อาชญากรรม
‘อัจฉริยะ’ หอบหลักฐาน เชื่อ ‘แซน’ โกหกนั่งท้ายเรือ ยันไม่กลัว ‘แม่แตงโม’ หาว่ายุ่ง
โดย nicharee_m
1 เม.ย. 2565
39 views
วันนี้ (1 เม.ย. 65) เมื่อเวลา 10.30 น. นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ เดินทางมาที่กองบังคับการปราบปราม เพื่อนำคลิปหลักฐานกล้องวงจรปิดที่ระบุว่า มีคนบนเรือให้การเท็จ มามอบให้เจ้าหน้าที่ โดยมาพร้อมกับผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปกรรมในการใช้เทคนิคเรื่องแสงและเงา คือ นายวัชรไกรศร เกตุจรัส
นายอัจฉริยะ เปิดเผยว่า หลักฐานชิ้นนี้เป็นหลักฐานคลิปกล้องวงจรปิดจากโกดังสินค้าเอกชน ที่นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ เคยไปขอมาได้ แต่ตอนนั้นคลิปนี้ไม่ได้เป็นที่สนใจ ซึ่งเมื่อตนนำมาให้ผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์เรื่องแสงและเงา ก็พบว่า คลิปนี้เป็นหลักฐานชัดเจนว่า แซน วิศาพัช ให้การเท็จ เพราะไม่ปรากฎว่าแซนนั่งอยู่ที่ท้ายเรือ ในช่วงเวลาที่คาดว่าเป็นตอนที่แตงโมตกเรือไป ตามที่แซนให้การว่า นั่งท้ายเรือนอนหงายเล่นมือถือ แล้วแตงโมเดินมาปัสสาวะ และจับขาตนเอง
โดยในคลิปดังกล่าว ตนได้นำมาให้ผู้เชี่ยวชาญปรับแสงและเงา ดูประกอบกับโครงสร้างเรือ คือส่วนของหลังคาเป็นหลัก ซึ่งทำให้เห็นว่า ในช่วงเวลา 22.32 น. เป็นต้นไป ที่เรือวิ่งผ่านจุดนี้ และใกล้เคียงกับช่วงเวลาที่แตงโมตกเรือ ไม่ปรากฎว่ามีเงาคนนั่งอยู่ที่เบาะท้ายเรือแต่อย่างใด
โดยผู้เชี่ยวชาญได้ดูเงา และวัดสเกลจากหลังคาเรือ เนื่องจากส่วนของหลังคาไปไม่ถึงเบาะท้ายเรือ แต่ปรากฎเงาว่า มีคนนั่งอยู่ที่เบาะด้านข้างเรือฝั่งซ้าย ซึ่งไม่ยืนยันว่าเป็นใคร แต่อาจจะเป็นแซนก็ได้ ที่ย้ายไปนั่ง เพราะเห็นว่าท้ายเรือไม่ปลอดภัยหลัง เกิดการกระตุกของเรือตามข้อมูลเรื่องความเร็วที่บอกว่า วิ่งมา 8 น็อต แล้วลดเหลือ 3.3 น็อต ก่อนจะเร่งขึ้นไปที่ 10 น็อต อย่างกะทันหัน หรืออาจจะเป็นการไปนั่งหลบลมที่อ้างว่าเข้าตาก็ได้
ดังนั้น ตนจึงเชื่อว่าแซนให้การเท็จ และเชื่อว่าแตงโมไม่ได้ตกเรือจากท้ายเรือด้วย เพราะหากแซนไม่ได้นั่งอยู่ท้ายเรือ แตงโมจะจับขาแซนแล้วตกลงไปที่ท้ายเรือได้อย่างไร ประกอบกับเรื่องบาดแผลที่ต้นขาด้านใน ตนได้ใช้หลักวิศวกรรมมาวิเคราะห์ พบว่าเป็นไปไม่ได้ที่เรือกำลังวิ่งด้วยความเร็ว 8 น็อต แล้วคนตกไปด้านท้าย แล้วจะโดนใบพัดหรือฟินเรือฟันขาได้ เพราะเรือวิ่งไปข้างหน้าแล้ว ซึ่งตนยังได้ลองสเก็ตภาพจำลองมาด้วยว่า หากคนตกลงไปจากด้านหัวเรือ จะสามารถถูกดูดเข้าไปใต้ท้องเรือได้
ส่วนสาเหตุที่ตนเดินทางมายื่นหลักฐานกับตำรวจกองปราบฯ เพราะกลัวว่าตำรวจภูธรภาค 1 จะไม่รับหลักฐาน หรือไม่นำไปเข้าสำนวนคดี เลยให้กองปราบฯ เป็นสื่อกลาง ในการรวบรวมพยานหลักฐาน สอบปากคำตน และส่งหลักฐานให้ตำรวจภูธรภาค 1 ต่อไป
ซึ่งแม้ตำรวจจะมีหลักฐานคลิปตัวนี้อยู่แล้ว แต่เชื่อว่า มองไม่เหมือนกันในการวิเคราะห์ด้วยแสงและเงา อย่างไรก็ตาม การที่มาวันนี้ ตนก็ไม่กลัวแม่แตงโมจะหาว่าเข้ามายุ่ง เพราะตนไม่ได้สนใจแม่ แต่สนใจแค่ว่า 'แตงโมต้องไม่ตายฟรี'
นายอัจฉริยะ ระบุด้วยว่า มั่นใจว่าสิ่งที่ทำวันนี้ จะทำให้มีผู้ถูกออกหมายจับเพิ่มเติม ก็คือแซน ในข้อหาให้การเท็จ และจะทำให้คดีนี้ ต้องกลับไปเริ่มนับหนึ่งใหม่ด้วย พร้อมยืนยัน ไม่กลัวจะถูกฟ้อง หากตนพูดไม่จริงก็ให้แซนฟ้องได้เลย โดยตนได้นำหลักฐานอื่นๆ คือ คำพูดจากการไลฟ์สดของแซน และคำพูดที่โบว์ TK แถลงว่าคนบนเรือพูดโกหก มาประกอบด้วย