นาทีชีวิต ช่วยหญิงไลฟ์ระบายความในใจ พยายามโดดสะพานข้ามแม่น้ำบางปะกง

นาทีชีวิตหญิงวัย 32 ไลฟ์หวังจะกระโดดสะพานข้ามแม่น้ำบางปะกง โชคดีที่เพื่อนมาเจอทัน ในจังหวะที่หญิงคนดังกล่าวปีนขอบราวเหล็กหวังกระโดดน้ำ จึงพูดจาเกลี่ยกล่อมจนยอมลงมา แต่มือก็ยังกำราวเหล็กไว้แน่น กู้ภัยฉะเชิงเทราต้องยืนบล็อคซ้ายขวากลัวจะคิดเปลี่ยนใจ สุดท้ายตำรวจเดินทางมาจึงยอมหันกลับเข้ามา เดินทางกลับไปหาแม่

มีคลิปหญิงไลฟ์บรรยายความในใจ ที่รู้สึกเครียด ไม่อยากมีชีวิตอยู่และสงสารแม่ โดยมีความยาวในการไลฟ์ครั้งนี้กว่า 1ชั่วโมง 14 นาที ทำให้บรรดาเพี่อนๆ ที่รู้จักได้ขี่รถออกตามหา กระทั่งถึงช่วงเวลาที่หญิงคนดังกล่าวกำลังจะตัดสินใจกระโดดลงแม่น้ำบางปะกง มีเพื่อนของหญิงตนดังกล่าวขี่รถมาทันพอดี จึงได้พูดจาเกลี่ยกล่อมก่อนหญิงคนดังกล่าวจะลงมาจากขอบราวสะพาน

ต่อมาเมื่อเวลา 19.50 น.  ( 07 พ.ค. 65 ) พ.ต.ต.ชูชาติ ยอดวงศ์ทอง สวป.สภ.เมืองฉะเชิงเทรา รับแจ้งเหตุมีหญิงกำลังจะกระโดดสะพานข้ามแม่น้ำบางปะกง บนสะพานเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา ถ.มหาจักรพรรดิตัดถนนสุขประยูร ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา จึงนำกำลังสายตรวจ สภ.เมืองฉะเชิงเทราเข้าตรวจสอบ

เมื่อไปถึงพบหญิงคนดังกล่าวอยู่บริเวณกลางสะพานข้ามแม่น้ำ มีเจ้าหน้าที่กู้ภัยฉะเชิงเทรา และน.ส.มาริสา แตงน้อย อายุ 22 ปี เพื่อนรุ่นน้องของหญิงคนดังกล่าว ที่ตามมาช่วยไว้ได้ทันขณะที่หญิงคนดังกล่าว กำลังจะกระโดดสะพานข้ามแม่น้ำบางปะกง ทราบชื่อหญิงคนดังกล่าวคือ น.ส.สุมาลี อายุ 32 ปี หรือเฟิร์น

โดยก่อนหน้านี้ เพื่อนและเจ้าหน้าที่กู้ภัยฉะเชิงเทรา พยายามให้ น.ส.สุมาลี ได้ระบายความในใจออกมา โดยหญิงคนกล่าว ได้พูดออกมาเพียงว่าไม่อยากอยู่เป็นภาระแม่ สงสารแม่ แต่ก็ยังไม่ยอมกลับเข้ามา มือยังคงยึดเหล็กขอบราวสะพานไว้

ซึ่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยฉะเชิงเทรา ได้ยืนบล็อกซ้ายขวา ป้องกันหญิงคนดังกล่าวอาจจะกระโดดสะพานอีกครั้ง จนเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางมาถึง ได้พูดคุยสอบถาม จนหญิงคนดังกล่าวยอมหันกลับมา เป็นจังหวะที่มีเพื่อนของแม่ผู้ก่อเหตุ เดินทางมาถึง จึงได้รับตัวกลับไปหาแม่ที่บ้านพัก ในตำบลเกาะไร่ อำเภอบ้านโพธิ์ ฉะเชิงเทรา

น.ส.มาริสา เพื่อนผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า น.ส.สุมาลี ได้ไลฟ์ในเฟซบุ๊ก ตั้งแต่ช่วงเย็นที่ผ่านมา ตนเองเห็นจึงบอกพ่อคือนายขวัญชัย ว่า น.ส.สุมาลี กำลังจะคิดสั้นฆ่าตัวตายกระโดดสะพานข้ามแม่น้ำ แต่ตอนนั้นไม่รู้ว่าเป็นสะพานไหน รู้เพียงว่าเป็นสะพานข้ามแม่น้ำ จึงแยกย้ายกับพ่อมาคนละทาง

โดยตนเองมาดูสะพานข้ามแม่น้ำบางปะกงที่อำเภอบ้านโพธิ์ ส่วนพ่อไปดูสะพานข้ามแม่น้ำที่มอเตอร์เวย์ และสะพานเทพหัสดิน อำเภอบางปะกง เมื่อตนเองไม่เจอจึงรีบขี่รถจักรยานยนต์มาที่สะพานเฉลิมพระเกียรติฯ ในตัวอำเภอเมืองฉะเชิงเทรา และพบว่า น.ส.สุมาลี กำลังจะกระโดดน้ำ จึงได้พูดจาเกลี่ยกล่อมจนพี่เฟริน์ยอมลงมา

ขณะที่นายขวัญชัย เปิดเผยว่า ตนเองกับแม่ของ น.ส.สุมาลี ได้ทำงานโรงงานเดียวกัน ก่อนที่แม่ของ น.ส.สุมาลี จะมาขอร้องให้ตนและลูกสาวช่วยออกมาตามหา หลังทราบเรื่องความดันขึ้นไม่สามารถเดินทางมาได้ โชคดีที่พบยังไม่ได้กระโดดลงแม่น้ำไป ซึ่ง น.ส.สุมาลี เป็นโรคซึมเศร้า และไมเกรน ซึ่งจากนี้คงต้องให้ผู้เป็นแม่ดูแลอาการของลูกสาวอย่างใกล้ชิด