สะเทือนใจ นายช่างเครียดขับรถชนมอเตอร์ไซค์พ่วงข้าง จูงลูกจุดไฟเผาดับ ตัวเองสาหัส

เกิดเหตุสลด กรณีนายช่างวัย 48 ปีขับรถกระบะไปชนรถจักรยานยนต์พ่วงข้างของยาย - หลานคู่หนึ่ง จนเป็นเหตุให้ยายเสียชีวิต หลาน 5 ขวบอาการสาหัส และตัวนายช่างก็ขับรถหนีกลับมาบ้าน เครียดหาทางออกไม่ได้ คว้าน้ำมัน ไฟแช็ค จุดไฟเผาตัวเองและลูกชายวัย 4 ขวบ เคราะห์ร้ายลูกชายเสียชีวิต ส่วนตัวเองบาดเจ็บสาหัส

ภาพจากกล้องหน้ารถของผู้ก่อเหตุคือ นายทองอายุ 48 ปีอาชีพช่างรับเหมาก่อสร้าง ขับรถมาบนถนนสาย 346 ปทุมธานี - ลาดหลุมแก้ว จากคลิปจะเห็นว่าขับมาด้วยความเร็ว จี้ตูดรถคันหน้าและพยายามหาจังหว่ะแซงซ้าย แซงขวา กระทั่งมาถึงช่วงจุดกลับรถหน้าวัดสุวรรณจิดาราม อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี มีรถจักรยานยนต์พ่วงข้างของนางปราณี โพธิ์ทอง อายุ 54 ปี มากับหลานวัย 5 ขวบ กำลังจอดรอเพื่อกลับรถ

ปรากฏว่ารถของนายทอง ที่ขับมาด้วยความเร็วเบรคไม่ทันชนเข้ากับท้ายรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง ซึ่งชนไม่แรงมาก แต่ทำให้รถจักรยานยนต์พ่วงข้างไถลไปอีกเลนและเป็นจังหวะที่มีรถกระบะ สีบรอนซ์เงินขับมาพอดี จึงประสานงาเข้าอย่างจัง

นางปราณี ยายที่ขับรถจักรยานยนต์พ่วงข้างนนอนแน่นิ่งกับพื้นมีเลือดออกที่ศรีษะ เจ้าหน้าที่พยายามปั๊มหัวใจ เพื่อยื้อชีวิตแต่สุดความสามารถ นางปราณี เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ส่วนหลานชายวัย 5 ขวบ รอดชีวิต มีรถจักรยานยนต์อีกคันที่เห็นเหตุการณ์พาส่งโรงพยาบาล ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น เมื่อเวลา 18.30 น.วันที่ 2 ก.พ.ที่ผ่านมา

และวันเดียวกันหลังเกิดเหตุนายทอง คนที่ขับรถกระบะสีขาว(คันแรก)ที่ชนรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง ไม่ได้ลงมาดูหรือมาช่วยเหลือ แต่ขับรถหนีกลับบ้าน และมาก่อเหตุซ้ำด้วยการนำน้ำมันสนและไฟแช็คจุดไฟเผาตัวเองพร้อมกับน้องพอร์ช ลูกชายวัย 4 ขวบ ภายในรถกระบะคันสีขาวที่ไปชนมา เป็นเหตุให้น้องพอร์ชเสียชีวิตส่วนตัวเองได้รับบาดเจ็บสาหัส

ล่าสุดคุณนฤชา กมุทโยธิน ผู้สื่อข่าวเที่ยงวันทันเหตุการณ์ ลงไปที่เกิดเหตุ ภายในซอยเรณูอุทิศ ซึ่งยังมีร่องรอยเศษเบาะรถยนต์ที่ถูกเผา, ไฟแช็คที่นายทอง ใช้จุดไฟเผา และรองเท้าของ น้องพอร์ช ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ โดยนางสาวจินิน เจ้าของห้องเช่าที่นายทองและน้องพอร์ชอาศัยอยู่ บอกว่าหลังจากนายทองขับรถชนคนตายก็กลับมาที่บ้าน ซึ่งตอนนั้นยังไม่มีใครทราบ ว่านายทองขับรถชนคนตาย

นายทองมาถึงก็ถามหาน้องพอร์ช ซึ่งกำลังเล่นอยู่กับเพื่อนในซอย จากนั้นในทองจูงมือน้องพอร์ชขึ้นรถกระบะ คันที่เกิดเหตุและขับวนอยู่ในซอย 2 รอบ แล้วจอดเอาน้ำมันสนที่บ้านพี่สาวและก็ขับกลับมาจอดตรงที่เกิดเหตุ โดยให้น้องพอร์ชนั่งรออยู่ที่รถ ส่วนตัวนายทองเดินมาหานางสาวจินิน (เจ้าของห้องเช่า) เพื่อขอซื้อไฟแช็ค ซึ่งก็ไม่มีใครคาดคิดว่าจะนำไปก่อเหตุจึดไฟเผาตัวเองและลูก

ซึ่งจุดที่นายทองจุดไฟเผา บริเวณนี้มีกล้องวงจรปิดของห้องเช่าหลายตัวที่คาดว่าเห็นภาพขณะเกิดเหตุ แต่ด้วยความที่ทุกคนในซอยยังอยู่ในอาการเสียใจ ช็อคกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะ ทุกคนรักและเอ็นดูน้องพอร์ช ซึ่งทางเจ้าของห้องเช่าจึงขอ ไม่เปิดภาพกล้องวงจรปิด กลัวรับไม่ได้กับภาพที่สะเทือนใจ

โดยระหว่างที่ทีมข่าวเราลงพื้นที่ เป็นจังหวะที่แม่ของน้องพอร์ช ซึ่งเป็นชาวเมียนมาร์ โทรศัพท์เข้ามาพอดี ซึ่งเธอยังช็อคและเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่เช่นกัน โดยฝากให้นางสาวจินิน เจ้าของห้องเช่าเป็นธุระจัดการเรื่องศพน้องพอร์ชให้ด้วย

สำหรับนายทองมีภรรยา 2 คน ภรรยาเก่าเป็นคนไทยมีลูกด้วยกัน 4 คน ส่วนภรรยาใหม่เป็นชาวเมียนมาร์ มีลูกด้วยกัน 2 คน ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ น้องพอร์ช วัย 4 ขวบที่เสียชีวิต สาเหตุคาดว่ามาจากความเครียดเนื่องจากนายทองเพิ่งเลิกกับเมียใหม่ที่เป็นชาวเมียนมาร์ แม่ของน้องพอร์ช ซึ่งแม่ของน้องพอร์ช ย้ายกลับไปอยู่บ้านที่ประเทศเมียนมาร์พร้อมกับลูกสาวคนโต

นายออย ลูกชายคนโตของนายทองกับภรรยาคนแรก บอกว่า ทุกคนในครอบครัวก็รักและเอ็นดูน้องพอร์ชมาก ซึงคาดว่าพ่อน่าจะเครียดเรื่องงาน และเรื่องที่นางเพ็ญ ภรรยาใหม่ย้ายกลับไปอยู่เมียนมาร์ และวันนี้เตรียมเอกสารเพื่อไปรับศพน้องพอร์ชมาบำเพ็ญกุศลที่วัด