related News